จากความทะเยอทะยาน! ใจใหญ่-ใฝ่รู้และมุ่งมั่น สร้าง "บอย ท่าพระจันทร์" เซียนพระพันล้าน!

Business & Marketing

Executive Interviews

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จากความทะเยอทะยาน! ใจใหญ่-ใฝ่รู้และมุ่งมั่น สร้าง "บอย ท่าพระจันทร์" เซียนพระพันล้าน!

Date Time: 28 มิ.ย. 2568 05:30 น.

Summary

“ผมเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง และมีความมุ่งมั่น ถ้าผมอยากรู้หรืออยากทำอะไร ผมจะทุ่มเทศึกษาเรียนรู้ให้รู้จริง จนเกิดความมั่นใจ และถ้าผมเห็นว่ามีโอกาส ผมจะลุยทันที ใส่เต็มร้อย All in แบบหมดหน้าตัก โดยใช้ความพยายามทั้งหมดที่มี เพราะผมเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้”

Latest

ไทยกำลังกลายเป็น“สวรรค์ของมิจฉาชีพ”?เมื่อระบบการเงินมีรอยรั่ว ก็เปิดประตูให้เงินสกปรกหลั่งไหล

“ผมเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง และมีความมุ่งมั่น ถ้าผมอยากรู้หรืออยากทำอะไร ผมจะทุ่มเทศึกษาเรียนรู้ให้รู้จริง จนเกิดความมั่นใจ และถ้าผมเห็นว่ามีโอกาส ผมจะลุยทันที ใส่เต็มร้อย All in แบบหมดหน้าตัก โดยใช้ความพยายามทั้งหมดที่มี เพราะผมเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้”

“อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย” บอกถึงความเป็นตัวตน ที่ทำให้เขาเป็น “บอย ท่าพระจันทร์” เซียนพระหน้าหล่อชื่อดัง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด และได้รับการยอมรับในวงการพระเครื่องเมืองไทย มี FC แฟนคลับติดตามเต็มบ้านเต็มเมือง

“บอย” บอกว่า เขาเริ่มสนใจศึกษาเรื่องพระเครื่องตั้งแต่อายุ 13 ปี ทั้งศึกษาเองและขอความรู้กับแผงเช่าพระในตลาดพระท่าพระจันทร์ 

ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายพระเครื่องที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในสมัยนั้น ด้วยความเป็นเด็กและเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย หลังเลิกเรียนเขาก็จะ

ไปขลุกอยู่ในแผงพระตลาดท่าพระจันทร์จนได้ไปเป็นเด็กเช็ดตู้กระจกร้านเช่าพระ ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้และรู้จักเจ้าของแผงและบรรดาเซียนพระในตลาดมากขึ้น ก่อนที่จะหาเช่าซื้อและขายพระ วนเวียนอยู่ในตลาดท่าพระจันทร์ เริ่มจากซื้อทีละ 1-2 องค์จากแผงนั้นมาขายแผงนี้ ได้กำไรไม่กี่ร้อยก็เอา!!

ยิ่งทำยิ่งสนุกยิ่งตกหลุมรัก ที่สำคัญหาเงินได้ง่ายและมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาเริ่มสั่งสมประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญและเก่งขึ้น แถมใจใหญ่กล้าเช่าพระในราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนได้ขึ้นชั้นเป็น “เซียนพระ” ตัวกลั่น ในตลาดท่าพระจันทร์ ในวัยไม่ถึง 20!! ใครไม่มั่นใจพระแท้–เก๊ ก็จะเรียก “บอย” ให้มาช่วยดู

“ผมไม่เคยหยุดทำงานสักวัน จบ ม.3 ก็เรียนต่อ ปวช. และ ปวส.ภาคค่ำ เพื่อให้มีเวลา เข้าตลาดพระ ได้เรียนรู้และส่องพระทั้งวัน ซื้อมา–ขายไป ผมประหยัดมากแทบไม่ใช้เงินเลย เพื่อให้มีเงินมาลงทุนซื้อพระมากขึ้น ใช้เงินต่อเงิน ทำให้ผมมีเงิน 1 ล้านบาทแรก ตอนอายุ 17–18 ปี”

แม้จะเริ่มเป็นที่รู้จักในท่าพระจันทร์ แต่เขาคิดว่าทำอย่างไรจะทำให้คนรู้จัก “บอย ท่าพระจันทร์” คนนี้มากขึ้น จึงพยายามสร้างชื่อให้ตัวเอง โดยนำพาตัวเองให้ได้ลงนิตยสารพระเครื่องชื่อดัง ซึ่งตอนนั้นได้ลงหนังสือพระทุกเดือน ไปเดินงานประกวดพระ ก็มีคนเอาพระมาให้ดูมากขึ้น

ในที่สุดก็ได้ลง “หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” คอลัมน์พระที่เขียนโดย “สีกาอ่าง” คอลัมนิสต์ชื่อดัง เมื่อเซียนหนุ่มวัยเพียง 20 ปี ได้สร้างความฮือฮาให้วงการ ด้วยการเช่า “เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ” ในราคามากกว่า 1 ล้านบาท ทำให้ชื่อเสียงของ “บอย ท่าพระจันทร์” เป็นที่รู้จักและยอมรับกว้างขวางมากขึ้น เป็นโอกาสให้เขาสามารถซื้อ-ขายพระได้มากขึ้น ทำให้เมื่ออายุ 23 ปี เขามีเงินซื้อบ้านในราคามากกว่า 7 ล้านบาท และมีเงินอีก 10 กว่าล้าน โดยรับแลกเช็คและรับจำนำพระด้วย

เขายังคงพยายามสร้างชื่อเพื่อให้คนจดจำ โดยไปออกรายการทีวีเกมส์อัจฉริยะ รายการดังในยุคนั้นจนสามารถคว้าแชมป์ได้เงินล้านมาครอง แต่ที่ทำให้ชื่อของ “บอย ท่าพระจันทร์” เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศ เมื่อเขาได้ไปออกรายการ “เจาะใจ” ในฐานะเซียนพระร้อยล้าน เขาบอกว่าหลังจากนั้น เขาต้องรับโทรศัพท์วันละ 300-400สาย มีทั้งคนอยากขนพระมาให้ดู ทั้งคนที่ต้องการนำพระมาขายให้เขาตลอดทั้งวัน!!

และเมื่อ “บอย ท่าพระจันทร์” ออกไปสร้างอาณาจักรของตัวเองที่ “ตลาดพระพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน” ทำให้เขายิ่งมีเครือข่ายมากขึ้น มีคนนำพระดีๆ พระสวยๆ พระหายากรุ่นยอดนิยมมาเสนอขายให้เขามากขึ้น ซึ่ง “บอย” ยังคงเน้นซื้อมา–ขายไปเช่นเดิม ลูกค้าคือบรรดาเซียนพระที่มาเช่าเพื่อนำไปปล่อยต่อให้เศรษฐีนักธุรกิจที่นิยมสะสมบูชาพระเครื่องหายากราคาแพง เพราะมั่นใจว่าหากได้พระจาก “บอย ท่าพระจันทร์” รับรองว่าได้ “ของแท้ของดี” แน่นอน

“บอย” ยังถือเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ขับเคลื่อนให้เกิดความนิยมสะสม “พระเหรียญ” จนเกิดตลาดซื้อขายในประเทศไทย โดยเขาได้จัดทำหนังสือ “เหรียญยอดนิยมอมตะแดนสยาม” พร้อมภาพสี่สีของพระเหรียญของแท้ที่สวยอมตะ พร้อมบอกวิธีดูและสังเกตเหรียญแท้-เก๊แบบละเอียดยิบ กลายเป็นหนังสือหายากที่ราคาขึ้นไปเป็นหลักหมื่น จากราคาขายเพียง 1,900 บาทในวันนั้น!!

วันนี้ “บอย ท่าพระจันทร์” ในวัย 45 ปี เซียนพระเบอร์ต้นๆ

ของประเทศ ที่นอกจากจะเป็น “นักลงทุนขาใหญ่ในตลาดหุ้น” และเป็นผู้รับซื้อกระเพาะปลาเก่าพันธุ์หายากในราคาสูงแล้ว เราสามารถพบ “บอย ท่าพระจันทร์” ตัวจริงเสียงจริงได้ที่ “พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน” ที่เขาเปิดรับซื้อพระเครื่องและกระเพาะปลา พร้อม live สดในโซเชียลมีเดียหลายช่องทาง มีแฟนคลับ FC ติดตามจำนวนมาก รวมทั้งมีคนเดินทางจากทั่วประเทศ เพื่อนำพระเครื่องมาเสนอขายให้เขาตลอดทั้งวัน ซึ่งมีทั้งผู้ผิดหวังและสมหวังได้เงินหลักหมื่นถึงหลักล้านกลับไป!!

“บอย” ทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาเขาเก็บพระเครื่องไว้กับตัวเองน้อยมาก เพราะเน้นซื้อมา–ขายไป และตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ราคาพระเครื่องสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ในช่วง 1–2 ปีมานี้ ราคาพระตกลงมาเยอะมาก เขาจึงมองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสในการซื้อ รอบนี้เขาจึงมุ่งมั่นซื้อสะสมพระเครื่อง

เมื่อถามว่า วันนี้ “เซียนบอย” น่าจะมีเงินหลักหมื่นล้านแล้ว เขารีบปฏิเสธ แต่ยอมให้ข้อมูลว่า เขาจัดสรรพอร์ตการลงทุนเป็น 3 ส่วน โดย 60% ลงทุนในตลาดหุ้น พอร์ตหุ้นเขามีมูลค่าราว 2 พันล้านบาท ซึ่งปีที่ผ่านมาเขาโชคดีขายหุ้นและได้กำไรมาก้อนใหญ่ ปีนี้ตลาดหุ้นไม่ดี จึงไม่ได้ลงทุนมากนัก เล่นเป็นรอบๆ ส่วนเงินอีก 10% ลงทุนในกระเพาะปลา และอีก 30% กันไว้เพื่อลงทุนซื้อพระเครื่อง

“ตอนนี้ผมซื้อพระเครื่องยังไม่ถึง 20% ของพอร์ตที่ตั้งใจไว้เลย ดังนั้น จึงฝากถึงผู้ที่ต้องการนำพระมาขาย นอกจากมาด้วยตัวเองที่พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วานแล้ว ยังสามารถส่งรูปพระชัดๆมาให้ดูทางไลน์ที่ ไอดี @boy88888 ได้ ถ้าผมดูว่าเป็นพระแท้และต้องการซื้อผมจะตอบกลับหรือให้มาหาที่ร้านเลย หรือถ้าอยู่ต่างจังหวัด หากเป็นพระที่ต้องการ ผมจะเดินทางไปรับซื้อถึงที่บ้านเลย!!” บอย ท่าพระจันทร์บอกทิ้งท้าย.


เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ "Business On My Way" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ