นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องการค้าและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้สมาชิกหลายประเทศในองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือและแสดงความกังวลว่า มาตรการต่างๆ ที่สหรัฐฯนำมาใช้ และอาจกลายเป็นสงครามทางการค้า สำหรับไทยอยู่ระหว่างการพิจารณา หากพบว่าขัดกับดับเบิลยูทีโอ จะหยิบยกเรื่องขึ้นหารือกับสหรัฐฯทันที
อย่างไรก็ตาม ในเดือน เม.ย.นี้ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อประชุมคณะกรรมการภายใต้ความตกลงด้านการค้าการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (ทิฟา) โดยจะแสดงความกังวลของไทย ที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการค้าของไทย โดยเฉพาะในประเด็นการใช้กฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 มาตรา 232 (National Security) โดยเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม ที่ส่งออกจากทั่วโลกในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับ” ไทยจะขอให้ยกเว้นการใช้มาตรานี้กับเหล็กและอะลูมิเนียมทุกรายการที่ส่งออกจากไทย เพราะสินค้าจากไทยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเป็นสินค้าจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องนำเข้า แต่ยังไม่รู้จะเป็นไปตามที่ไทยร้องขอหรือไม่”
ส่วนประเด็นที่คาดว่า สหรัฐฯจะหยิบยกขึ้นมาหารือกับไทย น่าจะยังคงเป็นเรื่องที่ต้องการให้ไทยเปิดตลาดเนื้อหมูและชิ้นส่วน ที่มีสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งสหรัฐฯ หารือกับไทยมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะเจรจา แต่เท่าที่ทราบ ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข ไม่ต้องการให้นำเข้า เพราะไทยมีกฎหมายห้ามการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงหมู และห้ามมีการตกค้างในอาหาร.