พลิกวิกฤติเป็นโอกาสพัฒนาบุคลากรเพื่อทำงานเชิงรุก
ชั่วโมงนี้หลากหลายธุรกิจต่างโดนวิกฤติโควิดเล่นงานแบบตั้งรับแทบไม่ทัน รวมทั้งนักธุรกิจสาวคนนี้ ทรรฐวิลี วิวัชร์ธนคุณ เจ้าของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและห้องพักใจกลางเมือง ที่สร้างธุรกิจมาด้วยมือของตัวเอง ผ่านร้อนผ่านหนาวจนมาถึงวันนี้ จึงใช้สติตั้งรับปัญหาที่เข้ามาด้วยพลังบวก สร้างกำลังใจให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้าง รวมทั้งพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสสำหรับตัวเองและพนักงาน
ทรรฐวิลี หรือ ทัด ประธานที่ปรึกษา บริษัท อนุรุธธะ จำกัด และบริษัท สีวลีบางกอก จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและห้องพักใจกลางเมือง ย่านซอยรางน้ำ เล่าถึงเส้นทางที่กว่าจะมาถึงวันนี้ว่า ที่จริงที่บ้านมีธุรกิจโรงน้ำแข็ง แต่ตนเองไม่อยากทำ เพราะเห็นจากพ่อแม่ว่าทำงานหนัก ไม่มีเวลาพักเลย จึงมีความคิดอยากทำธุรกิจที่ไม่ต้องดูแลมาก จึงเริ่มต้นทำธุรกิจที่พักเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ตั้งแต่อายุ 20 ปี ยังเรียนอยู่ปี 2 ที่คณะครุศาสตร์ เอกดนตรี ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มจากศูนย์ ไม่ขอทุนที่บ้าน เพราะตอนนั้นมีเงินเก็บจากการสอนพิเศษดนตรี ซึ่งทัดสอนดนตรีไทยทุกอย่าง ใช้ทุนหลักหมื่น ไม่มีความรู้เลย มีแต่ความอยาก ชอบตรงไหนก็ไปเวียนดู ไปขอเช่า โดนปฏิเสธโดนต่อว่า เพราะเราไม่รู้ สุดท้ายได้ลงทุนด้วยการเช่าตึก 1- 2 คูหา ในราคา 4-5 หมื่น จากนั้นก็ซื้อเป็นตึกใหญ่ๆ จนขยายกิจการมาถึงปัจจุบัน มีจำนวน 210 ห้อง ในย่านซอย รางน้ำ อาทิ Platinum Villa, Sad Sai, Le Clarita เป็นต้น สำหรับในอนาคตตั้งเป้าหมายขยายให้ถึง 1,000 ห้อง ในอีก 5 ปีข้างหน้า
...
จากเหตุการณ์วิกฤติโควิด นักธุรกิจสาวคนเก่งคนนี้บอกอย่างเต็มปากเลยว่า มีผลกระทบกับธุรกิจที่ทำเต็มๆ จึงต้องตั้งรับอย่างมีสติ สิ่งแรกคือต้องทำความเข้าใจยอมรับและตั้งสติ จากนั้นหาความรู้ในสถานการณ์ ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์อยู่ตลอดเวลา หาทางรับมือทั้งเชิงรุกและรับให้เข้ากับสถานการณ์ ให้เข้ากับกระแสจังหวะ มีสติและยอมรับในผลของเหตุการณ์
“วิกฤตินี้มันไม่ใช่ความผิดพลาดของเรา จึงไม่มีมานั่งเสียใจว่าเกิดจากความผิดพลาดที่เราบริหารงานไม่ดี เหตุการณ์นี้ทำให้เราต้อง รักษาใจ รักษาสติ คืออยู่รอให้ถึงวันที่แสงสว่างมันมา เหมือนทีมหมูป่าติดถ้ำ เราต้องเซฟใจเซฟกาย รอวันที่คนมาช่วยเรา แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องช่วยตัวเอง ต้องทำอย่างไร ทัด เลยให้พนักงานทุกคนมาศึกษาหาข้อมูล ว่าคนอื่นเขาทำอย่างไร เราเอาตรงนั้นมาปรับใช้กับธุรกิจเรา นอกจากนี้เราต้องมีการสื่อสารถึงลูกค้าว่าเรามีมาตรการความปลอดภัยเข้มอย่างไร เราทำอะไรบ้าง แล้วเราอยากให้ลูกค้าปฏิบัติตัวแบบไหนในที่ของเราด้วย แล้วต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ทัด บอกลูกน้องเลยว่า ต้องการความเป็นพิเศษ อะไรที่เราทำอยู่แล้ว ขอให้เพิ่มความเป็นพิเศษ ให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่ามีความเป็นพิเศษในอัตรา 1,000 บาท เราจะไปสู้โรงแรม 4-5 ดาว ไม่ได้ แต่ใน เกรดนี้ เราต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นอก จากนี้ในช่วงที่ว่างก็ให้เขาคิดโครงการจิตอาสา ซึ่งทำให้เกิดกิจกรรมฆ่าเชื้อโรคไวรัสด้วย UVC Win Light ฟรีให้แก่หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งทำอุปกรณ์ช้างจับมือ สำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตมือเกร็ง ซึ่งวิฤกติครั้งนี้ทำให้พนักงานได้เรียนรู้หลายอย่าง ทำให้เขาพัฒนามากยิ่งขึ้น”
ผู้บริหารเก่งคนนี้ยังได้ย้ำให้คิดอีกว่า ในวิกฤตินี้ยังมีโอกาส โอกาสมีอยู่ทุกที่ อยู่ที่เราจะมองว่ามันเป็นโอกาสหรือเปล่า สำหรับตนเองมองว่า ครั้งนี้เป็นโอกาสที่เราจะได้ใช้เวลาที่มันเดินช้าลง ให้เกิดประโยชน์ในการปรับปรุงองค์กร เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยจัดสรรเวลาได้พอ ให้โอกาสพนักงานได้มากขึ้นในการทำงานรูปแบบใหม่ๆ เหมือนครั้งนี้เราซื้อบทเรียนที่ล้ำค่าให้กับทั้งตัวเราและตัวพนักงาน.
...
