บางจากรุกเข้ม

Business & Marketing

Corporates & Leadership

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

บางจากรุกเข้ม

Date Time: 30 ก.ย. 2568 04:00 น.

Summary

“กลุ่มบริษัทบางจาก” หนึ่งในกลุ่มบริษัทพลังงานระดับบิ๊กเบิ้มของไทย เดินหน้ารุกเข้ม กดปุ่มปรับโครงสร้างองค์กร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2569 เร่งเครื่องกลยุทธ์ “Bangchak 100x” ปรับโครงสร้าง 5 ธุรกิจ

Latest

"ไม่มีอะไรง่าย" ภารกิจของ "ดนันท์ สุภัทรพันธ์" ขับเคลื่อน "ไปรษณีย์ไทย" ในสมรภูมิส่งเดือด

“กลุ่มบริษัทบางจาก” หนึ่งในกลุ่มบริษัทพลังงานระดับบิ๊กเบิ้มของไทย เดินหน้ารุกเข้ม กดปุ่มปรับโครงสร้างองค์กร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2569 เร่งเครื่องกลยุทธ์ “Bangchak 100x” ปรับโครงสร้าง 5 ธุรกิจ ตั้งเป้า EBITDA โตก้าวกระโดด 100% ภายในปี 2571 แตะ 8 หมื่นล้านบาท

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศว่า บางจากได้ประกาศกลยุทธ์ “Accelerating Bangchak 100x : Pivoting for Energy Security and Sustainability” ตั้งเป้าหมายกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เติบโตอย่างก้าวกระโดด 100% ภายใน 3 ปีข้างหน้า อยู่ที่ 80,000 ล้านบาท จากปี 2567 อยู่ที่ 40,409 ล้านบาท รองรับการเติบโตภายใน 3-5 ปีข้างหน้า

ล่าสุด บางจากมีการจัดสรรงบลงทุน ปี 2569-2571 วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก ขยายสู่โครงสร้างพื้นฐานอนาคต และรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน ควบคู่กับการขยายการดำเนินงานในระดับสากล ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าในธุรกิจหลักและการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

“บริษัทพร้อมประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว เน้นการสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยธุรกิจให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น การตลาด และพลังงานชีวภาพ ควบคู่กับการเร่งกลไกการเติบโตใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2569”

สำหรับแผนงานดังกล่าว เป็นการดำเนินการผ่านธุรกิจการค้าน้ำมันและธุรกิจต้นน้ำ การปรับบทบาทบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ รองรับทั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนและรายได้ที่มั่นคง รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ผ่านกองทุนบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนและจัดการกองทุนเอกชนระดับโลก มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขณะเดียวกันยังได้มีการจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1.กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด และพลังงานชีวภาพ บริหารโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชาแบบ One Team เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขยายกำลังการกลั่นรวมจาก 265,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2568 เป็น 285,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2571 และมากกว่า 290,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2573

นอกจากนี้ จะดำเนินการควบคู่กับการลงทุนหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) 5,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ภายในเดือน มิ.ย.2569 และน้ำมันดีเซลยั่งยืน (HVO) รวม 7,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2570 ด้านพลังงานชีวภาพ เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเอทานอลเป็น 292 ล้านลิตรต่อปีตั้งแต่ปี 2569 และเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องโรงงานไบโอดีเซล สู่กำลังการผลิตเต็มที่ 330 ล้านลิตรต่อปี

ด้านการตลาด มุ่งขยายสถานีบริการให้ได้รวม 2,300 แห่งในปี 2568 และมากกว่า 2,300 แห่งภายในปี 2571 พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันจาก 29% ในปี 2568 เป็นมากกว่า 33% ในปี 2573 ควบคู่กับการผลักดันธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ทั้งอินทนิลและค้าปลีก โดยตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ของธุรกิจนี้เติบโต 3 เท่าภายในปี 2571

2.กลุ่มธุรกิจการค้าน้ำมัน และกลุ่มธุรกิจหลักใหม่ ขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ของบางจาก ที่ยกระดับจากบทบาทเดิมในการสนับสนุนโรงกลั่น สู่การเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลตอบแทน โดยมุ่งพัฒนาการซื้อขายพลังงานแบบมีสินทรัพย์รองรับ (asset-backed trading) ใช้ความได้เปรียบจากการมีโรงกลั่นน้ำมัน คลังน้ำมัน และระบบขนส่งที่ครอบคลุมเป็นฐานในการขยายตลาด ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงด้านราคาและปริมาณ ขยายทั้งปริมาณและมูลค่าการซื้อขายในประเทศและภูมิภาค

3.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ ตั้งเป้าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลางชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ประสบการณ์ระดับสากลจากนอร์เวย์ บริหารแหล่งผลิตให้มีประสิทธิภาพ เสริมความคล่องตัวและกระแสเงินสดมั่นคง พร้อมพิจารณาการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและการเติบโตระยะยาว

4.กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน ต่อยอดพลังงานหมุนเวียนสู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ ได้แก่ ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571 ผ่านการบริหารพอร์ต เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและหมุนเวียนทุน

5.กลุ่มธุรกิจใหม่และโฮลดิ้งส์ มุ่งสร้างการเติบโตผ่านการขยายศักยภาพธุรกิจหลัก ทั้งด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจการกลั่นและการตลาด ควบคู่กับการลงทุนใหม่มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เน้นการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ทันสมัย การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ ตลอดจนเทคโนโลยีชีวภาพและระบบแบตเตอรี่.

เกรียงไกร พันธุ์เพ็ชร

คลิกอ่านคอลัมน์ "THE ISSUES" เพิ่มเติม



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ