ผู้ที่เคยเข้าไปภายในพระราชฐานบริเวณพระราชวัง พระตำหนักสวนจิตรลดาฯ บอกเล่าให้ฟังว่า นอกจากจะเป็นที่ก่อกำเนิดโครงการในพระราชดำริมากมาย ซึ่งเอื้ออำนวยประโยชน์สุขแก่คนไทยทั้งประเทศ พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นที่พำนักของบรรดา “คุณๆสี่ขา” ทั้ง 34 ซึ่งมีส่วนช่วยกันสร้างความเกษมสำราญแด่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9” มาตลอดระยะเวลาหลายปี

“วิลาศ มณีวัต” บอกเล่าไว้ในหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” กับ “คุณๆสี่ขา” ว่า แรกเริ่ม เดิมที ภายในพระตำหนักสวนจิตรลดาฯ เคยมี “คุณๆสี่ขา” เพียงแค่ 4 ตัว คือ “คุณสุดหล่อ” กับ “คุณหมามุ่ย” สุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน และ “คุณซูซี่” กับ “คุณคุกกี้” ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล

...

แต่วันหนึ่งก็มี “หมาขี้เรื้อน” สีขาวขนยาวจากข้างถนน ซึ่งชาวบ้านเรียกขานว่า “อีมะลิ” มุดหลุดลอดเข้ามาภายในบริเวณกรงของ “คุณๆสี่ขา” ประจวบเหมาะเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์ “คุณสุดหล่อ” กับ “คุณหมามุ่ย” ก็เลยขึ้นไปผสมพันธุ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ภายในวังมาเห็น “อีมะลิ” จึงจับส่งไปให้ กทม.

กระนั้น เมื่อความทราบถึงพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ก็ทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่วังไปรับ “เมีย” ของ “คุณสุดหล่อ” และ “คุณหมามุ่ย” กลับมาเลี้ยงดูให้สมฐานะ ด้วยเหตุนี้ “อีมะลิ” จึงได้เลื่อนขั้นเป็น “คุณมะลิ” นับตั้งแต่นั้นมา

จากหมาจรจัดข้างถนน “คุณมะลิ” ได้รับการเลี้ยงดูฟูมฟักจนหายจากการเป็นขี้เรื้อน โดยฝากไว้ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ “คุณมะลิ” เริ่มเปล่งปลั่งมีราศีขึ้น แถมยัง “ตั้งท้อง” และได้คลอดลูกออกมาทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งเป็นลูกของ “คุณสุดหล่อ” กับ “คุณหมามุ่ย”


“คุณหมอนพกฤษณ์ จันทิก” นายสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งร่วมทีมถวายงานดูแลสุนัขทรงเลี้ยงของในหลวง รำลึกว่า หลังจาก “คุณมะลิ” คลอดลูกแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีรับสั่งด้วยพระอารมณ์ขันว่า ตอนนี้ “มะลิ” กลายเป็น “หม่อมมะลิ” แล้วนะ

หลังจาก “คุณมะลิ” คลอดลูกได้ 1 อาทิตย์ โรงพยาบาลสัตว์ ก็ส่ง “คุณมะลิ” และลูกๆกลับวัง ซึ่งครอบครัวของ “คุณมะลิ” ได้สร้างความเกษมสำราญแด่ในหลวงเป็นอย่างมาก

“คุณหมอนพกฤษณ์” เล่าว่า พอมีลูกสุนัข 9 ตัว เข้ามาอยู่ในวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ก็ทรงพระเกษมสำราญขึ้นมาก เสด็จฯมาทรงถ่ายรูปสุนัขทั้ง 9 ตัวทุกวัน โดยเฉพาะตอนช่วงที่ลูกหมาคลอด พระองค์ทรงละเอียดมาก รับสั่งให้จดวันที่และเวลาเป็นนาที รวมทั้งชั่งน้ำหนักแรกคลอด ถวายรายงานให้ทรงทราบ หลังจากนั้นก็ยังต้องชั่งน้ำหนักถวายรายงานพระองค์ท่านทุกวัน

แม้กระทั่งภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานลูกๆของ “คุณมะลิ” ให้ข้าราชบริพารที่ทรงเลือกสรรแล้วว่ารักสุนัขจริงๆ ก็ยังมีรับสั่งด้วยความเป็นห่วง ให้ถ่ายรูปลูกหมามาส่ง และให้ชั่งน้ำหนักลูกหมามาถวายรายงานให้ทรงทราบอย่างน้อยเดือนละครั้ง

...

หลังจาก “คุณมะลิ” มีลูกๆได้ไม่นาน “คุณทองแดง” ลูกสุนัขเทศ ซึ่งทรงย่อมาจากคำว่า “เทศบาล” ก็ได้เข้ามาอยู่ในพระตำหนักสวนจิตรลดาฯ เมื่อทอดพระเนตร “ทองแดง” ครั้งแรก ทรงมีรับสั่งว่าให้นำเข้ามาเลี้ยง เพราะ “นังแดง” แม่ของ “ทองแดง” มีสภาพทรุดโทรมมาก ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้

ในหลวงทรงยก “คุณทองแดง” ให้เป็นลูกเลี้ยงของ “คุณมะลิ” ซึ่ง “คุณมะลิ” ก็ต้อนรับลูกใหม่เป็นอย่างดี ไม่เคยรังเกียจใดๆ แถมยังรัก “คุณทองแดง” เหมือนลูกแท้ๆของตัวเอง

จากที่เคยมีลูกสุนัข 9 ตัว “คุณมะลิ” จึงต้องให้นมลูกสุนัขถึง 10 ตัว แต่เนื่องจากเคยมีพื้นฐานเป็นสุนัขข้างถนน ประกอบกับเมื่อเข้ามาอยู่ในวัง อาหารการกินบริบูรณ์ดี “คุณมะลิ” จึงมีน้ำนมเยอะพอที่จะให้นมลูกหมาทั้ง 10

“คุณหมอนพกฤษณ์” ยังบอกเล่าว่า ในหลวงทรงชื่นชม “คุณมะลิ” ในฐานะที่เป็นแม่หมาตัวอย่างอยู่บ่อยๆ เพราะไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์ลูกหมาอย่าง “คุณทองแดง” ซึ่งไม่ใช่ลูกของตัวเอง ในบางครั้งทรงใช้เรื่องราวของ “คุณมะลิ” เป็นคติสอนใจประชาชนด้วย

เมื่อเข้ามาอยู่ในวัง “คุณทองแดง” กลายเป็นสุนัขทรงเลี้ยงที่โปรดปราน ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เนื่องจากเป็นสุนัขชาญฉลาดมาก จนได้รับการตั้งฉายาให้เป็น “สุนัขประจำรัชกาลที่ 9”

...

คุณหมอยกตัวอย่างถึงความฉลาดของ “คุณทองแดง” ว่า เมื่อในหลวงทรงเรียกให้ “คุณทองแดง” ขึ้นเฝ้าเพื่อชั่งน้ำหนัก เพียงแค่รับสั่งว่า “ทองแดง” ไปชั่งน้ำหนัก “คุณทองแดง” ก็จะเดินไปขึ้นตาชั่ง หากตัวของ “คุณทองแดง” บังอยู่ “คุณทองแดง” ก็จะเบี่ยงตัวหลบ ให้ในหลวงทรงก้มลงทอดพระเนตรสเกลตาชั่งได้โดยสะดวก

หรืออย่างเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จฯแปรพระราชฐานไปประทับที่พระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล และนำ “คุณๆสี่ขา” ไปด้วย เมื่อเสด็จฯลงมาทรงออก กำลังพระวรกาย ตรงถนนบริเวณชายหาด ซึ่งมีต้นมะพร้าวอยู่ เพียงทรงมีรับสั่งว่าอ้อมต้นมะพร้าว “คุณทองแดง”ก็จะวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวทันที โดยไม่ต้องมีการสอน ในขณะที่ “คุณอื่นๆ” จะวิ่งกันสนุกสนานตามประสา

และเมื่อวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวไปสักครึ่งต้น “คุณทองแดง” ก็จะหยุดหันมามองในหลวง เสมือนจะถามว่า ถูกไหมเพคะ เมื่อในหลวงทรงพยักพระพักตร์ “คุณทองแดง” ถึงจะเดินหรือวิ่งต่อ

...

“คุณทองแดง” เป็นสุนัขที่ไม่เคยเข้ามาเคล้าเคลียพระองค์ท่าน เวลาในหลวงเสด็จฯ “คุณทองแดง” จะนำเสด็จอยู่ข้างหน้าพระองค์ท่านเสมอ เวลาในหลวงประทับนั่ง “คุณทองแดง” จะนั่งหมอบอยู่ด้านหน้า ใช้สองขาหน้าเกยกันเหมือนคนกำลังหมอบกราบ เป็นท่านี้ตลอด แล้วหันหน้าออกไปด้านนอก คอยระแวดระวังด้านนอกอย่างเดียว

“นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์” ยังบอกเล่าว่า เมื่อ “คุณทองแดง” เริ่มโตเป็นสาว จึงถึงเวลาต้องมีคู่หมั้นคู่หมาย เดิมแล้ว ในหลวงทรงยกให้เป็นคู่หมายกับ “คุณทองคำ” ลูกแท้ๆของ “คุณมะลิ” แต่เมื่อมีสมาชิกใหม่มาจากต่างแดน คือ “คุณทองแท้” พระองค์ท่านจึงโปรดให้ “คุณทองแท้” กลายมาเป็นคู่ของ “คุณทองแดง” แทน

คราวหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับที่พระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน เจ้าหน้าที่ก็นำชาวบ้านในละแวกนั้น พร้อมกับลูกสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดมาเข้าเฝ้า เพื่อขอพระราชทานพระราชานุญาตถวายแด่ในหลวง เนื่องจากเจ้าเซนต์เบอร์นาร์ด ชื่อว่า “เซอร์เจมส์” ชอบหนีเข้ามาแอบนอนในพระตำหนักเปี่ยมสุข และทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ในวังเห็น ก็จะพากลับไปส่งเจ้าของ ซึ่งอยู่ใกล้ๆพระราชวังเสมอ แต่ไม่ช้าไม่นาน “เจ้าเซอร์เจมส์” ก็จะแอบมุดเข้ามานอนในพระตำหนักอีก

เหตุการณ์เป็นเช่นนี้อยู่ 3-4 ครั้ง จนในที่สุด เจ้าของ “เซอร์เจมส์” จึงตัดสินใจนำ “เซอร์เจมส์” ซึ่งมีความจงรักภักดีต่อในหลวงมาถวาย เมื่อได้เข้ามาเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของพระมหากษัตริย์ไทย จากที่เคยมีศักดิ์เป็น “เซอร์” ก็ถูกเปลี่ยนเป็น “คุณหลวง” และจากชื่อ “เจมส์” ก็ทรงเปลี่ยนให้เป็น “แจ่ม” รวมแล้วได้ชื่อพระราชทานใหม่ว่า “คุณหลวงแจ่ม” พร้อมพระราชทานนามสกุลให้ว่า “ภักดี” ส่วน “คุณทองแดง” พระราชทานให้ว่า “สุวรรณชาด”

การพระราชทานชื่อ “คุณๆสี่ขา” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางภาษาของในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่างลูกๆทั้ง 9 ของ “คุณทองกวาว” กับ “คุณทองแท้” พระองค์ท่านพระราชทานชื่อ ให้เป็นชื่อต้นไม้ทั้งหมด โดยมีคำว่า “ทอง” ผสมอยู่ด้วย และยังทรงสังเกตลักษณะพิเศษของลูกหมาแต่ละตัวเพื่อทรงนำมาใช้ในการตั้งชื่อด้วย เช่น “คุณทองมีดขูด” พระราชทานชื่อนี้ให้เพราะเป็นลูกหมาตัวแรกในท้อง “คุณทองกวาว” ที่ต้องใช้มีดผ่าตัดออกมา ขณะที่พี่ๆอีก 2 ตัว คือ “คุณทองพันดุลย์” และ “คุณทองพันชั่ง” คลอดเองตามธรรมชาติ หรืออย่าง “คุณสร้อยทอง” และ “คุณทองเปี๊ยก” ก็ได้ชื่อนี้เพราะมีขนาดตัวเล็กกว่าพี่น้องท้องเดียวกัน ส่วนลูกหมาตัวสุดท้อง ได้ชื่อพระราชทานว่า “คุณทองเจิม” เพราะมีขีดขาวเล็กๆที่จมูก ต่อขึ้นถึงหน้าผากเป็นรูปลิ่ม และมีจุดสีดำบนหัวเหมือนมีใครมาเจิมไว้

สำหรับลูกๆของ “คุณทองแดง” กับ “คุณทองแท้” ทั้ง 9 ตัว ในหลวงพระราชทานชื่อให้เป็นชื่อขนมทั้งหมด โดยมีคำว่า “ทอง” ผสมอยู่ด้วย คือ คุณทองชมพูนุท, คุณทองเอก, คุณทองม้วน, คุณทองทัต, คุณทองพลุ, คุณทองหยิบ, คุณทองหยอด, คุณทองอัฐ และคุณทองนพคุณ

หากในหลวงจะพระราชทานสุนัขตัวใดให้กับใครก็ไม่ได้พระราชทานโดยง่าย จะทรงคัดสรรเป็นอย่างดีว่า ผู้ที่ได้รับพระราชทานสุนัขไป จะสามารถเลี้ยงดูสุนัขได้เป็นอย่างดี และคำว่า “เป็นอย่างดี” ก็คือ “ต้องดีอย่างพอเพียง”

แม้ความเป็นอยู่ของ “คุณๆสี่ขา” จะสะดวกสบาย กินอิ่มนอนหลับ มีสุขภาพพลานามัยดี มีครูฝึกจากกองทัพอากาศมาฝึกอบรมให้ จนสามารถยืน นั่ง หมอบ คอย และสวัสดีสองขา แต่ในหลวงไม่โปรดให้ “คุณๆสี่ขา” ใช้ข้าวของราคาแพง ทรงมีรับสั่งเน้นย้ำเสมอในเรื่องความพอเพียง กระทั่งการเลี้ยงสุนัขก็รับสั่งว่า ต้องเลี้ยงอย่างพอเพียงเช่นกัน.


ทีมข่าวสตรีไทยรัฐ