ดันสุดตัว! ร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเดินทางเยือนจีนของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและคณะระหว่างวันที่ 3-7 พ.ย.นี้ จะได้ลงนามในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน จำนวน 6 เรื่อง เป็นผลมาจากการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-จีนเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีความเห็นร่วมกันให้ยกระดับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ครอบคลุมประเด็นการดำเนินงานของกระทรวงเศรษฐกิจต่างๆ ได้แก่ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดิจิทัล การท่องเที่ยว และการเงิน

ทั้งนี้ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ทั้ง 6 เรื่องได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว ประกอบด้วย 1.ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน โดยสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร อาหารเพื่ออนาคต หุ่นยนต์ การบิน และโลจิสติกส์ 2.ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ภายใต้คณะกรรมการการร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และขยายความเป็นหุ้นส่วนกับจีนผ่านเมืองนวัตกรรมอาหารในไทย

3.ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและแลกเปลี่ยนการบริการด้านซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านดิจิทัล รวมทั้งจัดตั้งคณะทำงานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกัน 4.ด้านความร่วมมือทางด้านการเงิน ส่งเสริมการใช้เงินหยวนและเงินบาทในการชำระเงินสำหรับการค้าและการลงทุน ขยายความร่วมมือในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านการเงิน โดยใช้นวัตกรรมทางการเงิน 5.ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เน้นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ และ 6.ความร่วมมือด้านการค้า และเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือระดับมณฑลระหว่างไทยกับจีนที่มีอยู่เดิม สนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาคความร่วมมือภายใต้เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูงเจียง พื้นที่บริเวณกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และความร่วมมือระหว่างประเทศ ลุ่มแม่น้ำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง.