ทำไม "ทาวน์โฮม - บ้านแฝด" คือคำตอบคนเมือง? เมื่อดีไซน์คือแต้มต่อ กรณีศึกษา AP ในยุคดีมานด์ชะลอตัว

คงไม่มีใครเถียงว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์วันนี้ ไม่ได้แข่งกันที่ใครเปิดโครงการเยอะกว่ากัน แต่แข่งกันที่ใครจะเข้าใจดีมานด์ได้มากพอจะ “อยู่รอด” ในเกมนี้

เมื่อกำลังซื้อหดตัว คนในตลาดเริ่มเปลี่ยนโหมดจากเร่งเติบโตเป็นเร่งระบาย ผู้เล่นบางรายหยุดซื้อที่ดิน บางรายหยุดเปิดโครงการใหม่ ซึ่งไม่ใช่เพราะ “ฟองสบู่” อสังหาฯ กำลังจะแตก แต่เพราะ “คนซื้อ” ชะลอการตัดสินใจ ในวันที่ความเชื่อมั่นแง่เศรษฐกิจยังมาไม่เต็มร้อยเหมือนเก่า

และเป็นความจริงที่ว่า ใครคิดแค่จะขายของเก่า แข่งกันที่ “ราคา” อาจอยู่รอดแบบหายใจรวยริน แต่ถ้าใครยังพัฒนา “สินค้าที่ตรงกับดีมานด์จริง” โดยเข้าใจว่าคนซื้อยุคนี้ ต้องการบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบไหน? ก็ยังมีโอกาสไปต่อได้ยาวๆ เอพี ไทยแลนด์ คือ กรณีศึกษาของการพัฒนาโมเดลบ้านในตลาดอสังหาฯ ยุคที่ใคร ๆ ก็บอกว่ายาก แต่โอกาสมีเสมอ ถ้าคิดให้ไกลกว่าแค่ “ราคา”

โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจบ้านแฝดและทาวน์โฮม ที่เห็นมูฟเมนต์สำคัญออกมาอย่างต่อเนื่อง สวนสภาวะตลาด จนอาจเรียกได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สื่อสารถึงการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจนที่สุดในยุคนี้

ขณะ “ความได้เปรียบ” ของแบรนด์ ที่มองเกมขาดตั้งแต่ต้น ก็สะท้อนออกมาในแง่ยอดขาย จนขึ้นตำแหน่ง Market Leader อันดับ 1 ในตลาดบ้านแฝดและทาวน์โฮมได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะปี 2567 ที่พอร์ตสินค้าบ้านแฝดของเอพี (บ้านแฝด 2 ชั้นและ 3 ชั้น) มียอดขายเติบโตสูงถึง 43.5%

XAVIER โมเดลใหม่ในแบรนด์ “บ้านกลางเมือง THE EDITION”

วิเคราะห์ผ่านเกมโปรดักส์ล่าสุดที่ เอพี ไทยแลนด์ เพิ่งประกาศเปิดตัว ดีไซน์ทาวน์โฮม “XAVIER” (ซาเวียร์) เพื่อขยายพอร์ตสินค้า เข้าไปเติมในตลาด ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น เล่นระดับ ที่ก้าวข้ามแนวคิดเดิม ๆ ของทาวน์โฮมทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

จากฟังก์ชันที่เล่นระดับ เปิดสเปซให้บ้านโปร่งโล่ง ถึง 3.6 เมตร (Floor-to-Ceiling) ผสานกับหน้ากว้างสูงสุด 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่ให้ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ในทุกจังหวะชีวิต และปิดท้ายด้วยการสร้างประสบการณ์ Ultimate Living บนชั้น 3 ในรูปแบบ Penthouse ที่ให้ความเป็นส่วนตัวหรูหรา

โดย ดีไซน์ “XAVIER” จะเปิดตัวใน 2 โครงการ ในช่วงไตรมาส 3 นี้

● บ้านกลางเมือง THE EDITION สาทร – กัลปพฤกษ์ ติดถนนกัลปพฤกษ์ บนพื้นที่ 20 ไร่

● บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9 – พัฒนาการ 2 (เปิดโซนใหม่) เชื่อมต่อ พระราม 9 บนพื้นที่ 22 ไร่

จะเห็นได้ว่า นี่ไม่ใช่แค่การรักษาฐานลูกค้าเดิมเพียงเท่านั้น แต่เดินหน้า “คิด พัฒนา และส่งมอบโมเดลใหม่” อย่างต่อเนื่อง ทั้งสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่ายและสไตล์คลาสสิกที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทุกแบบบ้านมีพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่าสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ส่วนกลางในบ้านที่เชื่อมต่อกันอย่างลงตัว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน เอพี มีโครงการกลุ่มทาวน์โฮม และ บ้านแฝด อยู่ระหว่างการขายกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล มากกว่า 70 โครงการ 50 แบบบ้าน 100 โมเดล และในช่วงครึ่งปีหลัง จะทยอยเปิดโครงการใหม่ อีกอย่างน้อย 16 โครงการ จากเป้าหมายแผนพัฒนาปี 2568 อยู่ที่ 18 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท

มีตั้งแต่ระดับราคา 3-16 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ เช่น บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น - บ้านกลางเมือง - แกรนด์ พลีโน่ - พลีโน่ - พลีโน่ ทาวน์ ตั้งแต่ครอบครัวเริ่มต้นไปจนถึงครอบครัวใหญ่

ดีมานด์ “บ้านแฝด” โตก้าวกระโดด

จากการเปิดเผยข้อมูลและมุมมองของ “เมธา รักธรรม” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้า บ้านแฝดและทาวน์โฮม บมจ. เอพี ไทยแลนด์

สะท้อนให้เห็นว่า หมากเดินสำคัญของเอพี เวลานี้ ที่ไม่ได้มองแค่ยอดขาย แต่เป็น “คำตอบของความต้องการคนเมือง” เพราะ “XAVIER” คือโปรดักส์ใหม่ที่คนเมืองตามหามานาน

“เมธา” ระบุว่า เดิมที ทุกๆ 2 ปี เอพีจะมีการพัฒนาโมเดลบ้านใหม่ๆ ออกมาในตลาด จนทำให้ปัจจุบัน เอพีเป็น Number One Choice ทั้งในมิติแบบบ้านดีไซน์ใหม่ที่หลากหลายและมีให้เลือกมากที่สุดในตลาด

แต่อย่างไรก็ดี ลูกค้าปัจจุบัน โดยเฉพาะ กลุ่มกลาง-บน ฐานรายได้ต่อเดือน 70,000 - 100,000 บาท ซึ่งถือว่า เป็นกำลังหลักของตลาดในเวลานี้ ไม่ได้มองหาแค่ “ที่อยู่อาศัย” แต่มองหา Exclusivity & Long-term Value ในการลงทุนด้วย

ขณะคำว่า “ลงทุน” ในที่นี้ ถูกมองครอบคลุมหลายมิติ ทั้งคุณภาพชีวิต ไลฟ์สไตล์ และอนาคตระยะยาวของการถือครองบ้านและที่ดิน ที่คนรุ่นใหม่ มองเป็น Asset ด้วยอินไซต์สำคัญที่น่าสนใจ ผู้บริหารคนเดิม ยังเล่าว่า ตลาดที่อยู่อาศัย ณ ปัจจุบัน มีจุดเปลี่ยนหลายอย่าง โดยเฉพาะ ความร้อนแรงในตลาดบ้านแฝด ที่เดิมที มีดีมานด์ไม่มาก จากยอดขายของบริษัท ที่มีอัตราการขายราว 200 ยูนิต/ปี แต่หลังจากช่วงปี 2564 ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่า ปี 2568 เอพีจะปิดการขายได้มากกว่า 1,300 ยูนิต จากการที่ลูกค้าตอบรับมากขึ้น

ไม่ใช่แค่ปักป้ายขายบ้าน แต่กลยุทธ์ทำเล ต้องแม่น สร้าง Long-term Value

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาให้ดี จุดแข็งของเอพี ไม่ใช่แค่ขยัน ออกดีไซน์ใหม่ แต่เป็นเรื่องของ ความเก่งกาจ ในแง่ “โลเคชั่น” ด้วย จะเห็นได้ว่า เอพี ไม่ใช่แบรนด์ที่จับตลาดชานเมืองลึก หรือเน้นราคาเข้าถึงง่าย แต่เน้น บ้านในโซนที่เชื่อมต่อโครงข่ายเมืองหลัก

● พระราม 9 - พัฒนาการ

● กัลปพฤกษ์ - สาทร

ทำเลเหล่านี้อยู่ใน “วงรอบความสะดวก” เดินทางได้จริง ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) แต่ราคาไม่สูงเท่าบ้านเดี่ยวกลางเมือง เป็น strategic move จับกลุ่ม “คนเมืองกลางบน” ที่ต้องการบ้านอยู่เอง ในทำเลใกล้เมือง

เอพี มักมอง “ศักยภาพทำเล” ระยะยาว ที่ไม่ซื้อที่ดินหวังเก็งกำไร แต่ซื้อเพื่อวางเกมแบรนด์ ผ่านการเลือกที่ดินแปลงใหญ่ในโซนฮอต แต่ยังทำโปรดักส์ใหม่ ๆ ได้ต่อเนื่อง

เช่น กัลปพฤกษ์ ที่ดูเป็นโซนใหม่ แต่เอพี ทำจนกลายเป็น “พื้นที่แข็งของแบรนด์” หรือ พระราม 9 – พัฒนาการ ที่เริ่มแน่น แต่ เอพีก็ยัง “ขยายโซนใหม่” ในพื้นที่เดียวกัน ด้วยการเล่นระดับราคา, เซกเมนต์ หรือแม้แต่บ้านดีไซน์ใหม่ๆ อย่าง XAVIER ดีไซน์ทาวน์โฮม 3 ชั้นเล่นระดับ ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ของผู้อาศัย มาจับกำลังซื้อ

ซึ่งจุดแข็งด้านนี้ ยังช่วยให้ลูกค้า ต่อยอด “สินทรัพย์” ของตัวเองในอนาคตได้ ไม่ว่าจะปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ มูลค่าก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะเป็นทำเลทอง เป็น Long-term Value ของการลงทุน ที่คิดเผื่อลูกค้ามาแล้วตั้งแต่ต้น และตอกย้ำ การเป็นผู้นำ ที่ไม่ใช่แค่มีจำนวนโครงการเยอะ แต่ต้องคิดนำตลาด และนำทางผู้บริโภคคนเมืองได้

“ที่สุดของชีวิตที่ลงตัว” จึงไม่ใช่แค่สโลแกน แต่เป็นภาพสะท้อนของการมองตลาดแบบเอพี บ้านที่ไม่ได้แข่งกันแค่ขนาด หรือราคา แต่แข่งกันที่คำว่า “เข้าใจ”

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney