เปิดเคล็ดลับ 5 แม่ทัพหญิงแกร่ง นำพาธุรกิจรุดหน้าสู่ความยั่งยืน

Business & Marketing

Leadership & Culture

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปิดเคล็ดลับ 5 แม่ทัพหญิงแกร่ง นำพาธุรกิจรุดหน้าสู่ความยั่งยืน

Date Time: 6 ม.ค. 2568 07:01 น.

Summary

  • ช่วงระยะหลังแวดวงธุรกิจบ้านเรา ได้มี “แม่ทัพหญิง” หรือ “ซีอีโอ” เบอร์หนึ่งขององค์กรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และนี่คือ 5 แม่ทัพหญิงแกร่งที่โดดเด่น ซึ่งจะมาเปิดใจกับ “ทีมเศรษฐกิจ” ถึงเคล็ดลับการนำพาองค์กรให้อยู่รอดปลอดภัย จนนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

Latest

40% ทักษะปัจจุบันจะหายไปปี 2030  เปิดโผ ทักษะจำเป็นและกำลังจะไม่จำเป็นในอนาคต

ช่วงระยะหลังแวดวงธุรกิจบ้านเรา ได้มี “แม่ทัพหญิง” หรือ “ซีอีโอ” เบอร์หนึ่งขององค์กรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยล้วนแต่มีความองอาจแกล้วกล้าสามารถยิ่งในการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจผ่านพ้นพายุมรสุมเศรษฐกิจซึ่งโหมประดังซัดเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าตลอดปีที่ผ่านมา

และนี่คือ 5 แม่ทัพหญิงแกร่งที่โดดเด่น ซึ่งจะมาเปิดใจกับ “ทีมเศรษฐกิจ” ถึงเคล็ดลับการนำพาองค์กรให้อยู่รอดปลอดภัย จนนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

พิทยา วรปัญญาสกุล
พิทยา วรปัญญาสกุล

พิทยา วรปัญญาสกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

“พิทยา” ซีอีโอหญิงคนเก่งของ KTC ซึ่งคร่ำหวอดและมีประสบการณ์ในด้านการตลาดบัตรเครดิตมาร่วม 30 ปี ได้ก้าวขึ้นมารับไม้ต่อจาก “ระเฑียร ศรีมงคล” ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2567

นับเป็นลูกหม้อ KTC โดยเข้าร่วมงานดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงาน Credit Card เมื่อปี 2540 และเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส กลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร จากนั้นจึงมาเป็นซีอีโอของ KTC

“พิทยา” พูดถึงหลักการบริหารงานว่า คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกๆเรื่อง แต่ในเรื่องที่รู้น้อยต้องพยายามเรียนรู้ เข้าใจ ฟังให้ดี ถามให้ละเอียด เพื่อการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง สามารถวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะสั้นและยาว บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารความเสี่ยงด้วยความรอบคอบ เพื่อเป้าหมายของการเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการพัฒนาตนเอง ความมุ่งมั่น ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใสและความยุติธรรม สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทั้งกับภายในและภายนอกองค์กร พร้อมสร้าง KTC ให้เป็นองค์กรที่คนเก่ง มีศักยภาพ พร้อมทั้งเป็นคนดีอยากทำงานและอยากอยู่กับองค์กรด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและรู้สึกปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็ให้โอกาสคนในองค์กรได้เรียนรู้ พัฒนาและมีความก้าวหน้าในงาน มีรายได้และสวัสดิการที่เหมาะสม

สำหรับในปี 2568 ได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจไว้ว่าจะยังเป็นปีที่มีความท้าทาย คาดว่าสภาวะเศรษฐกิจจะค่อยๆฟื้นตัว แต่สภาวะหนี้ครัวเรือนจะยังคงสูงอยู่ อย่างไรก็ตาม KTC มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ โดยเป้าหมายยังเป็นเรื่องของการสร้างกำไรต่อเนื่องและรักษาคุณภาพของสินเชื่อ

“ทั้งนี้ การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น มีความจำเป็นที่จะต้องนำแนวคิด “Digital Transformation” ที่ปรับเปลี่ยนวิธีคิดตั้งแต่การวางกลยุทธ์ โครงสร้างไอที กระบวนการทำงาน จนถึงขั้นตอนการให้บริการแก่ลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อน พร้อมกับการพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับบุคลากร เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า”

จิราพร ศิริคำ
จิราพร ศิริคำ

จิราพร ศิริคำ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group

“จิราพร” ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจไฟฟ้าและนวัตกรรมพลังงาน ตลอดจนการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน ได้ก้าวเข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของ EGCO Group หรือ “เอ็กโก กรุ๊ป” มีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2567 หลังเอ็มดีคนเก่า “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” ไปรับตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

เคยดำรงตำแหน่ง รักษาการผู้ว่าการ กฟผ. และได้ดำรงตำแหน่งกรรมการ EGCO Group มาตั้งแต่ปี 2565 ทำให้มีความพร้อมในการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมถึงมีความเข้าใจในทิศทางการดำเนินธุรกิจ และเป็นผู้มีส่วนร่วมในโครงการเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของ EGCO Group อย่างต่อเนื่อง

เธอกล่าวว่า ในปัจจุบันองค์กรต่างๆได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรที่เป็นทรัพยากรสำคัญขององค์กรและเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นการเคารพความแตกต่างสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ ภายในองค์กรและในสถานที่ทำงาน พร้อมทั้งส่งเสริมศักยภาพของพนักงานและผู้บริหารหญิงให้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน

การที่ได้รับความไว้วางใจให้ขึ้นดำรงตำแหน่งระดับรองผู้ว่าการ กฟผ.ก็มองว่าเป็นผลมาจากการมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเทในการทำงาน ที่สำคัญต้องบอกว่า กฟผ. เป็นหน่วยงานที่เปิดโอกาสให้วิศวกรหญิงได้ทำงาน ได้แสดงผลงาน อีกทั้งยอมรับและสนับสนุนในผลงานและแนวคิดที่ได้นำเสนอมาโดยตลอด

ในยุคของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ดร.จิราพร เผยว่า EGCO Group ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะ 3 ปี (ปี 2568–2570) โดยมีเป้าหมายสร้างความแข็งแกร่ง 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไรอย่างยั่งยืน การบรรลุเป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ และการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

พร้อมตั้งเป้าว่าในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า EGCO Group ยังต้องรักษาระดับการเติบโตในการเป็นบริษัทพลังงานไทยชั้นนำ 1 ใน 3 ของประเทศที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะโอกาสการเติบโตในต่างประเทศ ที่มีโอกาสการลงทุนอีกมาก ธุรกิจไฟฟ้ายังคงเป็นธุรกิจหลักของ EGCO Group โดยธุรกิจไฟฟ้าในอนาคตจะมุ่งไปสู่การผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง

ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ
ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ

ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ
ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

“ณัฐชไม” หนึ่งในแม่ทัพใหญ่ที่ทำให้แบรนด์ “คาราบาวแดง” เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้แรงงานด้วยกลยุทธ์ “กินทีละคำ ทำทีละเมือง” และเป็นทัพหน้าพาเครื่องดื่มและแบรนด์คาราบาวแดงดังไกลระดับโลก

น้อยคนที่จะรู้ว่าเธอคือหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “คาราบาวกรุ๊ป” ร่วมกับ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” และ “ยืนยง โอภากุล–แอ๊ด คาราบาว” และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญคนหนึ่งในการขับเคลื่อนแบรนด์คาราบาว ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ด้วยการเดินสายสร้างแบรนด์ผ่านกลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้ง

“คุณใหญ่–ณัฐชไม” กล่าวถึงหลักการบริหารงานว่า ต้องวางเป้าหมายของสิ่งที่ทำแต่ละเรื่องต้องชัดเจน และต้องนำไปสื่อสารต่อให้ทีมงานเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้ว หารือกันถึงวิธีการ (ให้ทีมงานมีส่วนร่วม) เพื่อให้เขาเห็นด้วยกับทั้งเป้าหมายและวิธีการ จากนั้นเขาจะสามารถนำไปสื่อสารต่อถึงทีมปฏิบัติการได้

“สรุปคือ เป้าหมายชัด/สื่อสารให้เข้าใจ/หาวิธีการร่วมกัน/ทีมงานเห็นด้วย/ทีมงานสื่อสารให้ทีมปฏิบัติการอย่างมีพลัง”

สำหรับเคล็ดลับในการดำเนินธุรกิจนั้น อย่างแรก สินค้าต้องมีคุณภาพ เลือกทำสินค้าทุกอย่างให้เหนือกว่ามาตรฐานของคู่แข่ง

อย่างที่ 2 ต้องรู้ว่า เราจะขายใคร จะได้กระจายสินค้าให้ตรงกับช่องทางที่จะถึงผู้บริโภค ควรจะดูความถนัด และศักยภาพของตนเอง เพราะหากเราทำสินค้าแมส แต่เราต้องไปอาศัยการกระจายสินค้าหลักจากคนอื่น ก็อาจทำให้เราเสียโอกาสได้มาก

และอย่างที่ 3 เมื่อรู้ว่า ขายใคร ขายที่ไหน เราก็ควรวางแผนการสื่อสารให้ถึงผู้บริโภค และร้านค้าที่จะช่วยเราจำหน่ายสินค้า ให้เขาเข้าใจว่าสินค้าเราดี หรือแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่งอย่างไร

ในส่วนแผนงานธุรกิจในปี 2568 ได้วางเป้าหมายใหญ่คือ พัฒนา และสร้างคนแถวที่ 2 แถวที่ 3 พร้อมกันนั้นก็อยากให้ทั้งองค์กรได้ “เห็น ยอมรับ และช่วยกัน” ในการสร้างแบรนด์ “คาราบาว” ไปสู่ระดับโลก คือ เดิมจะเป็นวิสัยทัศน์จากฝ่ายบริหาร แต่ฝ่ายปฏิบัติการยังทำงานเป็นวันๆ มีเป้าหมายระยะสั้น แต่เราต้องทำให้เป้าหมายสร้างแบรนด์คาราบาว แบรนด์ไทย ไปสู่ระดับโลก เข้าไปอยู่ในใจของพนักงานทุกคน

วรรณิภา ภักดีบุตร
วรรณิภา ภักดีบุตร

วรรณิภา ภักดีบุตร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)

พอเอ่ยถึง “โอสถสภา” เชื่อว่าคนไทยทุกคนจะร้องอ๋อ เพราะมีสินค้าหลายอย่างที่เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้โอสถสภายังคงดำเนินธุรกิจอยู่คู่คนไทยมาได้ยาวนานคือ การดำเนินธุรกิจภายใต้ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แม้จะมีการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารรุ่นสู่รุ่น

สำหรับซีอีโอคนล่าสุดของอาณาจักรที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 133 ปี คือ “วรรณิภา ภักดีบุตร” ซึ่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ เมื่อปี 2559 จากนั้นในปี 2564 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

“วรรณิภา” ได้พูดถึงหลักการบริหารงานว่า เน้นการสร้างความยั่งยืนและการเติบโตในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรผ่านนวัตกรรม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรและบุคลากรหลากหลายเจเนอเรชันให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินธุรกิจของโอสถสภา ยึดมั่นใน Core Business ที่แข็งแกร่ง ขยายการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ พร้อมปรับตัวให้สอด คล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และการสร้างคุณค่าที่ดีต่อสังคมในระยะยาว โดยเน้น 3 ด้าน ได้แก่

1.การสร้างนวัตกรรม : พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ตลอดจนวิธีการทำงาน ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

2.กลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง : เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและวางกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์สินค้า

และ 3.การบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน : การสร้างและพัฒนาองค์กรให้มีวัฒนธรรมองค์กรและทีมงานที่แข็งแกร่ง พร้อมเผชิญความเปลี่ยนแปลง

สำหรับปี 2568 โอสถสภาตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง โดยมุ่งเน้นเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก (core business) ขยายพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพิ่มการเติบโตของยอดขายและขยายฐานผู้บริโภค ตลอดจนขยายการลงทุนและสร้างการเติบโตของธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ปิยจิต รักอริยะพงศ์
ปิยจิต รักอริยะพงศ์

ปิยจิต รักอริยะพงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)

สำหรับ “Sappe” (เซ็ปเป้) หรือในชื่อเดิมคือ “ทรัพย์อนันต์” เดิมผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวแบบไทยๆ ก่อนเปลี่ยนมาเป็นเครื่องดื่มช่วงต้นยุค 2000

ทั้งนี้ หลังสั่งสมประสบการณ์ในฐานะวาณิชธนากรมานาน 15 ปี “ปิยจิต” ก็เข้าร่วมธุรกิจครอบครัวในปี 2515 ด้วยบทบาทประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ก่อนก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอต่อจากพี่ชายในอีก 3 ปีถัดมา พร้อมความมุ่งมั่นที่จะปั้น Sappe บริษัทเครื่องดื่มสัญชาติไทยให้เป็นแบรนด์ระดับโลก ตั้งเป้าดันรายได้สู่ 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2569

“ปิยจิต” กล่าวถึงหลักการทำงานที่ยึดมั่นมาตลอด 10 ปีในการดำรงตำแหน่งซีอีโอ เซ็ปเป้ คือ การทำงานที่ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่โปร่งใส ครอบคลุม 3 มิติสำคัญ ได้แก่ 1.มิติเศรษฐกิจ จะมุ่งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรทางธุรกิจ และมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจ

2.มิติสังคม จะสนับสนุนคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ส่งเสริมศักยภาพของพนักงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดูแลสุขภาพกายและใจ ผลักดันความหลากหลายและความเท่าเทียมในองค์กร

และ 3.มิติสิ่งแวดล้อม ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เคล็ดลับที่ทำให้เซ็ปเป้ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ คือ “พนักงาน” ที่เรียกว่า “Sappe Players” ซึ่งเป็นทีมงานที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ กระหายความสำเร็จ และมีเป้าหมายเดียวกัน การสนับสนุนการ Empower ทีมงานทุกคนให้ประสบความสำเร็จในบทบาทหน้าที่ของตนเอง

“ยึดหลักการบริหารแบบ Lead by Example ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่มาจากความมุ่งมั่นและความตั้งใจ พร้อมสร้างโอกาส เปิดเวทีให้พนักงานแสดงศักยภาพ และเป็นผู้ร่วมทำงานที่ให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด”

“เราจะทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น ผ่านจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์ คือ หัวใจสูงสุดในการดำเนินธุรกิจของเซ็ปเป้”.

ทีมเศรษฐกิจ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ