นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เปิดเผยว่า วันที่ 4 ต.ค.นี้จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปภาวะเศรษฐกิจล่าสุด และรายงาน ครม.เศรษฐกิจ วันที่ 7 ต.ค.นี้ แต่การประชุมคณะอนุกรรมการติดตามภาวะเศรษฐกิจล่าสุดเห็นว่าเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่คาด เพราะส่งออกยังไม่ฟื้นตัว และเศรษฐกิจเดือน ก.ค.62 ไม่ดี ไตรมาส 3 ต้องประเมินอีกว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวมากน้อยเพียงใด ถ้าชะลอมากต้องหารือว่าจะมีมาตรการใดกระตุ้นเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ยังขยายตัวได้ 3%
ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาประจำปี 2562 ของ ธปท.ในหัวข้อ “พลิกโฉมเศรษฐกิจ พิชิตการแข่งขัน” ว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงที่มีปัญหาเชิงโครงสร้างและการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่สร้างโอกาสและบั่นทอนธุรกิจ จึงต้องเพิ่มการแข่งขันของธุรกิจและประเทศอย่างจริงจัง ไม่ต้องการให้ภาคธุรกิจมองถึงความช่วยเหลือระยะสั้นจากภาครัฐ เช่น การให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือการทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า เพราะไม่ได้ช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ธปท.คาดว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัว 2.8% ต่ำกว่าศักยภาพที่จะเติบโตได้ เพราะผลกระทบของการกีดกันการค้า และสงครามการค้า ซึ่งกระทบต่อการส่งออกทำให้เอกชนชะลอลงทุนและลดจ้างงานจนคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ยืนยันว่าแม้ไทยโตต่ำกว่าศักยภาพ แต่ยังไม่เข้าสู่วิกฤติ “ประมาณการเศรษฐกิจไทยที่ 2.8% รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐไว้แล้ว ยอมรับว่ามาตรการกระตุ้นทำให้การใช้จ่ายประชาชนไม่ลดลง ธปท.ไม่ได้ลดประมาณการส่วนนี้ แต่ปรับลดการส่งออก ลงทุนภาครัฐ และลงทุนเอกชน”.