กบง.คงราคาแอลพีจีเดือน ส.ค.ที่ 20.49 บาท ย้ำยังเดินหน้าเปิดเสรี

กบง. คงราคาแอลพีจีเดือน ส.ค. ที่ 20.49 บาทต่อกิโลกรัม แม้ราคาโลกพุ่งสูงในรอบ 5 ปี ใช้เงินกองทุนเข้าไปอุดหนุนเพิ่มขึ้น ย้ำยังเดินหน้าเปิดเสรี เชื่อผู้ค้ายังไม่ขยับราคาขายปลีกแน่ เพราะยังคงมีสต๊อก...

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณาโครงสร้างราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อ้างอิงสำหรับเดือน ส.ค. โดยคงที่ระดับ 20.49 บาท/กิโลกรัม (กก.) เท่ากับเดือนที่แล้ว แม้ว่าราคา LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม เนื่องจากใช้กลไกจากเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของ LPG เข้าไปอุดหนุนในระดับ 2.75 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่อุดหนุนระดับ 12 สตางค์/กก.

พร้อมยืนยันจะเดินหน้าตามนโยบายเปิดเสรี LPG ซึ่งต้องส่งสัญญาณใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยดูแล ทำให้ราคาอ้างอิงของ LPG เดือนนี้ จะเทียบเท่ากับเมื่อเดือนที่แล้วที่ 20.49 บาท/กิโลกรัม โดยสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) เดือน ส.ค. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 85 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เป็นราคาที่สูงสุดในช่วงหน้าร้อนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมาอยู่ที่ระดับ 440 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือน ก.ค. 60 แข็งค่าขึ้นจากเดือนก่อน 0.2509 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 33.9146 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6352 บาท/กก. จาก 13.6229 บาท/กก. เป็น 16.2581 บาท/กก.

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้การผันผวนของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก และแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG สามารถดำเนินต่อเนื่องโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในประเทศ ประกอบกับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของก๊าซ LPG ยังคงมีเสถียรภาพ ที่ประชุม กบง. จึงเห็นควรให้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาเสถียรภาพราคา เพื่อส่งสัญญาณให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในเดือนสิงหาคมนี้อยู่ในระดับคงที่ โดยให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ 2.6352 บาท/กก. จากเดิมที่กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 0.1207 บาท/กก. เป็นชดเชย 2.7559 บาท/กก. ซึ่งผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสุทธิอยู่ที่ 511 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่มีรายจ่าย 40 ล้านบาท/เดือน

สำหรับฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 ก.ค. 60 อยู่ที่ 39,403 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีในส่วนของก๊าซ LPG อยู่ที่ 6,367 ล้านบาท และบัญชีในส่วนของน้ำมันสำเร็จรูป อยู่ที่ 33,036 ล้านบาท

"การเคลื่อนไหวของราคาอ้างอิง LPG จะประกาศเดือนต่อเดือน เพราะกลไกเสรีการควบคุมราคาภาครัฐไม่มีแล้ว และภาวะกลไกการแข่งขันซึ่งผู้ค้าจะต้องพิจารณา ช่วงนี้คาดว่าผู้ค้า LPG หลายรายอยู่ระหว่างปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันที่เสรีมากขึ้น ทำให้ผู้ค้าน่าจะยังไม่ขยับราคาขายปลีก LPG ขึ้นแน่นอน เพราะอย่างน้อยน่าจะยังคงมีสต๊อกสินค้าในมือจำนวนหนึ่งอยู่ ทำให้ยังสามารถขายได้ในราคาเดิม"

ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของ LPG จะยังคงจัดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของ LPG สำหรับโรงแยกก๊าซธรมชาติอยู่ต่อไป แม้ว่าจะมีการเปิดเสรีธุรกิจ LPG แล้วก็ตาม เนื่องจากโครงสร้างต้นทุนการจัดหา LPG มาจากหลายแหล่งที่แตกต่างกัน ทั้งจากโรงแยกก๊าซฯ โรงกลั่นน้ำมัน และการนำเข้า ขณะที่โรงแยกก๊าซฯ มีต้นทุนการผลิต LPG ที่ถูกสุดเพราะใช้ก๊าซฯ จากอ่าวไทย โดยหากราคา LPG ยังเกินกรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้ จะยังจัดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของ LPG จากโรงแยกก๊าซฯ อยู่ต่อไป.