“ทศสีห์ โควสุรัตน์” ปักธงญี่ปุ่นบนผืนดินอีสาน “โอชิเน” ร้านอาหาร 28 สาขากลยุทธ์ป่าล้อมเมือง

เป็นคนบ้านเดียวกัน จักรวาลจึงเหวี่ยงให้ “เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์” เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่น และ “สิทธิชัย โควสุรัตน์” อดีต รมช.มหาดไทย ในฐานะคนอุบลราชธานีด้วยกัน มาพบเจอและร่วมลงขันเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นระดับตำนาน “ฮอนโมโน” (Honmono) สาขาแรกที่ทองหล่อตั้งแต่ปี 2552 เพราะอยากให้คนอุบลราชธานีได้กินอาหารญี่ปุ่นที่สดใหม่ คุณภาพเทียบเคียงกับที่ “ฮอนโมโน” เสิร์ฟลูกค้า โปรเจกต์ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น “โอชิเน” (Oshinei) จึงถูกริเริ่มขึ้น โดยมี ทศสีห์ โควสุรัตน์ บุตรชายคนเดียวของคุณสิทธิชัย เข้ามาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงร่วมก่อตั้ง ลงทุน และกำหนดทิศทาง ร่วมกับเชฟบุญธรรม เชฟกิตติศักดิ์ ลีล้อม และเชฟสมพร โพธิ์ษาราช

เปิดให้บริการสาขาแรกในปี 2557 ที่อุบลราชธานี ผลประกอบการปี 2567 ล่าสุด บริษัท โอชิเน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด มีรายได้ 600 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท และยังหยัดยืนกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง (Small Town Strategy) เปิดสาขานอกกรุงเทพฯและปริมณฑล ครอบคลุม 28 สาขา ทั้งที่ลงทุนเองและขยายผ่านแฟรนไชส์ในอุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหาร สุรินทร์ พิษณุโลก เชียงราย ระยอง หาดใหญ่ ชลบุรี นครปฐม อยุธยา ลพบุรี และเวียงจันทน์ (สปป.ลาว) เป็นต้น

ปัจจุบัน คุณนนท์-ทศสีห์ ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการลงทุนองค์กรและธุรกิจอาหาร บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเอทานอล แป้งมันสำปะหลัง ก๊าซชีวภาพ และไฟฟ้า หลังอุบลไบโอเข้ามาซื้อหุ้นโอชิเนในสัดส่วน 60% มูลค่ารวม 358 ล้านบาทเมื่อเดือน ต.ค.2567 เพราะต้องการขยายสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ กระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของธุรกิจเดิม

“การขายหุ้นให้กับอุบลไบโอไม่เกี่ยวกับเงิน โอชิเนมีกำไร มีสภาพคล่องสูง ไม่มีหนี้ เราไม่ได้ต้องการเงิน แต่กำลังมองหาโอกาสเติบโตในอนาคต จริงๆเราถูกจีบจากนักลงทุนหลายราย แต่ขายให้อุบลไบโอเพราะเป็นธุรกิจครอบครัว การซื้อขายหุ้นเป็นไปตามเกณฑ์บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ”

หลังมีบริษัทจดทะเบียนเข้ามาถือหุ้น คุณนนท์เล่าว่า Mindset ของทีมต้องเปลี่ยนหมด จากระบบพ่อ-ลูก-เชฟกลายเป็นมีผู้ถือหุ้นเป็นบริษัทในตลาดฯ ทั้งอุบลไบโอ กลุ่มบางจาก และกลุ่มปตท. “ผมเคยคิดว่าทีมผมเก่งอยู่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นพวกเขาเก่งขึ้นอีก เมื่อก่อนซื้อวัตถุดิบจากญี่ปุ่น เราซื้อไปเรื่อย ไม่เคยคำนวณความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงิน ไม่เคยนำมาเป็นปัจจัยเรื่องต้นทุน แต่ตอนนี้เราต้องดูหมดเพราะผู้ถือหุ้นบอกให้เราต้องประกันความเสี่ยงตรงนี้ไว้ด้วย นอกจากข้อดีที่ต้นทุนการเงินของเราต่ำลง จากดอกเบี้ยกู้ยืมอัตรา 6-7% ตอนนี้ลดเหลือ 3.5% เพราะบริษัทแม่เป็นบริษัทจดทะเบียน”

ก่อนเปลี่ยนสถานะจากเจ้าของร้านอาหารมาเป็นผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ คุณนนท์เคยรับราชการทหารมาก่อน เขาเรียนจบปริญญาตรีด้านการเงินจากออสเตรเลีย ไม่เคยเรียน รด. พอต้องเกณฑ์ทหารเลยตัดสินใจสมัครเป็นทหารเสียเลย ขณะนั้นกองทัพมีนโยบายขยายกำลังพลสู่ความเชี่ยวชาญอื่นๆ เช่น การเงิน จึงกลายเป็นโอกาส

“ผมรับราชการตั้งแต่อายุ 23 ลาออกปี 2564 ตอนอายุ 32 ปี ยศสุดท้ายคือพันตรี เพราะมีลูก เริ่มรู้สึกจัดการทั้งเงินและเวลาไม่ได้ ค่าใช้จ่ายเยอะ เวลาน้อย จึงอยากหันมาทุ่มเททำธุรกิจร้านอาหารจริงจัง มองหาลู่ทางใหม่ๆ มีเวลาให้ลูก”

ตอนเริ่มธุรกิจโอชิเน คุณนนท์ซึ่งรับราชการทหารควบคู่ไปด้วย อธิบายตัวเองว่าอยู่ในบทบาทผู้ถือหุ้นเสียมาก นั่นคือปล่อยให้คนได้ทำงานและติดตามผล โดยยึดหลัก Trust But Verify นั่นคือให้ความไว้วางใจแต่ต้องตรวจสอบได้

“หลักการทำงานของผมอิงจากอาชีพทหารที่ทำมา 10 ปี เน้นบัญชาการ (Commander) แล้วติดตามผล ให้คนได้ทำงานของเขาไป ไม่ล้วงลูก ผมให้เชฟบริหาร-จัดการหมด เมนูยังไม่ยุ่งเลย เพราะถ้าผมอยากได้เมนูนั้น เมนูนี้ จะกลายเป็นไปวุ่นวาย แทรกแซงเชฟ ต้องปล่อยให้เขาทำงานของเขาอย่างเต็มที่ หน้าที่ของผมคือติดตามผล บริหารความสัมพันธ์ ทั้งผู้ถือหุ้น พาร์ตเนอร์ ลูกค้า การทำให้ทุกคนแฮปปี้ทำให้โอชิเนเติบโตต่อเนื่อง”

มาถึงวันนี้...ที่คุณนนท์ต้องปรับบทบาทมาเป็นผู้บริหารเต็มเวลา นอกจากทำให้ธุรกิจเติบโต เบ่งบานได้ดังใจผู้ถือหุ้น โดยมีเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้าแล้ว คุณนนท์ยังต้องขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งใหม่ๆ โดยมองถึงการเข้าซื้อกิจการร้านอาหารที่มีอนาคต การขยายโอชิเนเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน นอก จาก สปป.ลาว รวมทั้งการนำโอชิเนเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นหนทางทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่มาแล้วไป

เขายังยึดหลักทำงานแบบเดิม นั่นคือให้ความไว้วางใจแต่ต้องตรวจสอบได้ ผ่านการกำหนด Standard Operation Proce dures (SOPs) หรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อลดความผิดพลาดและควบคุมให้คุณภาพอาหารและบริการได้มาตรฐานเท่าเทียมกันทุกสาขา.

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม