สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ ชูเศรษฐกิจฐานชีวภาพ หนุนใช้ทรัพยากรธรรมชาติสู่กระบวนการผลิต เสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี-นวัตกรรม...
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในพิธีเปิดงาน “Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio-Economy” ซึ่งจัดโดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีแผนที่นำทางในการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ในการสร้างชาติ สร้างความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ด้วยนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยมุ่งเน้นเศรษฐกิจที่เป็นลักษณะ value-based economy ซึ่งเห็นว่าเศรษฐกิจฐานชีวภาพนั้นมีความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยมีฐานการผลิตเป็น Bio-based โดยจะเกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเข้ามาสู่กระบวนการผลิตเป็นหลัก ทั้งจากสินค้า หรืออุตสาหกรรมด้านต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมของไทยที่เป็น SMEs ล้วนมีการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่มาจากพื้นดิน ในท้องทะเล แหล่งน้ำจืดต่างๆ หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ อย่างเช่น จุลินทรีย์ สามารถนำมาสร้างคุณค่าในทางอุตสาหกรรมได้เช่นกัน จึงต้องใช้วัตถุดิบเหล่านี้มาผลิตเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตามทรัพยากรเหล่านี้มีวันหมดไป ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องหาทางแก้ปัญหาและส่งเสริมการทดลอง ค้นคว้า วิจัยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือส่งเสริม SMEs ของไทยที่มีโครงสร้างการผลิตเน้นที่ Bio-based ให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาตินั้นๆ ได้อย่างยั่งยืน หรือมีสิ่งที่จะนำมาใช้ทดแทนกัน แปลงโฉมการผลิตให้เกิดการสร้างนวัตกรรมด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าในตลาด สร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตด้านเกษตรและอาหารของไทย
ขณะเดียวกันเรื่องของพลังงาน ซึ่งมีความสำคัญจะต้องให้การส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกเช่นกันและต้องสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ซึ่งความรู้ที่ได้จากเวทีนี้จะนำไปสู่การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม หรือกำหนดยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวกับ Bio-Economy ทางด้านอาหารการเกษตรแห่งอนาคตร่วมกัน ประสานพลังร่วมกันก้าวเดิน เพื่อสร้างระบบนิเวศหรือ ecosystems ที่สอดคล้องเหมาะสมกับประเทศ ให้มีความมั่นคง ทำให้ SMEs ด้านอาหารและการเกษตรของไทย เกิดการแปลงรูปก้าวไปสู่การสร้างนวัตกรรม ทำให้ศักยภาพในการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมของประเทศมีความเข้มแข็ง อันเนื่องมาจากความร่วมมือในหลายๆ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ SMEs มีพลัง เกิดการลงทุนด้านนวัตกรรมในอนาคตข้างหน้าที่ตอบโจทย์ของประเทศได้ และตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ
ด้านนายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมจัดงาน กล่าวว่า การพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยสร้างความแตกต่าง และช่วยให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้วิธีการใช้ทรัพยากรและผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าว ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการของไทยในระดับ SME และวิสาหกิจชุมชนต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเติบโตและยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารให้แก่ผู้ประกอบการและชุมชนทั่วประเทศ จึงได้จัดงานสัมมนาและนิทรรศการ ดังกล่าว ระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย. 2561 ณ ห้องบอลรูม A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อนำนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเปิดเวทีในการนำงานวิจัยพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการให้บริการอุตสาหกรรมมาเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ ด้วยระบบเศรษฐกิจกระแสใหม่
ทั้งนี้ได้เลือกด้านเศรษฐกิจฐานชีวภาพ มาพัฒนาผู้ประกอบการไทย ให้เกิดความแข็งแกร่งทั้งเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ด้านเกษตรและอาหารของไทย ให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติ และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายทิศทางการดำเนินงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ ในปัจจุบันให้สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศในการสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมต่อไป.