เราได้ยินมาว่าที่ประเทศไทยกำลังจะมีปรากฏการณ์ Oppa ครั้งแรกในไทย โดยเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย 'แพร ธรรมวัฒนะ' เจอกับคุณเรโด้ เลยได้สอบเรื่องราว Oppa ครั้งแรกในไทย มีความพิเศษอะไรบ้าง และเรื่องลับๆ ที่ทำไมคนชอบคิดว่าไทยยังตามหลังเกาหลีมีปัจจัยอะไรบ้างและอื่นๆ อีกมากมายไปฟังกัน

ปรากฏการณ์ Oppa Expo

'Oppa Expo เป็นงานที่ยกนำประสบการณ์การเที่ยวกลางคืนที่เกาหลีในผับดังทุกย่านมาร่วมกันไว้ที่กรุงเทพฯ 1 คืน' เธอหัวเราะและเล่าว่า เป็นงานที่พวกเราตั้งใจกันจัดขึ้นเพื่อให้คนไทยทุกคนที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมเกาหลี เพลงเกาหลี การเที่ยวกลางคืนแบบเกาหลี Production แสงสีเสียงแบบเกาหลีมารวมกันในที่เดียว โดยผ่านทาง Talents หลายๆ คนที่เราคัดมาอย่างดี

'พอคัดคนเด่นๆ มามีแต่ผู้ชายเราเลยตั้งชื่องานว่า Oppa Expo ละกัน ชื่อจำง่าย น่ารัก มาดูพี่ชายสุดหล่อโชว์ความสามารถให้พวกเราดู ในงานจะมีดีเจชื่อดังมากมายที่หากจะไปเจอไปฟังเขาให้ครบจะต้องเสียเวลาหลายคืน และเงินหลายแสนค่ะ แต่เราคัดคนเจ๋งๆ มาให้แล้ว เช่น DJ Aster, DJ Breeze, DJ Axe, DJ Juncoco และ DJ Smasher ซึ่งทุกคนนี้เป็น DJ ชื่อดังและมีฐานแฟนคลับในเกาหลีที่แน่นหนา'

บางคนเคยมาที่ไทยแล้ว แต่ส่วนมากจะยังไม่เคยมาค่ะ และเพิ่มเติมจากการเที่ยวกลางคืนทั่วไปเราอยากให้รู้สึกเหมือนมาดูโชว์เลยมีการนำกลุ่มนักแสดง Wild Wild นักเต้นที่มากความสามารถและกำลังเป็นทีมเต้นที่ฮอตที่สุดในเกาลีมาเต้นแสดงให้ทุกคนดูค่ะ ทีมนักเต้นนี้จะมีหลายคนและต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี แถมไม่เคยมาที่ไทยมาก่อน พวกเราเลยคิดว่าน่าจะเป็นการจัดงานใหม่ๆ ที่ไม่มีใครเคยจัดมาก่อนในประเทศไทย' 

...

เกาหลี ปะทะ ไทย เราใกล้กัน หรือห่างกัน

ถามถึงความยากในงาน ในการนำ DJ ตัวท็อปมางาน แพรพรรณบอกว่า การดีลกับเกาหลีไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเราเป็นมือใหม่ในการจัดงานแบบนี้เลย แถมยังเป็นครั้งแรกในการทำก็จะมีอะไรที่ไม่รู้และตัดสินใจไม่ได้เต็มไปหมด แต่โชคดีที่เราคนรอบข้างที่ดี เพื่อนๆ ที่ดี พี่น้องที่พร้อมช่วยเราตลอดเวลา ช่วง 2-3 อาทิตย์สุดท้ายแพรว่ามันหนักและโหดมากอยู่ คิอเวลาทั้งหมดต้องเทมาทางนี้เลยค่ะ แต่สนุกดีและเปิดประสบการณ์โลกใหม่ให้ตัวเองดีและหวังว่างานนี้จะเป็นหนึ่งในงานประจำปีที่ทุกคนต้องอยากมาดู

'ถามว่าลงทุนไปเยอะไหม (หัวเราะ) ราว 20 ล้าน ซึ่งเยอะมากเนื่องจากงาน Production ทั้งหมดเกาหลีจะเป็นคนสเปกทุกอย่างมาและออกแบบให้หมดเลยแต่ต้นค่ะ มาตราฐานทุกอย่างเขาคุมหมดในทุกโชว์การแสดง และยิ่งตรงส่วนที่เป็นการแสดงเต้นโชว์จะมีดีเทลในการทำงานค่อนข้างเยอะเพราะทุกอย่างต้องแข็งแรงและมาตราฐานดีที่สุด แต่ลงดีเทลเวลาไปเยอะกว่ามาก เพราะเราอยากให้ทุกจุดดีจริงๆ ได้คุ้มเหมือนคุณภาพที่บินไปเที่ยวไปดูที่เกาหลีเลย'

มองปรากฏการณ์เกาหลีฟีเวอร์ยังไงในฐานะนักการตลาด เราชงคำถามที่หลายคนสงสัย ในฐานะคนที่ทำการตลาดมาแพรว่าตอนนี้เกาหลีคือผู้นำตลาดเรื่อง Entertainment ระดับโลกในหลายๆ ทางละ

"ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความนิยมในหลายๆ อย่างของเกาหลีนั้นมาที่ไทยในหลายๆ ด้าน คนไทยชอบอาหารเกาหลี ละครเกาหลี เพลงเกาหลี สินค้าหรือ ไลฟ์สไตล์เกาหลี ดังนั้นแพรว่านี่เป็นช่วงพีกของประเทศเกาหลี ไม่ใช่แค่ไทยแต่ในระดับโลกหลายๆ แบรนด์ดังเองก็ต้องมี Ambassador ที่เป็นคนเกาหลีทุกแบรนด์แล้ว แพรเลยหวังว่างาน Oppa Expo น่าจะเป็นอีกหนึ่งงานที่คนไทยจะชอบกัน'

...

คุณเรโด้ ถามย้ำว่า เกาหลีมีอะไร ทำไมไทยยังตามหลังอยู่

'ส่วนตัวแพรว่าประเทศไทยเองก็มี Talent เก่งๆ ดีๆ มากมายแต่แค่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมแบบเกาหลี คือที่ศึกษามาเกาหลีเขาจะทำงานร่วมกันในทุกๆ ฝ่ายเช่นทางภาครัฐ ภาคเอกชน เวลากว่าเขาจะปล่อย Talent ไหนออกมาเขาคิดในทุกแง่มุมแล้วว่าจะใช้โปรโมตยังไง ใช้ดันทรัพยากรสิ่งไหนในประเทศเขาบ้างและทำให้เป็น Global Impact ได้ยังไง'

แพรเลยคิดว่าการคิดและแพลนในรอบๆ ด้านของคนที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศ ทุกภาคส่วนจึงสำคัญมาก เช่นที่เคยได้ยินมาทางภาครัฐอยากสร้างจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเกาหลีให้ดัง เขาจึงให้โจทย์นี้ไปกับทีมสร้างหนังสร้าง Series ต่างๆ พร้อมมีเงินสนับสนุน พอคนมาถ่ายเยอะๆ ละครดังที่ๆ นี้ก็จะดังไปด้วยและกลายเป็นที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศค่ะ แพรเลยคิดว่าสิ่งที่เมืองไทยขาดน่าจะมีแค่นี้เพราะทุกอย่างเราเก่งมากทำได้ไม่แพ้ใคร แค่ขาดการสื่อสารกัน ตั้งจุดมุ่งหมายเดียวกันและการสนับสนุนร่วมมือกันของทางภาครัฐและเอกชน

นักเจอปัญหายากๆ - วิธีแก้ปัญหาแบบมืออาชีพ 

ถามย้ำว่า อะไรทำให้คุณหลงใหลการทำงานยากๆ แบบนี้ อย่างร้านขายของเล่นดีไซเนอร์ทอยส์คนแรกในไทย 

แพรเป็นคนชอบท้าทายตัวเอง ขวนขวายสิ่งใหม่ๆ ค่ะ แพรว่าตอนนี้จุดที่แพรยืนอยู่มองละเพิ่งนึกถึงเดจาวูตัวเองกับน้องชายเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ที่ลองเริ่มจัดงานอะไรใหม่ๆ โดยที่คนยังไม่ค่อยเข้าใจ มองไม่เห็นภาพ และไม่รู้ว่ามันจะดีไหม ใจแพรค่อนข้างเชื่อเซนส์ตัวเองว่ามันจะดีมาก นี่เลยจะเป็นอีกงานที่เราจะสู้และหวังว่ามันจะดีและประสบความสำเร็จเหมือนงาน Thailand Toy Expo ที่เราสามารถจัดได้อย่างประจำในทุกๆ ปีค่ะ

...

สุดท้ายถามถึง ช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำงานยากๆ พร้อมวิธีแก้ไขปัญหา คุณทำอย่างไร

'เวลาทำงานยากๆ ที่ลำบากเลยแล้วหาทางออกไม่เจอ แพรจะหยุดนิ่งละดึงตัวเองออกมาก่อน ไปหาขนมหวาน เดินเล่นทำให้หัวโล่งก่อน แล้วกลับมานั่งมองใหม่จากมุมที่ขยับออกมานิดนึงแล้วนั่งลิสต์ว่าปัญหาคืออะไร เราขาดอะไร แล้วมีอะไรที่เราทำได้บ้าง อะไรที่เราพอมีเส้นทางคนรู้จัดช่วยได้บ้าง ทางแก้คือทางไหน แล้วทำอะไรต่อ จดวาดเป็นรูปในกระดาษ จดลิสต์ทุกทางและลิสต์ทางออกที่แย่ที่สุดก่อน แล้วหาทางแก้จากตรงนั้น คือเอาที่แบบโลกพังทลายเราจะต้องแก้ยังไง คิดว่าจุดจบงานนี้น่าจะผลลัพธ์เป็นแบบไหน จากเจออันนี้เรารับได้ไหม'

เธอหยุดนึกและเล่าต่อว่า หากตอบได้ว่าเรารีบได้ก็มานั่งค่อยๆ ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ทางแก้ที่ไม่น่ามีประโยชน์ออก แล้วพอมองจนทะลุค่อยๆ เริ่มทำจากสิ่งที่เราทำได้เอง ละลามออกไปสิ่งที่หาคนช่วย แล้วก็ลงให้สุดพลังกับเวลาที่มีแล้วจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เลือก สำหรับแพรทำแบบนี้มาตลอดละมันค่อนข้างได้ผล มองโลกจากแง่ร้ายสุดละเตรียมทางออกไว้แล้วมองจากสิ่งที่น่าจะเกิดจริงๆ แล้วเริ่มทำทันที 

...