คุณใช้ร่างกายหนักเกินไปหรือเปล่า กับสารพัดกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งเรียน ทำงาน ออกกำลังกาย รวมไปถึงภาวะความเครียดต่างๆ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยกลางคน ร่างกายจะเริ่มส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการเจ็บป่วยที่ตามมาเป็นหางว่าว ทั้งปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ร่างกายไม่แข็งแรง อารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ขาดสติสมาธินานวันจะยิ่งสะสม ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงเรื่อยๆ หลายคนเลือกจ่ายเงินซื้อสุขภาพด้วยการเข้าคอร์สบำบัดต่างๆ แต่อะพินว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด อย่างเช่น การใช้ศาสตร์ “Yoga Therapy” ที่ทำเองได้ง่ายๆ แต่เกิดผลดีกับร่างกายเกินคาด เริ่มตั้งแต่ต้นปีนี่แหละ ดีสุด
ครูบี–กุลรัตน์ ทวีนุช แห่ง Yoga & Me บอกถึงข้อดีของการฝึก Yoga Therapy ว่านอกจากช่วยสร้างความยืดหยุ่น ความแข็งแรงผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ยังช่วยให้การทำงานของอวัยวะภายในต่างๆ มีประสิทธิภาพ และฝึกจิตใจให้สงบ มีสติสมาธิ ผ่านการควบคุมจังหวะลมหายใจเข้าออกให้สัมพันธ์กับการเรียนรู้ร่างกายตนเอง มีการเคลื่อนไหวและทรงตัวค้างท่าฝึกโยคะอย่างถูกต้อง เพื่อปรับสมดุลชีวิตให้อยู่ดีมีสุขแบบองค์รวม คลายอาการปวดเมื่อยตามร่างกายของผู้ฝึกได้อย่างตรงจุด
...
JOINTS THERAPY
1. SLEEPING PIGEON POSE
2. RECLINING BOUND ANGLE POSE
3. PIGEON POSE
พฤติกรรมเคยชินระหว่างวันอาจบั่นทอนสุขภาพข้อต่อโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการยืนแอ่นพุง ยืนหลังค่อม ยืนพักขาทิ้งน้ำหนักลงขาข้างเดียว นั่งไขว่ห้าง นั่งกอดเข่า นั่งหลังค่อม-งอ ไปจนถึงการนอนขดตัว ทั้งหมดล้วนส่งผลให้ข้อต่อส่วนต่างๆ เกิดอาการบวมอักเสบ แล้วฟ้องออกมาทางอาการปวดเมื่อยและความรู้สึกเจ็บปวดขณะเคลื่อนไหว หากปล่อยทิ้งไว้นานวันก็จะกลายเป็นอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง ทางออกที่ดีที่สุดคือ การยืดเหยียดเปิดข้อต่อ และคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย พร้อมทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ คล่องตัวขึ้นและยืดอายุของข้อต่อร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
LEG THERAPY
ในส่วนของ “ขา” หลังจากเผชิญกับกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อขาอย่างหนักเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการยืน วิ่ง เดิน สวมรองเท้าส้นสูง ปั่นจักรยาน ฯลฯ การฝึกด้วยท่าเหล่านี้จะช่วยสร้างความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กระดูกข้อต่อสะโพก ต้นขา หน้าขา หลังขา หัวเข่า และข้อเท้า ระหว่างการฝึกสิ่งที่ได้คือการคลายอาการหดตึงกล้ามเนื้อตั้งแต่สะโพกไล่ลงมาถึงข้อเท้า กระชับขาให้เรียวสวย บรรเทาอาการปวดเมื่อย คลายเส้นเอ็น บรรเทาอาการตะคริว เหน็บชา พร้อมช่วยให้ยืนได้ถูกหลัก เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี
4. WARRIOR II
...
5.TREE POSE
6. RECLINING HAND TO BIG TOE
7. TRIANGLE POSE
...
BACK THERAPY
ท่านี้เน้นสร้างความแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อหลังเป็นหลัก รวมถึงแขน ข้อมือ หัวไหล่ หน้าอก และแกนกลางร่างกาย (หลังและหน้าท้อง) ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต ระบบการย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับสาวออฟฟิศอย่างยิ่ง เพราะช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ใครที่มีอาการปวดคอ หลัง ไหล่ สะบัก เพราะนั่งทำงานค้างอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ หรือยกของหนักเกินกำลังและกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานอย่างหนักหน่วง ต้องลองฝึกท่าเหล่านี้ดู รับรองว่าพอทำเสร็จแล้วจะรู้สึกโล่งสบายหลังมากๆ ปลดล็อกความตึง ใช้ชีวิตได้คล่องตัวขึ้นเยอะทีเดียว
ที่มา - แพรว
www.praew.com
www.facebook.com/praewmagazine