ถอดรหัสความสำเร็จ 12 ปีแห่งความร่วมมือ AP x Mitsubishi Estate ที่เป็นมากกว่าแค่ Joint Venture

Business & Marketing

Corporates & Leadership

ไทยรัฐออนไลน์

ไทยรัฐออนไลน์

Tag

ถอดรหัสความสำเร็จ 12 ปีแห่งความร่วมมือ AP x Mitsubishi Estate ที่เป็นมากกว่าแค่ Joint Venture

Date Time: 17 ก.ค. 2568 10:40 น.
ไทยรัฐออนไลน์

Summary

  • เอพี ไทยแลนด์ และ มิตซูบิชิ เอสเตท กับการก้าวข้ามความแตกต่าง สู่กุญแจความสำเร็จของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งยาวนานกว่า 12 ปี ผ่านการสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับโลก

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ และความท้าทายทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาวมักเผชิญอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือข้ามประเทศที่ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและแนวคิดการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่ยากจะข้ามพ้น แต่ “เอพี ไทยแลนด์” และ “มิตซูบิชิ เอสเตท” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ความต่าง” ไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนกว่า 12 ปี ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจหนึ่งเดียวที่มั่นคงที่สุดในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย

ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่นับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ต้องเจอกับสภาวะชะลอตัวจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อที่เปราะบาง หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัว หรือแม้แต่การปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์และยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์เช่นนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่ใครก็ทำได้ ถ้าไม่แกร่งพอและมีพันธมิตรที่ดี

แต่กระนั้น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และความท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้าน กลับมีพันธมิตรจากสองประเทศ ที่สามารถ “จับมือกัน” ได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องยาวนานถึง 12 ปี และสองบริษัทนั้นก็คือ “เอพี ไทยแลนด์” และ “มิตซูบิชิ เอสเตท”

แม้ว่าภายใต้ความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาวมักจะเผชิญอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือข้ามประเทศ ที่ไม่ได้มีความต่างเพียงแค่เรื่องระยะทางเท่านั้น แต่ยังหมายถึงวัฒนธรรม แนวคิด ตลอดจนวิธีการบริหารจัดการ ที่พร้อมจะแตะเบรกและหยุดลงได้ทุกเมื่อ

เมื่อความต่างไม่ใช่กำแพง แต่เป็นสะพานเชื่อมสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

“เอพี ไทยแลนด์” และ “มิตซูบิชิ เอสเตท” กลับพิสูจน์ให้เห็นว่า “ความต่าง” ไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนกว่า 12 ปี ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจหนึ่งเดียวที่มั่นคงที่สุดในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย จนอาจกล่าวได้ว่า “พันธมิตรทางธุรกิจที่ยั่งยืนเพียงหนึ่งเดียว” ที่ยังยืนหยัดอยู่ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจเช่นนี้

ทั้งนี้ความสำเร็จที่แท้จริงไม่เพียงสะท้อนผ่านตัวเลขทางธุรกิจที่เติบโต แต่คือมุมมองและผลลัพธ์จากการผสานวิสัยทัศน์ ความร่วมมืออันแข็งแกร่ง ของสองผู้นำอย่าง อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) และ ยูจิ โอกาโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ร้อยเรียง “จิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จ” จนกลายเป็นภาพความยิ่งใหญ่ที่งดงามและลึกซึ้งเกินกว่าคำว่า “ธุรกิจร่วมทุน” ธรรมดาทั่วไป

มิตซูบิชิ เอสเตท ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกจากญี่ปุ่น

แต่ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงความสำเร็จของความร่วมมือนี้ Thairath Money พามาทำความรู้จัก มิตซูบิชิ เอสเตท ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกจากญี่ปุ่น หนึ่งในบริษัทในเครือมิตซูบิชิที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบศตวรรษกันก่อน

โดย มิตซูบิชิ เอสเตท เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มูลค่ามหาศาล ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอีกด้วย อาทิเช่น ย่าน Marunouchi เขตศูนย์กลางธุรกิจระดับพรีเมียมใจกลางกรุงโตเกียว ที่ มิตซูบิชิ เอสเตท เป็นผู้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 120 ปี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.2 ล้านตารางเมตร

และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ Tokyo Station Building หนึ่งในสถานีรถไฟประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มิตซูบิชิ เอสเตท ได้เข้าร่วมฟื้นฟูและบูรณะให้กลับมางดงามดังเดิม ควบคู่กับการพัฒนาอาคารสำนักงานและเชิงพาณิชย์รอบสถานี ให้กลายเป็น “ประตูสู่มหานครโตเกียว” อย่างแท้จริง

ความแข็งแกร่งของมิตซูบิชิ เอสเตท ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การถือครองที่ดินใจกลางโตเกียว แต่ยังรวมถึงความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่สั่งสมมากว่า 100 ปี ทั้งการวางผังเมือง การออกแบบพื้นที่ที่ตอบโจทย์ชีวิต ไปจนถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ในระยะยาว ซึ่งความเชี่ยวชาญนี้ได้ขยายไปสู่ตลาดโลกในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเอเชีย ผ่านเครือข่ายบริษัทลูกที่บริหารงานอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ บริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท ซึ่งรวมถึงบริษัท Mitsubishi Estate Property Management มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในด้านการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในธุรกิจคอนโดมิเนียม ซึ่งกลุ่ม Mitsubishi Jisho Community ได้บริหารจัดการยูนิตคอนโดมิเนียมมาแล้วกว่า 300,000 ยูนิต พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน มาพัฒนาเป็นบริการหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

หากดูในแง่ของรายได้ประจำปี นับตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 – 31 มีนาคม 2568 บริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท สร้างรายได้จากทุกภาคส่วน รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ญี่ปุ่นและการลงทุนทั่วโลกได้มากถึง 1,579 พันล้านเยน สะท้อนได้ถึงความแข็งแกร่งในมิติของการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับโลก

จากจุดเริ่มต้น สู่ความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่มากกว่าแค่เรื่องธุรกิจ

ส่วนจุดเริ่มต้นของการร่วมทุนของทั้งสองบริษัทนั้น คงต้องเล่าย้อนไปเมื่อปี 2557 ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเห็นเพียงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจในประเทศไทย แต่เพราะทั้งสององค์กรมองไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว สำหรับเอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท ‘เป้าหมายใหญ่’ สำคัญกว่า ‘ผลตอบแทนสั้นๆ’

ทั้งสององค์กรจึงไม่เลือกพันธมิตรจากดีลที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด แต่เลือกจากความเข้าใจใน “คุณค่า” ที่ตรงกัน คือการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยการแบ่งปันความรู้ ความชำนาญเฉพาะด้านที่ต่างคนต่างมีร่วมกัน เพื่อร่วมกันส่งมอบ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ให้กับคนไทย

แม้ว่าในขณะนั้นตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจจะดูไม่สดใสนักก็ตาม จากปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงมีผลต่อเนื่อง คือ สถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้กิจกรรมการลงทุนและกิจกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ทั้งสองบริษัทกลับเลือกที่จะปั้น “ดีล” นี้ขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์

“เราทั้งคู่ต่างกำลังมองหา พันธมิตร ที่พร้อมจะขับเคลื่อนและผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปในระยะยาวด้วยกัน ไม่ใช่แค่ผู้ร่วมลงทุน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่และท้าทายอย่างมาก” อนุพงษ์ อัศวโภคิน กล่าว

เช่นเดียวกันกับ ยูจิ โอกาโมโต ที่มองว่า “ปรัชญาการทำงานของเอพีสอดคล้องกับ Brand Slogan - A Love for People, A Love for City ของมิตซูบิชิ เอสเตท ซึ่งการผสานความร่วมมือครั้งนี้ เราเชื่อว่าจะนำไปสู่การสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับคนไทย”

พันธมิตรรายแรกและรายเดียวที่จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย

สิ่งที่ทำให้ความร่วมมือระหว่าง เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท แตกต่างจาก Joint Venture ทั่วไป คือ การที่ทั้งสององค์กรไม่เพียงแค่ร่วมลงทุน แต่ยังมีการ "แบ่งปันองค์ความรู้เฉพาะทาง" อย่างลึกซึ้งในทุกขั้นตอนที่ไม่ใช่แค่การส่งข้อมูลข้ามไปมาเท่านั้น โดยได้จัดตั้ง บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนท์ จำกัด ขึ้นในประเทศไทย ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 51:49 และทุนจดทะเบียน 12,619 ล้านบาท เพื่อเป็นบริษัทหลักในการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในไทยระยะยาว

12 ปีแห่งความร่วมมือ ไทย-ญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่ความสำเร็จทางธุรกิจ แต่คือบทพิสูจน์ “ความไว้ใจ”

นี่คือ พันธมิตรทางธุรกิจรายแรกและรายเดียวในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีโมเดลร่วมทุนด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความไว้เนื้อเชื่อใจและความจริงใจที่มีให้กัน เพราะตราบใดถ้าวิสัยทัศน์ไม่ตรงกัน ต่อให้ร่วมทุนด้วยเงินมากแค่ไหน สุดท้ายก็ไปต่อด้วยกันไม่ได้อยู่ดี

ต่อมาเมื่อจิ๊กซอว์ได้ก่อร่างสร้างตัว การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนจึงนำไปสู่การส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นมาทำงานร่วมกับทีมเอพีอย่างถาวร เพื่อสานต่อเป้าหมายระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับ AP Principles - The Principles of Living Quality ซึ่งเป็นปรัชญาหลักของเอพีในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ด้วยการนำแรงบันดาลใจจากหลัก Five Eyes ซึ่งเป็น Core Value ในการสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพของมิตซูบิชิ เอสเตท มาประยุกต์ใช้ให้สอดรับกับบริบทตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

และเพื่อยกระดับคำว่า ‘คุณภาพชีวิต’ ให้ลึกกว่าแค่ความสวยงาม แต่คือคุณภาพที่ลูกค้าต้องรู้สึกได้จริง ในโครงการเครือเอพีกว่า 200 ทำเล ที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพ ปริมณฑล และทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย

ปรัชญา AP Principles สะท้อนผ่าน 5 แกนคุณภาพที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ "คุณภาพที่ลูกค้าทุกคนต้องรู้สึกได้จริง" ดังนี้

  • AP CODE มาตรฐานการออกแบบ ก่อสร้าง และตรวจสอบที่เข้มข้นในทุกกระบวนการ
  • AP EMPATHY DESIGN เข้าใจชีวิตจริง ก่อนออกแบบพื้นที่ชีวิต
  • AP SUSTAINABLE LIFE การอยู่อาศัยที่ดี ต้องดีต่อโลกด้วย
  • AP SMART LIFE ชีวิตที่ดีขึ้น เริ่มจากการควบคุมได้ทุกวัน
  • AP LIVING SERVICE คุณภาพชีวิตที่ดี…ต้องมาพร้อมความสบายใจในทุกวัน

และด้วยระยะเวลากว่า 12 ปี ของความร่วมมือ เอพี และ มิตซูบิชิ เอสเตท ที่ได้สั่งสมมานั้นก่อให้เกิดการพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมทุนในทำเลเมือง รวมทั้งสิ้น 31 โปรเจกต์ มูลค่ารวมกว่า 137,000 ล้านบาท โดย 13 โครงการปิดการขาย (Sold Out) ไปแล้ว และยังคงเหลือโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเตรียมเปิดขายอีก 18 โครงการ มูลค่า 29,519 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการที่เปิดตัวไปล้วนได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งในมิติการขายและการโอนกรรมสิทธิ์

ความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่ง และก้าวต่อไปเพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน

ยูจิ โอกาโมโต ได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “มิตซูบิชิ เอสเตท มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถร่วมสร้างคุณูปการให้กับสังคมไทย ผ่านธุรกิจร่วมทุนกับพันธมิตรที่ดีและแข็งแกร่งอย่างเอพี ไทยแลนด์ และจะยังคงจับมือเดินหน้าร่วมกันไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบคุณค่าในฐานะบริษัทญี่ปุ่นให้กับสังคมไทยต่อไปในอนาคต”

ในขณะที่ อนุพงษ์ อัศวโภคิน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของพันธมิตรนี้ว่า “มิตซูบิชิ เอสเตท มีความพิเศษ ไม่เพียงแต่ในแง่ของขนาดบริษัท และประสบการณ์ระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล จุดประกายให้ทีมเอพีไม่หยุดนิ่งที่จะยกระดับให้สินค้าและบริการตอบโจทย์ชีวิตดีๆ ที่ลูกค้าเลือกเองได้”

เพราะการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน มิได้อยู่ที่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว

การเดินทางกว่าทศวรรษของ เอพี และ มิตซูบิชิ เอสเตท คือ บทเรียนอันล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นว่า “การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ไม่ได้อยู่ที่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกันจากรากฐานของความเชื่อมั่น ความไว้ใจ วิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การส่งมอบชีวิตที่ดีแก่ผู้คน และความจริงใจในการแบ่งปันองค์ความรู้ ที่ยาวนานกว่า 12 ปี ไกลเกินกว่าคำว่า Joint Venture”

เพราะนี่คือหัวใจสำคัญที่หล่อหลอมให้พันธมิตรคู่นี้แข็งแกร่งและยืนหยัดได้อย่างสง่างาม ท่ามกลางทุกมรสุมทางเศรษฐกิจ เปรียบดั่งต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึก ไม่มีพายุใดพัดโค่นได้ หากรากฐานนั้นแข็งแกร่งพอที่สร้างได้ด้วยความเข้าใจและศรัทธาในคุณค่าที่แท้จริง

แล้วคุณมองว่า ปัจจัยสำคัญที่สุด ที่ทำให้ความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาวประสบความสำเร็จคืออะไร?


Author

ไทยรัฐออนไลน์

ไทยรัฐออนไลน์