หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชาวฝั่งธนบุรีนับถือ นั่นก็คือ "หลวงพ่อโต ซำปอกง" แห่ง "วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร" สถานที่สำคัญที่วันนี้ "หญิงใบ้" จะพาทุกคนไปขอความเป็นสิริมงคล หลังจากที่เราติดล็อกกับสถานการณ์โควิด-19 มานานหลายเดือน ล่าสุดทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย สิ่งแรกที่ หญิงใบ้ ตั้งใจและได้ทำสมปรารถนาแล้ว คือการเดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพบูชา เพื่อเป็นใบเบิกทางให้โชคชะตาและชีวิตครึ่งปีหลังนี้ ประสบแต่ความสุข ความเจริญ และความสำเร็จในเรื่องต่างๆ "หลวงพ่อโต ซำปอกง" จึงเป็นสถานที่แรกที่หญิงใบ้เลือกไป เพราะใจที่ตั้งมั่นจะไปนั่งสมาธิต่อหน้าพระประธาน เพื่อขอสติสัมปชัญญะและปัญญาให้เกิดกับตัว เราจึงนำเรื่องราวความสำคัญของวัดแห่งนี้ รวมถึง "เลขเด็ด" และ "โชคลาภ" มาฝากทุกคนด้วย ไปรู้จัก "หลวงพ่อโต ซำปอกง" พร้อมๆ กัน


...
รู้จัก "หลวงพ่อโต ซำปอกง" แห่งวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
ทุกคนรู้จัก "หลวงพ่อโต ซำปอกง" แต่จะรู้หรือไม่ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร? เริ่มตนตั้งแต่วัดกันก่อน "วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร" หรือ "วัดกัลยาณ์" ได้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางใหญ่ฝั่งใต้
"เจ้าพระยาโต" อุทิศบ้านและที่ดินสร้างพระอารามหลวง
เจ้าพระยานิกรบดินทร์มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) ต้นสกุล "กัลยาณมิตร" ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง


รัชกาลที่ 3 ผู้สร้าง "หลวงพ่อโต"
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือ "หลวงพ่อโต" ด้วยมีราชพระประสงค์จะให้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ริมน้ำในกรุงรัตนโกสินทร์ เหมือนกรุงเก่าที่มีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่น วัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซำปอกง หรือ ซำปอฮุดกง
"หลวงพ่อโต" เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน จึงมีการเรียกชื่อแบบจีนว่า "ซำปอฮุดกง" หรือ "ซำปอกง" ที่คุ้นหูกันนั่นเอง โดยเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11.75 เมตร สูง 15.46 เมตร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานช่วยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ฯ เสด็จก่อพระฤกษ์เมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2380 อยู่ภายในพระวิหารขนาดใหญ่อยู่กลางวัด ตรงกลางระหว่างวิหารเล็กและพระอุโบสถ

...

พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ
พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์) ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างพระราชทาน เป็น 1 ใน 2 วัด ของกรุงเทพมหานคร ที่มีพระประธานของพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ อีกแห่งคืออุโบสถวัดบางขุนเทียนใน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ 3 และยังมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4 ด้วย
ยกเลิกพิธีห่มผ้า "หลวงพ่อโต"
ด้วยองค์ "หลวงพ่อโต" มีสีเหลืองทองอร่ามทั้งองค์ และถือเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยและคนจีนในประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ ตรุษจีน และวันทิ้งกระจาด โดยแต่ก่อนนั้นจะมีการสร้างเทวดากระดาษเพื่อใช้ในพิธีวันทิ้งกระจาดด้วย แต่ในปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว เช่นเดียวกับพิธีห่มผ้าหลวงพ่อโต เนื่องจากหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่องค์สูงใหญ่มาก ดังนั้นการทำพิธีห่มผ้าต้องใช้คนขึ้นไปยืนบนพระพุทธรูป ซึ่งดูแล้วไม่เหมาะสมและทำให้สีของพระพุทธรูปเสียหาย ทำให้ต้องใช้งบประมาณมากในการบูรณะซ่อมแซม ปัจจุบันจึงได้ยกเลิกไป มีเพียงพิธีการถวายผ้าห่มด้านหน้าพระประธานเท่านั้น
...


"หลวงพ่อโต" เอามือรับระเบิด
ทั้งนี้มีเรื่องเล่าขานกันว่า ครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินได้มาทิ้งระเบิดลงตรงวัดพอดี ชาวบ้านแถวนั้นเชื่อกันว่า ด้วยบารมีของ "หลวงพ่อโต ซำปอกง" ได้เอามือรับระเบิดแล้วเหวี่ยงระเบิดไปที่สะพานพุทธฯ จึงทำให้คนที่มาหลบอยู่ในวิหารปลอดภัย นี่ก็คือหนึ่งในความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่า...ใครไปที่นี่ขอให้ตั้งมั่น แล้วไปขอพร ขอสิ่งใดก็ได้ตามที่ใจปรารถนา ทุกคนก็จะได้รับพรนั้นกลับมา
...
"เลขเด็ด" หญิงใบ้
ส่วน หญิงใบ้ เองก็ตั้งใจไปนั่งสมาธิ ก็ได้นั่งสมาธิสักพักหน้าพระประธาน รับรู้ได้ถึงพลังของสติและความสงบ ก่อนจะลุกขึ้น และแอบเสียดายนิดหน่อยที่นั่งไม่ได้นาน เพราะภารกิจยังมีอีกมากมายนัก ทีนี้จึงสวดมนต์ขอพร หลังจากที่แวะไปซื้อดอกไม้สดสวยๆ จากปากคลองตลาดมาถวายด้วย ก่อนจะหยิบเซียมซีมาเสี่ยง ตกลงมา 2 ไม้จ้า เลขที่ออกก็คือ 23 และ 26


เอาเป็นว่า กลับไปกลับมาด้วย 32 และ 62 สำคัญกว่านั้นคือห้ามลืม พ.ศ. สร้างวัด 2368 กลับมัน 4 ตลบ 8 ตลบ ไปเลยจ้า แถมด้วย พ.ศ. เสด็จก่อพระฤกษ์ 2380 เชื่อสิ...มันต้องออก!
แล้วไปไหว้พระกันอีกรอบนะ ไปมันพรุ่งนี้เลย 16 มิถุนายน 2563
อ้อเกือบลืม...ตอนนี้ที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารแห่งนี้ ได้ปรับปรุงบูรณะจนสวยงามตระการตาอย่างมาก หากใครยังไม่ได้ออกไปไหนเลย หลังจากที่อัดอั้นกับโควิด-19 มานาน หญิงใบ้ ขอแนะนำให้ไปสักการะหลวงพ่อโตที่วัดแห่งนี้ พร้อมไปเยี่ยมชม ดูสถาปัตยกรรมโบราณ รวมไปถึงไปปล่อยปลา ปล่อยเต่าที่นี่ ก็จะสุขใจไม่น้อยเลยทีเดียว


ลองไปตามรอย หญิงใบ้ กันดูนะคะ
สุขสันต์วันหวยออกจ้า.