คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เวลาไม่ค่อยได้ไปไหน หรืออยู่แต่ที่บ้านคงจะรู้สึกอึดอัด อยากจะออกไปดูนู้นดูนี่บ้าง บางคนก็อยากจะออกไปท่องเที่ยวเหมือนตอนที่ยังไม่ท้อง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องของสรีระร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การเดินทางต้องลำบากและต้องเตรียมตัวเยอะหน่อย สำหรับ แม่ท้องอยากเที่ยว ต้องเตรียมตัวอย่างไร เรามีมาฝากกันค่ะ

1. กระเป๋าเดินทางล้อลาก
กระเป๋าหิ้วหรือกระเป๋าสะพายที่หนัก อาจจะไม่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะมันสามารถทำให้คุณแม่คลอดน้องก่อนกำหนดได้ วิธีที่ดีที่สุดนอกจากจะให้สามีช่วยถือก็คือ กระเป๋าเดินทางล้อลาก โดยเฉพาะเวลาที่แม่ท้องต้องเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว

2. สวมรองเท้าที่สบาย
แม่ตั้งครรภ์ที่ท้องกำลังโตจะเดินทางไปไหนก็ลำบาก เพราะต้องแบกน้ำหนักของลูกน้อยในท้องและเมื่อต้องเดินนานขาก็ต้องรับน้ำหนักมาก ทำให้ปวดเมื่อยได้ง่าย ดังนั้นรองเท้าที่ใส่จึงสำคัญมาก คุณแม่ต้องเลือกสวมรองเท้าที่ให้ความนุ่ม รองรับเท้าที่ช่วยพยุงร่างกาย งดรองเท้าส้นสูงและรองเท้าแฟชั่นไปก่อน โดนเฉพาะการเดินทางไกลๆ ไม่เช่นนั้น คุณแม่จะรู้สึกทรมานมาก

3. ขวดน้ำ
โดยปกติแล้วถ้าคนเราเจออากาศที่ร้อนหรือเดินทางเหนื่อยๆ มักจะกระหายน้ำเป็นพิเศษ สำหรับแม่ท้องเองก็เช่นกันแต่อาจจะอยากดื่มน้ำมากขึ้น แน่นอนว่าขวดน้ำจะขาดไม่ได้ คุณแม่ต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ โดยปริมาณน้ำที่แม่ท้องต้องใช้ในแต่ละวันก็คือ ประมาณ 1 – 2 ลิตร ปริมาณน้ำ 1 -2 ลิตร หากแม่ท้องขาดน้ำ จะทำให้ปริมาณของเหลวในร่างกายลดลง เลือดจะเข้มข้น ซึ่งอาจไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ปริมาณมาก และนำไปสู่ภาวะคลอดก่อนกำหนดได้

4. ขนมขบเคี้ยวพออิ่มท้อง
อย่างที่รู้กันว่าแม่ตั้งครรภ์มักจะหิวบ่อยๆ ทำให้ต้องหาของกินอยู่ตลอดเวลา แล้วถ้าแม่ท้องต้องเดินทางโดยการนั่งรถหรือเครื่องบินเป็นเวลานานแล้วละก็คงเป็นเรื่องทรมานมาก หากไม่มีของให้กินเวลาที่ท้องหิว ดังนั้น คุณแม่ต้องเตรียมอาหารหวานหรือขนมขบเคี้ยวที่ช่วยบรรเทาความหิวติดกระเป๋าไปด้วย อาจเลือกเป็นผลไม้ ธัญพืช นม หรือช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ ก็เพียงพอแล้ว และหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เหมาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์

...

5. วิตามินบำรุงครรภ์
สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ วิตามินบำรุง เพื่อให้ลูกน้อยและตัวคุณแม่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สิ่งนี้ห้ามลืมเด็ดขาด! ทางที่ดีควรหยิบใส่กระเป๋าถือที่คุณแม่พกติดตัวจะได้ไม่ลืม ซึ่งวิตามินสำหรับแม่ท้อง ได้แก่ กรดโฟลิก หรือโฟเลท หรือวิตามิน บี 9 ช่วยป้องกันไม่ให้ลูกในท้องพิการได้ ธาตุเหล็ก ซึ่งจะช่วยบำรุงเลือดคุณแม่ไม่ให้มีปริมาณทฮีโมโกลบินต่ำเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด แคลเซียม อีกหนึ่งวิตามินที่สำคัญมาก เพราะลูกในท้องจะดึงแคลเซียมของคุณแม่ไปใช้อยู่เสมอ แม่ท้องจึงต้องทานแคลเซียมชดเชย และวิตามินรวม

6. ยาพื้นฐาน
การเดินทางหรือไปอยู่ในต่างที่ต่างแดน ทำให้แม่ท้องเกิดความเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะอาหารที่ผิดแปลกไปจากเดิม สภาพอากาศ หรือสิ่งแวดล้อม การเตรียมตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้าน อย่างเช่น ยาแก้ปวดหัว ยาทาแก้ปวด ยาดม ยาหม่อง สำหรับยาบางประเภท แม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษากับคุณหมอประจำตัวเสียก่อนว่าทานได้ไหม จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง

7. ถุงเท้า
ถุงเท้านอกจากจะให้คุณแม่สวมรองเท้าได้สบายมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายเมื่อเจออากาศที่เย็น แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่อึดอัด เพราะถ้าถุงเท้ารัดแน่นมากเกินไปก็ไม่เกิดผลดีกับแม่ท้องอีกเช่นเดียวกัน

8. ใบรับรองทางการแพทย์
สำหรับแม่ท้องที่เดินทางโดยรถยนต์ใบรับรองอาจไม่จำเป็น แต่ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินจะมีความจำเป็นมาก สายการบินส่วนมากต้องการจดหมายรับรองจากแพทย์ที่ดูแลคุณสำหรับการตั้งครรภ์ตั้งแต่ 28 อาทิตย์ขึ้นไป และอาจขอดูรายละเอียดทางการแพทย์ และประกันที่ครอบคลุมตลอดการเดินทางหรือไม่ เพื่อจะได้ทราบว่าคุณแม่มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ หรือความเสี่ยงอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง

9. หมอนสักใบ
การนั่งรถนานๆ หรือนั่งท่าเดิมนานๆ ไม่ดีแน่ เพราะคุณแม่จะรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว เพราะหลังต้องรองรับท้องที่ใหญ่นานๆ การที่มีหมอนสักใบมาหนุนที่หลังก็จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยให้หายปวดเมื่อยจากการเดินทางก็ตาม