หวั่นมะกันคว่ำบาตรอิหร่าน น้ำมันโลกพุ่ง!! แตะใกล้ 100 เหรียญ ดีเซล ราคาขยับแน่ พลังงาน จ่อควักเงินกองทุนน้ำมันฯเพิ่ม หนุนขายปลีกไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มเติม เพื่อรักษาระดับราคาไม่เกิน 30 บาท/ลิตร หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่กว่า 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ ดูไบ อยู่ที่เกือบ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ระดับต่ำเพียง 1.12 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญสากลมีความกังวลถึงการที่สหรัฐฯใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในวันที่ 4 พ.ย.นี้ อาจทำให้หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าและหลังของวันที่ 4 พ.ย.นี้ ราคาน้ำมันจะมีความอ่อนไหวมาก หากน้ำมันดิบปรับขึ้นมาที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซลบ้าง ซึ่งจะต้องชี้แจงและทำความเข้าใจต่อสังคม โดยทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลแต่อย่างใด เนื่องจากกองทุนน้ำมันยังมีเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท ส่วนราคาเอ็นจีวี ขยับขึ้นมาอยู่ระดับเกิน 15 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจะเน้นดูแลราคาดีเซลก่อน
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 30 ก.ย. 61 มีทั้งสิ้น 25,142 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีน้ำมัน 29,213 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ติดลบ 4,071 ล้านบาท โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อดูแลราคาขายปลีก ไม่เกิน 363 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม โดยให้กรอบบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว ติดลบไม่เกิน 7,000 ล้านบาท และมีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท เพื่อดูแลราคาขายปลีกดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร โดยใช้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไปแล้ว 60 สตางค์/ลิตร ภายใต้กรอบที่กบง.อนุมัติไว้ไม่เกิน 1 บาท/ลิตร หรือวงเงินรวม 6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ใกล้ถึงกรอบที่กำหนดแล้ว โดยกำลังพิจารณาว่าจะใช้เงินกองทุนฯ เสริมเข้าไปอีกหรือไม่ เพื่อไม่ให้ค่าการตลาดต่ำเกินไป.