กรมการค้าต่างประเทศเฝ้าระวัง แอบอ้างสินค้าไทยส่งออกสหรัฐ-อียูเลี่ยงภาษี

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กรมการค้าต่างประเทศเฝ้าระวัง แอบอ้างสินค้าไทยส่งออกสหรัฐ-อียูเลี่ยงภาษี

Date Time: 2 ต.ค. 2563 09:38 น.

Summary

  • กรมการค้าต่างประเทศ เผยตรวจสอบโรงงาน 14 ราย จาก 6 กลุ่มสินค้า รวม 222 รายการ ที่เฝ้าระวัง และส่อผู้ส่งออกอ้างว่าเป็นสินค้าไทยแล้วส่งออกไปประเทศที่ 3

Latest

ฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ ความสูญเสีย-ความใฝ่รู้-สู้ชีวิต คือคัมภีร์สู่ความสำเร็จของธุรกิจไอศกรีมผลไม้

กรมการค้าต่างประเทศ เผยตรวจสอบโรงงาน 14 ราย จาก 6 กลุ่มสินค้า รวม 222 รายการ ที่เฝ้าระวัง และส่อผู้ส่งออกอ้างว่าเป็นสินค้าไทยแล้วส่งออกไปประเทศที่ 3 เพื่อหวังใช้สิทธิเอฟทีเอ-จีเอสพี-หนีขึ้นภาษีเทรดวอร์ และภาษีเอดี/ซีวีดี พบ 3 สินค้า คือ น้ำผึ้ง สปริงในฟูกและอะลูมิเนียมฟอยล์ อ้างผลิตในไทยส่งออกไปสหรัฐฯ-อียู ยันประเทศผู้นำเข้าลงโทษหนัก ขณะที่กรมจะไม่ออกใบซี/โอ ให้เดินหน้าลุยเฝ้าระวังต่อเนื่อง

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ตรวจสอบการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อการส่งออกอย่างเข้มงวด หลังจากกรมทราบเบาะแส จากหน่วยงานศุลกากรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่ได้ประสานขอความร่วมมือมา ซึ่งพบว่ามีสินค้าจากต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะจีน นำเข้ามาไทยแล้ว แอบอ้างว่าเป็นสินค้าไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ และอียู เพื่อหวังหลบเลี่ยงการถูกสหรัฐฯ และอียูใช้มาตรการทางการค้า เช่น เรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น

โดยได้ติดตามและตรวจสอบสถิติการค้าสำหรับสินค้าเฝ้าระวัง 6 กลุ่ม จำนวน 222 รายการอย่างใกล้ชิด ได้แก่ 1.เครื่องจักรไฟฟ้า 2.เครื่องจักรกล 3.เฟอร์นิเจอร์ 4.พลาสติก 5.ยานยนต์ และ 6.สินค้าไม้และของที่ทำด้วยไม้ ซึ่งเป็นสินค้าภายใต้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หรือสินค้าที่สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน และสินค้าที่สหรัฐฯและอียูขึ้นภาษีจากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (เอดี/ซีวีดี)

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบโรงงานผลิต 14 รายการ จากผู้ประกอบการ 19 ราย ซึ่งพบ 3 สินค้า คือ น้ำผึ้ง สปริงในฟูก แอบอ้างเป็นสินค้าไทยเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ และอะลูมิเนียมฟอยล์ แอบอ้างเป็นสินค้าไทยส่งออกไปอียู ซึ่งประเทศผู้นำเข้าได้ขึ้นบัญชีดำผู้ส่งออกที่แอบอ้างแหล่งกำเนิดไทย และเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มพร้อมค่าปรับจากผู้นำเข้าแล้ว ส่วนกฎหมายของกรมไม่มีบทลงโทษ แต่กรมจะไม่ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (ซี/โอ) ให้ และเพิ่มความเข้มงวดออกซี/โอด้วย

“ที่ตรวจพบ มีการแอบอ้างหลายรูปแบบ ทั้งเอาเข้ามาดัดแปลงเพียงเล็กน้อย ล้าง เช็ด เคลือบสี เปลี่ยนแพ็กเกจ ติดสติกเกอร์ ไม่ได้มีการผลิตเพิ่มเติม หรือใช้สัดส่วนวัตถุดิบที่นำเข้ามากกว่าวัตถุดิบในไทย แล้วเอามาบอกว่าเป็นสินค้าไทย ให้กรมออกใบซี/โอให้ เพื่อให้ได้สิทธิพิเศษทางการค้า อย่างน้ำผึ้ง ปกติไทยส่งน้ำผึ้งแท้ 100% ไปสหรัฐฯ แต่รายที่เจอ เอาไซรัปจากจีนมาผสม หรือสปริงในฟูก ก็เอาสปริงจากจีนมาใส่ ไม่ได้ใช้ของไทย หรืออะลูมิเนียมฟอยล์ ก็แค่เอามารีดให้บางลง แล้วตัด ซึ่งแปรสภาพเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอที่จะได้ถิ่นกำเนิดสินค้า พอส่งออกไป ก็ถูกผู้นำเข้าแจ้งมา กรมก็ไปตรวจ และจะเฝ้าระวังบริษัทพวกนี้อย่างเข้มงวดต่อไป เพราะถ้ายังมีปัญหาต่อเนื่อง ก็อาจจะถูกประเทศคู่ค้าแบนสินค้าไทยทั้งประเทศได้”

สำหรับการแอบอ้างเป็นสินค้าไทยเพื่อส่งออก มีหลายกรณี ทั้งการแอบอ้างเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ที่ไทยได้รับภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของไทยกับประเทศคู่เอฟทีเอ แต่ประเทศของผู้แอบอ้างไม่ได้เป็นคู่เอฟทีเอด้วย และสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี), การแอบอ้างเพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษีจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่สหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นกว่า 12,000 รายการ รวมถึงหลีกเลี่ยงการชำระภาษี เพราะถูกใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า เช่น การเก็บภาษีเอดี/ซีวีดี อีก 344 รายการ จึงมาแอบอ้างเป็นสินค้าไทยเพื่อส่งออก เพราะไทยไม่ถูกเก็บภาษีเอดี/ซีวีดี หรือบางสินค้าไม่ถูกเก็บภาษีจากสงครามทางการค้า

นายกีรติ กล่าวต่อว่า กรมจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยแจ้งรายการสินค้าเฝ้าระวังให้แก่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทย เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการออกใบซี/โอ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานศุลกากรของประเทศผู้นำเข้า ทั้งสหรัฐฯ อียู เยอรมนี ฯลฯ ตรวจสอบสินค้าที่ส่งออกไปประเทศดังกล่าว

โดยในช่วง 9 เดือนปีนี้ ไทยสามารถส่งออกสินค้ากลุ่มเฝ้าระวังได้มูลค่ากว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า จากการทำงานเชิงรุกในการป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือและความมั่นใจจากประเทศคู่ค้าว่าสินค้าที่ส่งออกมาจากไทยเป็นสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดไทยจริง รวมทั้งไม่มีการปลอมแปลงใบซี/โอ ซึ่งส่งผลให้ส่งออกสินค้ากลุ่มเฝ้าระวังได้มากขึ้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ