อ.ประเมษฐ์ บุณยะชัย, อ.รัจนา พวงประยงค์, อ.ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว, ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ, ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี, ดร.อนุชา ทีรคานนท์, อ.จตุพร รัตวราหะ ร่วมคัดนักแสดงรุ่นใหม่.

นับเป็นเวทีที่ปลุกกระแสเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีส่วนร่วมในการสืบสานนาฏศิลป์ไทยชั้นสูง อย่างการแสดงโขน ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยทุกปีๆ มีเยาวชนที่มีความสามารถและมีฝีมือด้านนาฏศิลป์ ต่างเฝ้าฝึกปรือฝีมือและรอคอยช่วงเวลาในการเข้าร่วมคัดเลือก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง “โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ” ที่จัดขึ้นเป็นประจำ สำหรับปีนี้ จะจัดแสดงตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” และได้รับกระแส ตอบรับจากนักแสดงรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้มีการคัดเลือกรอบสุดท้ายและประกาศผล ที่ห้องเทเวศร์ อาคารหอ ประชุม สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เมื่อเร็วๆนี้

บรรยากาศในการคัดเลือกผู้สมัครทุกคนที่ผ่านเข้ารอบต้องแสดงความสามารถด้านนาฏศิลป์ไทย ความสามารถในการตีบท และการใช้บทของแต่ละตัวละคร รวมถึงการตอบคำถามและแสดงทัศนคติทางด้านนาฏศิลป์ ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ ซึ่ง ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และประธานคณะกรรมการอำนวยการโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวว่า กว่า 6 ปีแล้ว ที่เราเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีใจรักโขนจากทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า โขนพระราชทาน ซึ่งในปีนี้มีเยาวชนที่มีความสามารถมาสมัครเพื่อรับคัดเลือกมากถึง 772 คน ซึ่งมาถึงในรอบนี้ แต่ละคนมีพรสวรรค์และความสามารถไม่ยิ่งหย่อนกันเลย

...

ด้าน ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวว่า ในปีนี้มีการคัดเลือกนักแสดงจำนวน 5 ตัวละคร คือ โขนพระ, ละครพระ, ละครนาง, โขนยักษ์ และโขนลิง ซึ่งแต่ละประเภทตัวละคร จะมีเยาวชนได้รับคัดเลือกเพียง 5 คน รวมจำนวน 25 คน สำหรับปีนี้ มีตัวละครโขนยักษ์ได้คะแนนในลำดับที่ 5 เท่ากัน 2 คน จึงมีผู้ที่ได้รับคัดเลือกและรับทุนการศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 26 คน จากผู้สมัครทั้งหมด เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดีไม่แพ้ในปีที่ผ่านมาเลย ส่วนผู้กำกับการแสดงโขนฯ อ.ประเมษฐ์ บุณยะชัย กล่าวว่า เกณฑ์การคัดเลือกนั้น จะพิจารณาจากความสามารถของผู้แสดงเป็นหลัก โดยจะดูจากทักษะความสามารถตามบทบาทของตัวละคร อย่างโขนพระ จะพิจารณาหน้าพาทย์ที่ใช้ในการแสดง กระบวนท่าเฉพาะ การตีบท ประกอบเพลงร้องและคำพากย์-เจรจา พร้อมทั้งกระบวนท่ารบ-ขึ้นลอย ละครพระ และละครนาง จะดูเพลงหน้าพาทย์ที่หลากหลายและการตีบทประกอบเพลงร้อง ส่วนโขนยักษ์และโขนลิง จะพิจารณาในเรื่องของกระบวนท่าหลัก การใช้อาวุธต่างๆ การตีท่าประกอบคำพากย์-เจรจา กระบวนท่ารบ-การรับลอย เป็นต้น

...

สำหรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯในปีนี้กำหนดแสดง ระหว่างวันที่ 5 พ.ย.-5 ธ.ค. ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซื้อบัตรเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา โทร.0-2262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com