บุคคลในข่าว : พิชัย จิราธิวัฒน์-สเตฟาน คูม มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่รพ.ศิริราช
อินทรีเหล็ก
6 เม.ย. 2563 05:02 น.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563 ............
ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามอากาศยานเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว...ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 6 เม.ย.เวลา 23.59 น. ... ยกเว้น อากาศยานราชการหรือใช้ในราชการทหาร...อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน...อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค...อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือ ขนส่งเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19...
อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา...อากาศยานขนส่งสินค้า...โดยให้ ผู้โดยสารบนอากาศยานเดินทางออกจากท่าอากาศยานต้นทาง ก่อนประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ...อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อและข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548...โดยต้องได้รับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน.....มีประกาศก็เหมือนไม่มีประกาศอยู่ดี.............

เพราะปัญหาเกิดจาก การไม่ยอมกักตัวของผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ...ที่ส่วนใหญ่ที่มาจาก ประเทศกลุ่มเสี่ยง...เมื่อค่ำวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาจำนวน 106 คน...โดยไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการคัดกรองกักตัวเป็นเวลา 14 วัน....ในจำนวนนั้น มีอยู่ 3 คนที่มีอาการไข้สูง ด้วยซ้ำ....ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีอำนาจอยู่เต็มมือ...ยังบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจไม่ได้...ยังปล่อยให้ กลุ่มเสี่ยง ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เดินทางเข้าออกประเทศไทย เป็นว่าเล่น....ก็ไม่รู้จะประกาศใช้ อำนาจ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทำไม....วัวหายแล้วเพิ่งคิดจะล้อมคอก ............
เช่นเดียวกับ การประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้าน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ของวันใหม่....เป็นเวลาที่ ประชาชน เก็บตัวเองอยู่กับบ้าน...ยกเว้นมีความจำเป็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน...ถ้ายังไม่ปิดโรงงานยังไม่ปิดบริษัท...ต่อให้ ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ก็เอาไม่อยู่....เพราะคนไทยกลัวอดมากกว่ากลัวโควิด............

มีคำชี้แจงจาก เชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ...กรณีที่ ศบค. มีมติให้ กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการ ชะลอคนต่างชาติ และคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยไปจนถึงวันที่ 15 เม.ย.นั้น...กระทรวงการต่างประเทศ ได้ยึดปฏิบัติ ตามคำสั่งของนายกฯ ให้นำคนไทยกลับประเทศอย่างปลอดภัย โดยได้มีการประสานงานกับ สถานทูต และ กงสุลไทยทั่วโลก ดำเนินการตามคำสั่งของ ศบค. ...แต่ได้ ยกเว้นการชะลอกลับประเทศไทย ให้กับ คนไทยที่ได้รับการอนุมัติก่อนวันประกาศ เช่น กลุ่มที่อยู่ในแผนเช่าเหมาลำ หรือ ชาร์เตอร์ไฟลท์ และ ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองจากสถานทูต ไปก่อนหน้านี้แล้ว....ไม่อยากพูดมากเจ็บคอ จบข่าว ............
ตามคำแนะนำของ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา...เสนอมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19...จากกรณีที่ มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก ทะลุ 1 ล้านรายไปแล้ว...สเปน มีผู้เสียชีวิตแซงหน้า อิตาลี...ตามด้วย ฝรั่งเศส...สหรัฐฯ ยังครองแชมป์มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด...โดยไม่มีแนวโน้มว่าการติดเชื้อจะลดลง...สำหรับ ประเทศไทย เริ่มนับจากเดือน เม.ย. ...มีผู้ติดเชื้อ กว่า 1.7 พันคน...เฉลี่ยเรา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในเวลาเพียง 10 วัน...ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ นับจากวันที่ 10 เม.ย.จนถึงวันที่ 30 มิ.ย....

ประเทศไทย จะมีผู้ติดเชื้อถึง กว่า 9 แสนคน ....เพราะฉะนั้น จะต้องมีการ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ โดย ลดการออกจากบ้าน ลงอีกร้อยละ 70...ลดความถี่ในการออกจากบ้าน ลดระยะทางและลดเวลาที่อยู่นอกบ้าน...ลดจำนวนกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่มีอาการ ...ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดคือ เว้นระยะห่างบุคคลให้มากที่สุดคือไม่น้อยกว่า 2 เมตร และเข้มงวดเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย...ไม่เช่นนั้น ประเทศไทยจะชนะ จริงๆ............
ผู้ที่สงสัยจะติดเชื้อโควิด-19 ฟังทางนี้....นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค...แบ่งสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 เป็น 2 กลุ่มคือ ผู้มีประวัติการสัมผัสจากคนเดิม...และ ผู้ป่วยใหม่ ส่วนใหญ่จะมีการติดเชื้อในประเทศ...เฉลี่ยวันละ 90 ราย...ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสามารถรักษาฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข...ทั้ง โรงพยาบาลของรัฐและเอกชน...ตั้งแต่ วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา...และหากมีการคิดค่าใช้จ่ายไปแล้วทาง โรงพยาบาลจะต้องจ่ายคืนค่าตรวจและค่ารักษาทั้งหมด ให้กับ คนไข้โควิด...และหาก โรงพยาบาลไหนยังเก็บค่าตรวจและค่ารักษา ให้แจ้งไปที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้...เฮ้อ บางครั้งการปฏิบัติก็ห่างไกลจากความเป็นจริง............

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19...ลุกลามไปถึง ทำเนียบสภา หน่วยงานรัฐและองค์กรอิสระอย่างทั่วถึง ...ล่าสุด ธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ช. ออกมายอมรับว่า มีผู้บริหารระดับสูงใน ป.ป.ช.ก็ติดเชื้อโควิด จนได้....จึงเป็นไปได้ว่า ภายใต้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องมีการ เลื่อนเปิดสมัยประชุมสภา ที่จะถึงนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด...เป็นการบริหารประเทศอยู่ภายใต้การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบสมบูรณ์ ............

ส่องเศรษฐกิจ รับมือโควิด-19...รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แถลงถึง มาตรการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 3 ชุดใหญ่ไฟกะพริบเป็นที่เรียบร้อย....เป็นระยะเวลา 6 เดือน...แบ่งมาตรการเป็น 3 กลุ่ม...ภาคประชาชนและธุรกิจ ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ...ดูแลให้มีกิจกรรมเศรษฐกิจในช่วงที่ทุกอย่างติดขัด เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก...และ ดูแลภาคเศรษฐกิจการเงิน ที่จะส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศ...


ส่วนหนึ่งจะนำมาจาก งบประมาณรายจ่ายของประเทศ ประมาณร้อยละ 10 ของงบประมาณปี 2563....อีกส่วนหนึ่งมาจาก การกู้ยืมโดยกระทรวงการคลัง และจากการ ออก พ.ร.ก.ของธนาคารแห่งประเทศไทย....คาดจะ ต้องใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ไม่น้อยกว่า 1.6 ล้านล้าน...ส่วนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ จีดีพี จะติดลบเท่าไหร่...ไม่ใช่สาระอีกต่อไป............
"อินทรีเหล็ก"