ราคาน้ำมันดิบต่ำกว่าคาด พาณิชย์ ปรับเงินเฟ้อทั้งปีนี้เหลือ 0.4-1.0%

ขึ้นภาษีเบียร์ เหล้า บุหรี่ดันเงินเฟ้อ ก.ย.สูงขึ้น 0.86% ส่วน 9 เดือน เพิ่ม 0.59% พาณิชย์ ลดคาดการณ์ใหม่ทั้งปี 60 เหลือ 0.4-1.0% เหตุราคาน้ำมันดิบไม่สูงอย่างที่คาด เชื่อบัตรคนจนลดแรงกดดันราคาสินค้า...

วันที่ 2 ต.ค.60 น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือนก.ย.60 ว่า เท่ากับ 101.22 สูงขึ้น 0.86% เทียบกับเดือนก.ย.59 ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับจากเดือนมิ.ย.60 ที่เงินเฟ้อติดลบ 0.05% ส่วนเมื่อเทียบกับเดือนส.ค. 60 สูงขึ้น 0.58% ขณะที่เฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปีนี้ สูงขึ้น 0.59% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.86% เป็นผลจากดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 1.32% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาแพงขึ้น เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง, ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์, ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าหอพัก, การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.06% สินค้าสำคัญราคาแพงขึ้น เช่น อาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน, เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกรายการสินค้า 422 รายการ ที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อ พบว่า สินค้าที่ราคาสูงขึ้น 157 รายการ เช่น เนื้อสุกร, ไข่ไก่, ผักชี, นมสด, น้ำปลา, น้ำอัดลม, กับข้าวสำเร็จรูป, ค่าไฟ, ค่าก๊าซหุงต้ม, ผงซักฟอก, น้ำยาล้างห้องน้ำ ฯลฯ ส่วนผลิตภัณฑ์ยาสูบ เช่น บุหรี่ เพิ่ม 4.12% เบียร์ เพิ่ม 0.21% และสุรา เพิ่ม 0.17% ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ขณะที่สินค้าราคาไม่เปลี่ยนแปลง มี 196 รายการ และสินค้าราคาลดลง 69 รายการ

“เงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน เป็นผลจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับสูงขึ้น และการปรับขึ้นของราคาบุหรี่และสุรา จากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่วนราคาผักผลไม้ และเนื้อสัตว์ ราคาขึ้นลงตามกลไกตลาด”

ขณะที่ สำนักงานฯ ได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปี 60 ใหม่ เป็นขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.4-1.0% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 0.7-1.7% ภายใต้สมมติฐาน คือ เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3-4% ราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ยทั้งปี 60 อยู่ที่ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จากเดิมที่คาด 50-60 เหรียญฯ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 33.4-34.5 บาท/เหรียญฯ จากเดิม 35.5-37.5 บาท/เหรียญฯ โดยสาเหตุที่ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อลดลงจากเดิม เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งรัฐบาลได้ออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จะช่วยลดแรงกดดันของราคาสินค้าในตลาดได้มาก

สำหรับการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ซึ่งส่งผลให้เหล้า บุหรี่ เบียร์ ขึ้นราคานั้น จากการศึกษาพบว่า ราคาบุหรี่ที่ปรับเพิ่มขึ้น มีผลทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 0.028%, เบียร์ มีผลต่อเงินเฟ้อ 0.0012% และสุรา 0.00042% รวมผลกระทบ 0.027% ขณะที่การปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.60 สูงขึ้น 8.87 สตางค์/หน่วย ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.092% โดยค่าเอฟทีมีสัดส่วนอยู่ในเงินเฟ้อถึง 3.61% ของน้ำหนักรวม ส่วนการปรับขึ้นก๊าซหุงต้ม (ภาคครัวเรือน) ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.0075% ขณะที่การปรับค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟาก 5 สตางค์-1 บาท เมื่อ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.00015% เท่านั้น.