การวินิจฉัยโรค

การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดดำขอดในเบื้องต้น เริ่มจากการดูและการคลำ เพื่อประมาณและวัดขนาดหลอดเลือดดำขอด

การขยายตัวเองของหลอดเลือดขนาดเล็กที่อยู่ภายในผิวหนัง ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร เรียกภาวะนี้ว่า หลอดเลือดฝอยพอง

กรณีที่หลอดเลือดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-3 มิลลิเมตร ซึ่งขยายตัวอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังและไม่สามารถคลำได้ เรียกภาวะนี้ว่า หลอดเลือดดำลายตาข่าย

เมื่อหลอดเลือดดำขยายมากขึ้นจนคลำได้ ซึ่งอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง โดยทั่วไปมักจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 3 มิลลิเมตร เรียกภาวะนี้ว่า หลอดเลือดดำขอด

แพทย์จะตรวจดูว่า มีอาการบวม ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น มีแผลหรือไม่ ซึ่งการมีแผลและการอักเสบของผิวหนังจะช่วยในการจัดแบ่งประเภทและระยะของโรค

แพทย์จะตรวจเพิ่มเติมด้วยเครื่องมือต่างๆ เพื่อบอกตำแหน่งทางกายวิภาค

ตรวจสอบว่าปัญหาอยู่ที่หลอดเลือดดำผิว หลอดเลือดดำเชื่อมโยงหรือหลอดเลือดดำลึก และเพื่อตรวจว่าหลอดเลือดดำขอดเกิดจากภาวะการไหลย้อนกลับของเลือดดำ หรือเป็นจากการอุดกั้นของหลอดเลือดดำทั้ง 2 อย่างร่วมกัน

การเพิ่มขึ้นของหลอดเลือดขอดบริเวณขาและข้อเท้า จะนำไปสู่การอักเสบติดเชื้อ การมีเลือดออก การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง และการเกิดแผลหลอดเลือดดำ ซึ่งรักษาหายยาก

...

การรักษา

การรักษาผู้ป่วยหลอดเลือดดำขอด มีเป้าหมาย 2 อย่าง คือ เพื่อรักษาอาการที่เกิดจากการไหลย้อนกลับของหลอดเลือด เช่น อาการหนัก ปวดและบวมที่ขา และเพื่อรักษาหลอดเลือดขอดให้น้อยลง

1.การรักษาโดยวิธีใส่ถุงน่องที่มีแรงกดไล่ระดับ เพื่อช่วยลดอาการที่เกิดจากการไหลย้อนกลับของหลอดเลือดดำ ป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ และป้องกันการเพิ่มขึ้นของหลอดเลือดดำขอด นอกจากนี้ยังใช้ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำลึก

ผู้ป่วยส่วนมากที่มาพบแพทย์ด้วยหลอดเลือดขอด อาจไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาโดยการผ่าตัด

โดยอาการจะดีขึ้นหลังการรักษาด้วยการใส่ถุงน่องที่มีแรงกดไล่ระดับรัดที่ขาเวลาเดินหรือยืน และให้ยกขาสูงกว่าลำตัวเวลานั่งหรือนอน

นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่มีอาการจากหลอดเลือดขอดรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือดขอด จึงควรรักษาโดยการฉีดสารก่อกระด้าง การรักษาโดยการกำจัดหรือทำให้ตันจากภายในหลอดเลือดดำและการผ่าตัด

2.การรักษาโดยการผ่าตัด เป็นวิธีที่ถูกยอมรับว่าได้ผลและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดดำขนาดใหญ่มีภาวะเสื่อมและเกิดภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือดดำ

การผ่าตัดประกอบด้วย การผูกบริเวณแขนงต่างๆ ของหลอดเลือดดำและการดึงหลอดเลือดออก ปัจจุบันมีวิธีการผ่าตัดใหม่ๆ ได้แก่ การผูกหลอดเลือดดำ หลอดเลือดดำเพอร์ฟอเรเตอร์หรือหลอดเลือดดำเชื่อมโยงโดยใช้กล้อง การใช้เลเซอร์ หรือคลื่นความถี่เข้าไปในท่อหลอดเลือดเพื่อรักษา การผ่าตัดดึงหลอดเลือดดำขอดออกโดยใช้เข็มและตะขอเกี่ยว

ผลของการรักษาในผู้ป่วยที่ไม่ได้ดึงหลอดเลือดที่โป่งบริเวณต้นขาออก โอกาสกลับมาเป็นใหม่ของหลอดเลือดขอดพบได้ประมาณร้อยละ 10-25 แต่ถ้าดึงหลอดเลือดดำที่ต้นขาออก โอกาสกลับมาใหม่ของหลอดเลือดขอดพบประมาณเพียงร้อยละ 5-15 สาเหตุส่วนใหญ่ของการกลับมาเป็นซ้ำคือ การผ่าตัดครั้งแรกไม่ครบถ้วนเหมาะสม

3.การรักษาโรคหลอดเลือดดำขอดโดยวิธีทำให้ตันจากด้านใน โดยอาจใช้เลเซอร์ คลื่นเสียง หรือฉีดยาผ่านสายสวน กาว ทำโดยการเจาะผ่านผิวหนัง หรือเปิดแผลเล็กๆ เพื่อนำเครื่องมือเข้าไปทำให้หลอดเลือดอุดตันจากด้านใน โดยไม่ได้นำหลอดเลือดออกมา วิธีนี้มีความเจ็บปวดน้อยกว่าการผ่าตัด ประสิทธิภาพในระยะยาวไม่มีความแตกต่างจากการผ่าตัดมากนัก

4.การรักษาหลอดเลือดขอดโดยใช้สารก่อกระด้าง เป็นวิธีการรักษาที่มีความยุ่งยากน้อย ปลอดภัยและให้ผลการรักษาที่ดี โดยเฉพาะในหลอดเลือดดำขอดบริเวณผิวที่มีขนาดเล็ก การรักษาทำโดยฉีดน้ำเกลือความเข้มข้นสูงหรือสารเคมีเข้าไปทำลายชั้นเยื่อบุโพรงของหลอดเลือดขอด

5.การรักษาโดยใช้ยา ยาที่ใช้เป็นยากลุ่มที่ช่วยให้หลอดเลือดดำทำงานดีขึ้น สามารถลดอาการบวม อาการเมื่อยล้าบริเวณขา มีผลข้างเคียงน้อย อาจจะช่วยให้แผลที่เกิดจากหลอดเลือดดำหายเร็วขึ้น

การป้องกัน

1.ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการหมุนเวียนของเลือด

2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อหลอดเลือด เพื่อให้การทำงานของหลอดเลือดสมดุล ทำให้หลอดเลือดคลายตัว อาหารที่ควรรับประทาน คือ ผัก ผลไม้ และอาหารเสริมที่อาจพิจารณารับประทาน คือ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงวิตามินบี กรดอะมิโน เช่น แอลอาร์จีนีน สมุนไพรต่างๆ เช่น แปะก๊วย โสม น้ำมันปลา รวมถึงน้ำมันพริมโรส

3.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

4.ไม่สูบบุหรี่ และเลิกสูบบุหรี่

5.ถ้าเป็นโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือมีไขมันในเลือดสูง ควรได้รับการรักษาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

6.หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งนานๆ เมื่อต้องยืนหรือนั่งนานๆ ควรพักปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เมื่อต้องนั่ง ควรนั่งยกขาสูง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีการอักเสบของหลอดเลือด

...

---------------------------------------------------

แหล่งข้อมูล

ศาสตราจารย์ นายแพทย์จุมพล วิลาศรัศมี ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล