เป็นเรื่องที่ต้องแชร์และให้กำลังใจ พิว ไอริณ ปรีชาญวินิจ นักกีตาร์คลาสสิกสาวชาวไทย ที่ได้โพสต์เรื่องราวการรักษาโรคมะเร็งของคุณแม่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งได้บอกความในใจหลังจากที่ได้โพสต์ขายกีตาร์ทั้งหมดของตัวเองไปเพื่อเอาเงินมาซื้อยาให้แม่ วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ขอให้กำลังใจและรวบรวม 10 เรื่องของเธอคนนี้มาให้ได้อ่านกัน
พร้อมบทสัมภาษณ์ซึ้งๆ ด้านล่างที่รับประกันว่าคุณต้องน้ำตาท่วมจอแน่นอน...
1. ข้อแรกหลายคนรู้กันอยู่แล้ว แต่เราอยากย้ำกันอีกทีว่าเธอคนนี้ชื่อ พิว ไอริณ ปรีชาญวินิจ ปัจจุบันเธออายุ 23 ปี เป็นนักกีตาร์คลาสสิกมากฝีมืออนาคตไกลและสดใส
2. รู้หรือไม่ว่าเธอคนนี้เล่นกีตาร์มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ หลังจากนั้นก็เดินทางสายดนตรีมาตลอดจนในที่สุดด้วยความมีฝีมือของเธอจึงได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
...
3. น้องพิวเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงดัง First Hand Records ประเทศอังกฤษ และมีอัลบั้มเป็นของตัวเองชื่อว่า 'Forest Paintings'
4. ประเด็นที่คนพูดถึงอยู่ตรงนี้ ปัจจุบันได้เกิดเรื่องราวสะเทือนใจทำให้โลกโซเชียลต้องช่วยกันแชร์ เมื่อน้องพิวประกาศขายกีตาร์ทั้งหมดที่เธอรักสะสมมาตั้งแต่ ป.4 และไม่เคยคิดจะขายเลย แต่เพื่อแม่ของเธอนั้น เธอขอช่วยเท่าที่เธอช่วยได้ ขอทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอด
5. คุณแม่น้องพิวเป็นมะเร็งปอดชนิดพิเศษที่กระจายเร็วมากๆ ซึ่งกว่าจะรู้ก็เป็นระยะที่สี่เข้าไปแล้ววันแรกที่รู้ว่าเป็น คุณหมอบอกว่าแม่จะอยู่กับเธอได้อีกหกเดือนอาจจะมากกว่านั้น หรือน้อยกว่านั้น วันเวลาผ่านไปจนถึงจุดที่ยากขึ้นเรื่อยๆ มะเร็งขึ้นสมอง เข้าตับ ตับเสื่อมจนให้คีโมไม่ได้ ติดเชื้อ มีนำ้ในปอด นำ้ในท้อง
6. เธอทราบว่าคุณแม่ป่วยในช่วงธันวาคมปีที่แล้ว เป็นช่วงที่เธอออกอัลบั้มพอดี และตอนนี้เธอได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เธอพักงาน พักการเรียนทุกอย่างไว้เพื่อเอาเวลาทั้งหมดมาหาความรู้ทุกอย่างที่จะนำมาช่วยแม่ของเธอได้โดยไม่ลังเลเลย
7. ค่ารักษาที่ต้องนำมาใช้จ่ายเรียกได้ว่าหนักสำหรับเธอไม่น้อย วัคซีนมะเร็งเข็มละประมาณ 2 แสนบาท ต้องฉีดเดือนละ 2 ครั้ง ทำให้เธอต้องหาค่าใช้จ่ายมารักษาแม่
...
...
8. พ่อของเธอเป็นกำลังหลักของค่าใช้จ่ายทุกอย่าง และต้องประกาศขายบ้านเพื่อหาเงินรักษาภรรยาของเขาเช่นกัน ซึ่งทั้งสองพ่อลูกกำลังสู้เพื่อแม่อยู่ เราก็ขอให้แม่สู้และอาการดีขึ้นในเร็ววัน
9. หนึ่งประโยคที่ทำให้เราประทับใจในพลังโซเชียลคือ น้องพิวบอกว่า ปกติเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนเลย มีน้อยมากๆ เข้ากับใครไม่ค่อยได้ แม่มักจะเป็นห่วงอยู่ตลอดว่าอยากจะให้เข้าสังคมบ้าง เพราะเป็นห่วงว่าเวลามีปัญหาแล้วไม่มีแม่ขึ้นมา ใครจะช่วย แต่ถ้าคุณแม่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างมีสติครบอีกครั้ง ถ้ามันมีวันนั้นจริงๆ แม่จะเห็นว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันมหัศจรรย์มากๆ มีคนมากมายทั้งที่หนูรู้จักและไม่รู้จักเลยเข้ามาช่วยเหลือหนู หนูไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้รับอะไรแบบนี้
...
10. ข้อสุดท้ายทุกคนสามารถร่วมให้กำลังใจกับสาวนักดนตรีอนาคตไกลและกตัญญูได้ที่เฟซบุ๊ก Irin Prechanvinit และร่วมบริจาคผ่านบัญชี ธ.กสิกรไทย ชื่อ น.ส.ไอริณ ปรีชาญวินิจ เลขที่ 268 2 80729 9
เปิดใจ : แม่ต้องสู้ หนูรอแม่อยู่ 'แม้จะมีความหวังน้อยนิดก็ตาม'
สุดท้ายในที่สุดก็ติดต่อเธอได้ ไอริณให้สัมภาษณ์ผ่านไทยรัฐออนไลน์ถึงประเด็นที่คนแชร์เรื่องนี้กระหน่ำว่า สิ่งที่ต้องเผชิญแม้จะมีโอกาสน้อยมากๆ แต่ถ้าคุณแม่เอาชนะมันได้ ทันทีที่ท่านตื่นสิ่งที่หนูจะบอกคือขอบคุณมากๆ ที่อดทนมาจนถึงขนาดนี้ ขอบคุณที่อยู่กับหนู
"ปกติหนูสนิทกับแม่มากๆ ถ้าไม่มีคุณแม่อยู่ หนูก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร ถึงได้ทำขนาดนี้ และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเราก็เตรียมใจไว้ จริงๆ ทำใจไว้แล้วด้วย (เสียงเศร้า) แต่หนูคิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด และทำได้เพียงครั้งเดียว สิ่งของต่างๆ ที่ขายไปซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ชีวิตคุณแม่สำคัญที่สุดแม้จะมีความหวังน้อยนิดก็ตาม"
ไอริณย้ำว่า ตอนนี้เธอและคุณพ่อได้ขายทรัพย์สินทั้งหมดที่มีในชีวิตเพราะต้องใช้เงินมหาศาลเพื่อต่อชีวิตแม่ให้ถึงวันพฤหัสบดีนี้ (เพราะว่า Keytruda วัคซีนมะเร็งปอดที่ดีที่สุดในโลกจะมาถึงมือแม่) ด้วยการประกาศขายบ้าน 12 ล้าน (ยังขายไม่ได้) ขายกีตาร์ไป 5 ตัว ในจำนวน 6 ตัว และยืมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ และตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ
"ทุกวันนี้ๆ คุณแม่ยังนอนหลับอยู่ แทบจะไม่รู้สึกตัวเพราะหลับลึกมากๆ ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมท่านหนูจะพูดเสมอๆ ข้างๆ หูท่านว่าให้แม่อดทนก่อนนะ เรายังมีความหวังสุดท้าย Keytruda เข็มสุดท้ายที่กำลังมาถึงวันพฤหัสฯ (25 สิงหาคม) มันเป็นวัคซีนมะเร็งปอดที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งคุณหมอได้ให้ไปแล้ว 2 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกหมอบอกว่ามีเอฟเฟกต์ทำให้โรคแย่ลง แต่พอเข็มที่ 3 มันมีความหวังว่าจะยุบได้ (เสียงมีความหวัง) มันเป็นความหวังของเรา ถ้าผ่านได้วันเสาร์นี้จะมีคุณหมอเก่งมากๆ เรื่องนี้จากประเทศจีนมา"
เมื่อถามว่าตอนนี้นับถอยหลัง คุณแม่จะสู้ไหม? เธอทำเสียงเศร้าและกล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือสาเหตุที่ต้องขายทุกอย่าง เพราะว่ายาตัวนี้แพงมากๆ เข็มละ 2 แสนบาท และต้องฉีดอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ซึ่งโอกาสมันน้อยมากคุณหมอบอกตรงๆ ว่า โอกาสมันอยู่หนึ่งในหมื่น หนึ่งในแสนเลยที่มันจะชนะ แต่ก็เป็นความหวังสุดท้ายที่เรามีเหลืออยู่
ร่วมเป็นกำลังใจให้ครอบครัวเธอผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ขอให้พระคุ้มครอง.
ที่มา : Irin Prechanvinit