เคล็ดลับดูแลตัวเองไม่ให้ป่วยช่วงน้ำท่วม ป้องกันโรคน้ำกัดเท้า และยุงลาย

ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกเหนือจากการดูแลทรัพย์สิน คือการดูแล "สุขภาพกาย" ของตนเองและคนในครอบครัว เพราะน้ำท่วมมักนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านสุขอนามัย โดยเฉพาะโรคผิวหนัง และโรคจากพาหะนำโรคอย่างยุงลาย ดูวิธีป้องกันตัวเองเบื้องต้นง่ายๆ จากโรคที่มากับน้ำ ดังนี้

5  เคล็ดลับป้องกัน "โรคน้ำกัดเท้า" และโรคผิวหนัง

การยืนแช่น้ำสกปรกเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังอ่อนแอและติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะเชื้อราที่เท้าหรือน้ำกัดเท้า

1. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน  หากต้องลุยน้ำ ให้สวมรองเท้าบู๊ตยางกันน้ำ  ชนิดยาวที่ปิดคลุมถึงเข่า เพื่อลดการสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนโดยตรง

2. รีบทำความสะอาดทันที ทันทีที่ขึ้นจากน้ำ ให้รีบล้างเท้าด้วยน้ำสะอาด และสบู่โดยเร็วที่สุด

3. เช็ดเท้าให้แห้งสนิท เช็ดบริเวณซอกนิ้วเท้าให้แห้งสนิท เพราะเป็นบริเวณที่อับชื้นและเชื้อราเติบโตได้ดีที่สุด

4. ใช้ยาและแป้ง แป้งจะช่วยดูดซับความชื้น หากเริ่มมีอาการคัน หรือผิวลอก ให้ทายาฆ่าเชื้อรา หรือยาที่มีส่วนผสมของ Benzalkonium Chloride (สำหรับฆ่าเชื้อ)

5. ห้ามเกา หากมีอาการคัน ห้ามเกาเด็ดขาด เพราะจะทำให้แผลลุกลามและติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้

การป้องกันตนเองจากการถูก "ยุงกัด" 

ช่วงน้ำท่วม มักมีน้ำขังตามภาชนะต่าง ๆ ทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกและไข้ซิกา

1. ป้องกันตัวด้วยยากันยุง ทายากันยุง อย่าให้ยุงกันในเวลากลางวัน (เพราะยุงลายออกหากินเวลากลางวัน)

2. สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด ถ้าเป็นไปได้ สวมใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวในเวลากลางวัน เพื่อป้องกันยุงกัด

...

วิธีป้องกันโรคที่มากับน้ำเบื้องต้น

  • ดื่มน้ำที่สะอาดเท่านั้น  ดื่มเฉพาะน้ำบรรจุขวด หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำที่มาจากแหล่งน้ำที่ไม่แน่ใจ
  • เลี่ยงอาหารที่ค้างคืน เพราะอาจจะมีเชื้อโรคปะปนมากับน้ำ ให้ทานอาหารปรุงสุกใหม่ 
  • ล้างมือบ่อยๆ หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้ง หลังการสัมผัส หรือลุยน้ำท่วม
  • การที่เราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ แม้จะเครียดกับสถานการณ์ แต่การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจฟื้นตัว และมีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น

ไทยรัฐออนไลน์ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ปลอดภัยตลอดช่วงเวลาวิกฤตินี้