ยังเป็นช่วงที่เราแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน แต่ความผูกพันยังเหมือนเดิมนะคะ ไม่เจอหน้าเจอตัว แต่ดูแลหัวใจกันไป อย่างน้อยสิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ คงช่วยลดภาระอันยิ่งใหญ่สำหรับคุณหมอและพยาบาลในการยื้อชีวิตใครๆ กับไวรัสโคโรนา

ล่าสุด อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวออกมาเตือนค่ะว่า ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” อาจมีสถิติความรุนแรงในครอบครัวพุ่งสูง และผู้หญิงมีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงได้มากกว่า สาเหตุอาจเกิดจากการที่คู่รักใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเกินไป เลยมีปากเสียงกัน จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนลุกลามไปสู่การหย่าร้างในที่สุด จีน เจอมาแล้วค่ะ แค่ช่วงเวลาไม่ถึงเดือนมีคนเดินหน้าไปหย่ากันเกือบ 300 คู่ ที่ฝรั่งเศสก็มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น 32% มีผู้หญิง 2 คนเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายโดยคนในครอบครัว ที่อังกฤษ มีคนโทรฯไปขอความช่วยเหลือเพราะถูกคนในบ้านทำร้ายเพิ่มขึ้นถึง 65% เลยต้องเตือนครอบครัวชาวไทย ในวันที่เรามีเวลาอยู่ใกล้กันมากเกินไป จนความอบอุ่นเริ่มกลายเป็นอึดอัด แถมโดนกดดันด้วยภาวะเศรษฐกิจ ที่ไม่รู้ว่าโควิดจะไปจากโลกเราเมื่อไหร่ เงินที่เคยได้ก็หายไป ในขณะที่รายจ่ายก็ยังคงทน เมื่อต่างคนต่างเครียดแล้วต้องมาอยู่ใกล้ๆ กันเลยสั่นคลอนความสัมพันธ์ได้ไม่ยาก

แตะเบรกตัวเองเอาไว้ ในช่วงหัวใจเปราะบาง ไม่มีใครได้ดั่งใจเราไปซะทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวเองในบางวัน นับประสาอะไรจะไปกดดันเขา ตอนนี้เราอยู่ในภาวะสงครามโรคค่ะ ไม่เห็นหน้าค่าตาว่าเรากำลังสู้อยู่กับอะไร มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เชื้อนี้เข้าไปทำลายปอดแล้ว นอกบ้านเจอเรื่องยากนัก ยิ่งต้องรักกันให้มากๆ ในบ้าน บางคนแค่ห้ามกันไม่ให้ออกจากบ้านด้วยความเป็นห่วง ก็ประท้วงด้วยการยิงตัวตาย กอดกันก็กอดไม่ค่อยได้ ต้องใช้ความใส่ใจและเข้าใจกันเยอะๆ ลำพังไม่มีโรคระบาด ความรักในยุคนี้ก็ยากอยู่แล้ว เมื่อเพิ่มแรงกดดันเข้าไป ชีวิตเลยพังได้ง่ายๆ มีอะไรอยากเล่า พื้นที่ตรงนี้ยังรับฟังเสมอนะคะ ไม่ได้เก่งกว่าใคร แต่มั่นใจว่ามีเวลามากพอจะรับฟังค่ะ

...

“พี่อ้อยคะ หนูรู้ว่าแฟนคุยกับผู้หญิงหลายๆ คน หนูเลยตัดสินใจไปคุยกับคนอื่นเหมือนกัน เพราะหนูคิดแค่ว่า เธอทำได้ เราก็ทำได้ แต่คุยไปคุยมา มันรู้สึกดี เริ่มผูกพันมากขึ้นๆ ค่ะ ตอนนี้แฟนหนูเขายอมเลิกคุยกับคนอื่นแล้ว แต่หนูเริ่มลังเล หนูควรทำยังไงดีคะ”

มีแฟนไม่ดี ไม่เห็นต้องทำตัวไม่ดีให้เสมอกัน เขานอกใจได้ เรานอกใจเป็น ใครๆ ก็คงเห็นว่าพอกัน อยากได้แฟนดี เราต้องทำตัวเป็นผู้หญิงดีๆ ที่คู่ควรกับความรักดีๆ ด้วยค่ะ ถ้าเขาเจ้าชู้ เราก็คบทั้งที่รู้ทั้งรู้ แปลว่าความเจ้าชู้ เขารู้ว่าเรารับได้ อยู่ๆ ก็กลายเป็นของตาย ให้เขามีใครก็ได้ พร้อมๆ กับมีเรา ถ้ารับไม่ไหว ก็บอกเลิกให้จบๆ ไปไม่ใช่คบซ้อน ตอนนี้เลยไม่รู้ว่า แฟนที่มี จะมีเอาไว้ทำไม ในเมื่อตอนที่เราไปคุยกับใครต่อใครดูเร้าใจกว่าตั้งเยอะ งั้นก็ต่างคนต่างไป คราวนี้จะไปบริหารเสน่ห์ที่ไหนยังไงก็ไม่ผิด เพราะไม่มีใครที่คิดจริงจัง สถานะทุกคนเท่ากันคือ “ของเล่น” ดีกว่าเป็นแฟนจริงจังของใครสักคน แต่กลับหยุดที่คนๆ นั้นไม่ได้ แฟนเผลอก็อ่อยทั่วๆ ไป อยู่ๆ จะลดคุณค่าของตัวเองทำไมให้ใครๆ ดูถูกได้ว่า เราเป็นผู้หญิงมักง่ายที่ใครๆ ก็คุยได้แบบไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกอะไร

อย่าโทษที่เรามีแฟนเจ้าชู้ เลยทำให้เราต้องไม่รู้จักพอไปด้วย เขาส่วนเขา เราส่วนเรา ตอนนี้พอเขาเจ้าชู้จนสุด เรากลับเริ่มหยุดตัวเองไม่ได้ เสพติดความตื่นเต้นอยู่ร่ำไป ถึงได้บอกไงคะว่า ไม่มีใครทำให้เราเป็นอะไรได้ ถ้าใจเราไม่ยอม รักปลอมๆ หาง่าย รักจริงใจหายาก ถ้ายังไม่อยากหยุดที่ใคร อย่าดึงเขาไว้ในชีวิต อย่าคิดจะรักใคร ถ้าความซื่อสัตย์ง่ายๆ ยังให้กันไม่ได้เลย “เจ้าชู้” ไม่ใช่อุปนิสัยที่จำใจต้องยอมรับ ถ้านับว่าการนอกใจเป็นเรื่องธรรมดา การเสียน้ำตาก็จะกลายเป็นเรื่องปกติค่ะ