ถ้าเอ่ยถึงชื่อร้าน โขมพัสตร์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกันดี ในฐานะที่เป็นร้านขายผ้าฝ้ายพื้นเมือง เก่าแก่ตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และแม้จะผ่านเลยไปกี่ทศวรรษ "โขมพัสตร์" ก็ยังคงยืนหยัด อยู่คู่อำเภอหัวหินมาทุกยุคทุกสมัย โดยปัจจุบันได้แตกหน่อออกยอดเติบใหญ่ขึ้นอย่างงดงามน่าภูมิใจ

ม.ร.ว.ภรณี รอสส์

"คุณกจง-อัสสยา คงสิริ ทิมบลิค" ทายาทรุ่นที่สามของราชสกุลกฤดากร ซึ่งเข้ามาช่วยสืบสานตำนานร้านโขมพัสตร์ให้ดูทันยุคทันสมัยขึ้น และเป็นผู้ดูแลโครงการโขมพัสตร์ วิลล่า มาร์เก็ต บริเวณใจกลางเมืองหัวหิน ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2551 เล่าถึงประวัติเก่าแก่ของร้านว่า "โขมพัสตร์" ถือกำเนิดตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยท่านตาคือ พลเอกพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช และท่านยายคือ หม่อมเจ้าหญิงผจง–รจิตร กฤดากร ได้ทรงสร้างโรงงานย้อมและพิมพ์ผ้าขึ้นที่หัวหิน บนพื้นที่ผืนเดียวกับที่ตั้งร้านปัจจุบัน แต่เป็นโรงงานเล็กๆมีคนงานเพียง 20 คน จำลองรูปแบบมาจากโรงงานที่ทรงเคยทำสมัยลี้ภัยการเมืองไปประทับที่ไซง่อน ประเทศเวียดนาม ทรงเลือกหัวหิน เพราะทรงมีที่ดินอยู่ แล้ว และทรงมีเจตนาให้ชาวบ้านมีงานทำ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น

...

คุณกจง

สำหรับลายผ้าที่สวยงามมีเอกลักษณ์นั้น "คุณกจง" เล่าว่า ตั้งแต่แรกเริ่ม "โขมพัสตร์" จะเน้นการพิมพ์ลายไทยลงบนผ้าฝ้ายเป็นหลัก โดยท่านตาและท่านยายได้ ทรงศึกษาเรื่องลายไทยโบราณจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมัยก่อนทุกอย่างต้องเขียนด้วยมือทั้งหมด ท่านตาก็เป็นคนแรกๆของเมืองไทย ที่ประยุกต์นำระบบซิลค์ สกรีน พรินติ้ง มาใช้พิมพ์ลายผ้า เริ่มจากพิมพ์ลายไทยเพียงอย่างเดียว แล้วจึงทดลองพิมพ์ผ้าพันคอเป็นรูปภาพเมืองไทยต่างๆ เช่น ลายวัดอรุณ, เรือหงส์, บ้านชาวนา ปรากฏว่าขายดีมาก เลยดัดแปลงทำผ้ารองจานอาหาร กระทั่งท่านตาสิ้นพระชนม์ในปี 2496 ท่านยายได้รับสืบทอดกิจการต่อพร้อมขยายกิจการ และปรับปรุงโรงงานให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ได้ประยุกต์ลายผ้าพิมพ์ และคิดค้นลวดลายใหม่ๆขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ต่อมา เมื่อท่านยายอายุมากขึ้นได้ทรงมอบหมายให้ลูกสาวทั้ง 3 คน คือ คุณป้า ม.ร.ว.ภรณี รอสส์, คุณแม่ ม.ร.ว.อัจฉริยา คงสิริ และคุณน้า ม.ร.ว.วิภาสิริ วุฒินันท์ ช่วยดูแลกิจการต่อ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ ของผ้าพิมพ์ลายไทยของหัวหินไว้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรามีคนงานเพิ่มจาก 20 คน เป็น 80 คนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังผลิตด้วยมือตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากการผสมสี, ทำกรอบเขียนลาย, ถ่ายลงกรอบ, ใช้มือพิมพ์ ยกเว้นขั้นตอนฟินิชชิ่ง คือซักรีดและอบผ้า ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย



"คุณกจง" ยืนยันว่า สินค้าของร้านเราอาจจะไม่ เพอร์เฟกต์ทุกชิ้น แต่ก็เป็นงานฝีมือเก่าแก่ที่หาได้ยาก ในยุคปัจจุบัน โดยลวดลายไทยโบราณ และลายพิมพ์ดั้งเดิมส่วนใหญ่ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย เช่น ลาย ดอกจิก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของร้าน, ลายเทพนม, ลายหัวโขน และลายผ้าเกี้ยวพิมพ์ทอง ที่นำไปใช้ตกแต่ง พระที่นั่งวิมานเมฆ ขณะเดียวกัน ก็มีการคิดค้นลวดลายและสีสันใหม่ๆออกมาต่อเนื่อง รวมถึงปรับปรุงสินค้า ให้หลากหลายขึ้น   นอกเหนือจาก ผ้าตัดเสื้อ, ผ้าม่าน, ผ้าตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำร้าน ในอนาคตตั้งใจว่าจะออกโปรดักส์ไลน์ใหม่ ที่ดูวัยรุ่นขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เด็กรุ่นใหม่หันมาใช้ผ้าฝ้ายของไทย ลองแล้วจะติดใจ เพราะยิ่งซักยิ่งนุ่มใส่สบาย ไม่หนาเทอะทะเหมือนสมัยก่อน แถมยังมีความยูนิคไม่ซ้ำใคร.

...