คาบลูกคาบดอก : เศรษฐกิจไทยลูกผีลูกคน

ตามที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงตัวเลขฐานะทางการคลังตามระบบกระแสเงินสดเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2563...รัฐบาลมีรายได้เข้าคลัง ทั้งสิ้น 255,924 ล้านบาท ในขณะที่มี การเบิกจ่ายงบประมาณ ไปทั้งสิ้น 368,209 ล้านบาท รายรับยังไม่พอกับรายจ่ายอยู่ดี

ส่งผลให้เงินคงคลังถึงสิ้นเดือน ต.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 385,292 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาลสูงกว่าประมาณการอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 โดยการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการถึง 5,548 ล้านบาท และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ 2,415 ล้านบาท หรือร้อยละ 2

ส่วนรายได้จาก การส่งออกยังติดลบ อย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ร้อยละ 4.5 การนำเข้าก็ติดลบ ที่ร้อยละ 7.6 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อมาดูตัวเลข การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปีนี้ที่คาดว่าจะโตประมาณร้อยละ 2.8 เท่านั้น

ภาคอุตสาหกรรม ยังชะลอตัวติดลบที่ร้อยละ 8.5 อัตราเงินเฟ้อ ทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1 ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด สัดส่วนหนี้สาธารณะ อยู่ที่ร้อยละ 41.1 ของมูลค่าจีดีพี

ปัญหาใหญ่ของนักลงทุนหนีไม่พ้นเรื่องของ ค่าเงินบาท ที่มีการคาดการณ์จากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจหลายสำนักว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ อาจไปแตะที่ 29 บาทต่อดอลลาร์ด้วยซ้ำ

การวิพากษ์วิจารณ์ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ เกาไม่ถูกที่คัน มุ่งแต่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า ปัญหาในระยะยาว และ การไม่กล้าตัดสินใจของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาค่าเงินบาท ดูจะกลายเป็นความกังวลของ ทีมเศรษฐกิจ โดยต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความชัดเจนในการมอบหมาย โครงการเมกะโปรเจกต์ใหญ่ ที่มีมูลค่าเป็นแสนล้าน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ

และอาจนำไปสู่การปรับ ครม.และรอยร้าวในรัฐบาลชุดนี้

สิ่งที่รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ รมว.คลัง อุตตม สาวนายน พูดถูก ก็คือ ประเทศไทยกำลังเป็นคนป่วย ที่ต้องการการเยียวยา แต่การปิดกิจการ การเลิกจ้าง ของธุรกิจภาคต่างๆก็ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบว่ามีบริษัทที่จดทะเบียนใหม่จำนวนมาก

เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการโยนปัญหา

หรือการที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ออกมาตั้งข้อสังเกตใน การสมยอมของภาครัฐ ที่จะเอื้อประโยชน์กับเอกชน ในด้านการสัมปทานจากรัฐ ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่เป็น ฐานรากของประเทศ คือสัดส่วนของประชากรที่ยัง รวยกระจุกจนกระจาย จาก จำนวนของประชากร กว่า 70 ล้านคน มี คนไทยประมาณ 69 ล้านคน ที่มีเงินฝากเฉลี่ย 6 พันกว่าบาท มีเศรษฐี ประมาณ 900 กว่าคนมีเงินฝากเป็นพันล้าน

ประเทศไทยอยู่ในช่วงขาลงและถูกเพ่งเล็งว่ากำลังเข้าสู่ภาวะจำยอมที่จะเลือกข้างในบรรยากาศสงครามการค้า โดยเฉพาะข้อตกลงต่างๆกับจีน ที่ยากจะปฏิเสธการถูกครอบงำทางเศรษฐกิจจากจีน

ในสถานการณ์ที่ทีมเศรษฐกิจงัดข้อกันเองอีกระลอก.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th