สั่งเดินหน้า “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สั่งเดินหน้า “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2

Date Time: 1 ต.ค. 2562 08:45 น.

Summary

  • “สมคิด” สั่งคลังศึกษาความเป็นไปได้ขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” หลังชาวบ้านและผู้ประกอบการเรียกร้อง ขณะที่ “ลวรณ” ย้ำอยากประเมินผลมาตรการเฟสแรกก่อนเดินหน้าเฟส 2 ชี้ 3 วันแรก

Latest

"มีนา อัครพงศ์พิศักดิ์" กับภารกิจท้าทายเจน 3 นำ "เซียงเพียว-เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์" สู่ตลาดโลก

หลังประชาชน-ผู้ประกอบการเรียกร้องหนัก

“สมคิด” สั่งคลังศึกษาความเป็นไปได้ขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” หลังชาวบ้านและผู้ประกอบการเรียกร้อง ขณะที่ “ลวรณ” ย้ำอยากประเมินผลมาตรการเฟสแรกก่อนเดินหน้าเฟส 2 ชี้ 3 วันแรก คนใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าแล้ว 370,523 ราย ยอดใช้จ่ายรวม 294 ล้านบาท ด้านภาคเอกชนท่องเที่ยวเชียร์สุดลิ่ม

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังศึกษาความเป็นไปได้ขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ทั้งจำนวนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจากเดิมไม่เกิน 10 ล้านคน และวงเงินที่นำมาใช้ที่กำหนดไม่เกิน 19,000 ล้านบาท เพราะประชาชนจำนวนมากสนใจ ประกอบกับเดือน ต.ค.-พ.ย. ใกล้เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว กระทรวงการคลังจึงควรศึกษาว่าขยายโครงการได้หรือไม่ และใช้งบส่วนใดมาดำเนินการ “คนสนใจมาตรการนี้มาก ต้องการให้มีเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับคลังว่าจะตัดสินใจอย่างไร และใช้งบส่วนใด”

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สศค.ยังไม่ได้รับมอบนโยบายขยายมาตรการจากฝ่ายบริหาร จึงยังยึดเป้าหมายเดิมคือ ประชาชน 10 ล้านรายก่อน และต้องการประเมินผลโครงการในระยะแรกก่อน จึงจะพิจารณาเดินหน้าระยะที่ 2 (เฟส 2) อย่างไรก็ตาม ช่วง 8 วันแรกของการลงทะเบียน หรือตั้งแต่วันที่ 23-30 ก.ย.62 มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เต็ม 1 ล้านรายทุกวัน แต่มีผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จ 200,000 รายต่อวัน เพราะข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองหรือกรอกข้อมูลผิด ทั้งนี้ผู้ลงทะเบียนจะได้รับ SMS หรือ E-mail ตอบกลับใน 3 วันทำการว่าได้รับสิทธิ์หรือไม่ หากไม่ได้รับสิทธิ์ลงทะเบียนในวันถัดไปได้

ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23-26 ก.ย.62 ทั้งหมด 4 ล้านรายนั้น มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 27-29 ก.ย.62 โดยใช้สิทธิ์ในกระเป๋าเงินในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ช่องที่ 1 จำนวนเงิน 1,000 บาท และกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ซึ่งให้ประชาชนเติมเงินเข้ามาและจะได้รับเงินคืน 15% ของยอดใช้จ่ายแล้ว 370,523 ราย ยอดใช้จ่าย 294 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 15 พ.ย.62 หรือจนกว่าจะครบ 10 ล้านราย

“ระบบการชำระเงินระหว่างแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง” ไม่ได้ล่มอย่างที่เป็นข่าว ส่วนกรณีข่าวห้างค้าปลีกขนาดใหญ่มีคนทิ้งรถเข็นที่มีสินค้าไว้เต็มร้าน เพราะไม่สามารถชำระเงินได้นั้นถือเป็นความรับผิดชอบของร้านค้า โดยร้านค้าใดจะถอนตัวออกจากโครงการแจ้งได้ที่ธนาคารกรุงไทย ส่วนร้านค้าไม่ได้รับเงินผ่านแอปฯถุงเงินหลังรับชำระเงินนั้น ชี้แจงว่ารัฐบาลจะโอนเงินเข้าแอปฯถุงเงิน ช่องที่ 1 เข้าบัญชีของร้านค้าไม่เกินเวลา 21.00 น.ของวันถัดไป ส่วนช่อง 2 จะโอนเงินเข้าบัญชีร้านค้าวันถัดไป ไม่เกินเวลา 06.30 น. ไม่ต้องกังวล หากเงินไม่เข้าทันที”

ขณะที่นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า การใส่เงินลงไปในกระเป๋าช่อง 2 จะลงสู่ภาคท่องเที่ยวได้ ถ้าประชาชนใช้เงินเพิ่มเติม นอกเหนือจาก 1,000 บาทที่รัฐให้ ซึ่งจะได้เงินคืน 15% สูงสุด 4,500 บาท จากการใช้ 30,000 บาท ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ภายหลังจากรัฐบาลลงพื้นที่สำรวจมาตรการนี้ที่ตลาดน้ำดอนหวาย โดยมีความตอนหนึ่งว่า ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยมีผลตอบรับดี โดยนำเงินที่ได้รับจากแอปฯเป๋าตังมาใช้คึกคัก ด้านผู้ประกอบการยินดีที่รัฐบาลมีมาตรการดังกล่าว และอยากให้ขยายระยะเวลาเพิ่มขึ้น ส่วนจะขยายมาตรการหรือไม่จะต้องมีการศึกษาและประเมินผลของมาตรการในระยะแรกก่อน.

อ่านข่าว "ชิมช้อปใช้"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ