พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางในการพัฒนาการประมงของประเทศไทยให้ปลอดจากสัตว์น้ำและสินค้าประมงจากการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือไอยูยู ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติชว่าด้วยการประมงปลอดจากสัตว์น้ำและสินค้าประมงจากการทำประมงผิดกฎหมายด้วย
สำหรับแนวทางการพัฒนาการประมงของประเทศให้ปลอดจากสัตว์น้ำและสินค้าประมงไอยูยู มี 4 ด้าน ได้แก่ 1.เรือประมงของไทยทั้งระบบจะต้องถูกกฎหมายและมีระบบการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ 2.ผู้ปฏิบัติงานบนเรือประมงไทยจะต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนดทั้งคุณสมบัติและจำนวน 3.เครื่องมือทำการประมงถูกกฎหมาย และ 4.พื้นที่ทำการประมง และระยะเวลาในการทำประมงมีความถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ยังได้กำหนดระเบียบในการปฏิบัติไว้ 2 ประการคือ 1.เรือประมงที่ติดธงไทย เวลานำปลาที่จับได้มาขึ้นที่ท่าเรือจะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ทั้งการรายงานเข้าและออกจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (ปีโป้) ระบบการติดตามเรือประมง ระบบการควบคุมการนำสัตว์น้ำขึ้นท่าเรือ เป็นต้น และ 2.สัตว์น้ำและสินค้าประมงที่นำเข้าจากต่างประเทศ จะมีข้อปฏิบัติกำหนดให้รัฐที่เป็นเจ้าของท่าต้องกำกับดูแลเรือสัญชาติต่างๆให้เป็นไปตามกฎกติกาของรัฐเจ้าของท่า
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า จะยกระดับการทำประมงในประเทศของไทยให้ไม่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น แต่จะต้องเชื่อมโยงกับต่างประเทศที่จะนำสินค้ามาขึ้นที่ท่าเรือประเทศไทยด้วย โดยจะทำใบอนุญาตส่งไปที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ให้ความเห็นชอบ ก่อนจะเสนอไปยังประเทศต่างๆ เพื่อให้เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกัน ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี.