นอกจากสาวๆ ยุคนี้จะเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบกันบ่อยมากแล้ว เราขออัพเดตให้ฟังว่า อาการผิดปกติของจิ๊มิดังต่อไปนี้ ที่คุณอาจกำลังเป็นอยู่ (แต่ก็ไม่กล้าไปหาหมอ เพราะคิดว่ามันไม่หนักหนาสาหัส) เราไปถามคุณหมอหลายๆ คน แล้วสรุปว่า 5 โรคนี้ล่ะ ที่สาวๆ ทำงานทุกคนมีสิทธิ์เป็น!! อาการแบบไหนถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้ จิ๊มิจะโดนทำร้ายในอีกไม่นานชัวร์
1. ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
คืออะไร: มันคือการที่ช่องคลอดอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรีย
อาการ: โรคนี้ทำให้มีตกขาวมากและมีกลิ่นเหม็น แต่ผู้หญิงบางคนก็อาจไม่มีอาการของโรคเลย
สาเหตุเกิดจาก: ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า “สาเหตุเกิดจากการเสียสมดุลของเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ถึงโรคนี้จะไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่สาเหตุของโรคหลายอย่างก็เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเพศ และเกิดบ่อยในผู้หญิงที่มีเซ็กซ์กับผู้หญิงด้วยกัน”
รักษายังไง: ถ้าคุณเป็นโรคนี้ก็ไม่ต้องกังวลเพราะมันรักษาได้ด้วยการทานยาฆ่าเชื้อ หรือใช้ยาเหน็บช่องคลอด แต่อาการของโรคอาจกลับมาอีกภายใน 6-12 เดือน ซึ่งก็สามารถรักษาได้ด้วยการรักษาที่ยาวนานขึ้นกว่าเดิม
2. ช่องคลอดอักเสบ
คืออะไร: การอักเสบของช่องคลอด ที่มักเกิดร่วมกับการติดเชื้อ
อาการ: อาการแต่ละอย่างสุดอี๋ เพราะมันรวมถึงอาการคัน ช่องคลอดบวม แดง มีตกขาว กลิ่นเหม็น และเจ็บปวดเวลาปัสสาวะ
สาเหตุเกิดจาก: แพทย์บอกว่า “มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้ช่องคลอดอักเสบได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวกับการเสียสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของยีสต์และแบคทีเรียมากเกินไป สาเหตุอื่นๆ รวมถึงเชื้อราในช่องคลอด การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโรคพยาธิในช่องคลอดซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง แต่ก็พบได้ไม่บ่อยนัก”
รักษายังไง: มันพูดยากอยู่ แพทย์บอกว่าการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคว่าเกิดจากอะไร
...
3. เนื้องอกมดลูก
คืออะไร: ก้อนเนื้อที่โตบนผนังมดลูก และบางครั้งโตจนยื่นเข้าไปตรงส่วนด้านในหรือด้านนอกของมดลูกด้วย
อาการ: เนื้องอกมักมาร่วมกับการมีประจำเดือนมากและนาน ในบางเคสอาจทำให้มีลูกยาก แท้งลูก เจ็บเชิงกราน และคลอดลูกก่อนกำหนดด้วย
สาเหตุเกิดจาก: ไม่มีใครรู้เลย แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า “ฮอร์โมนของผู้หญิงก็มีส่วนสำคัญ เพราะเนื้องอกมักจะไม่เกิดในผู้หญิงก่อนแตกวัยสาวและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เนื้องอกที่มีอยู่แล้วจะหยุดโตและหดเล็กลงหลังหมดประจำเดือน”
รักษายังไง: “ถ้าไม่มีสาเหตุที่บ่งชัด เราก็ปล่อยเนื้องอกไว้ได้ แต่ถ้ามันทำให้เกิดอาการอื่นหรือโตผิดปกติก็ต้องผ่าตัดเอาออก”
4. ปีกมดลูกอักเสบ
คืออะไร: ปีกมดลูกอักเสบเป็นการติดเชื้อที่ช่องคลอดที่ลามมาถึงมดลูก ท่อนำไข่ และเนื้อเยื่อรอบๆ
อาการ: การอักเสบอาจทำให้มีตกขาวมากผิดปกติ มีเลือดออก ปวดท้อง และเป็นไข้
สาเหตุเกิดจาก: “เคสส่วนใหญ่จะเกิดในผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 20-29 ปี และร้อยละ 60-80 ของเคสในช่วงอายุนี้จะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อจากเซ็กซ์ โดยเฉพาะหนองใน นอกจากนี้ยังอาจเกิดหลังจากขั้นตอนต่าง ๆ ทางนรีเวช เช่น การขูดมดลูก การทำแท้ง หรือการใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด
รักษายังไง: รักษาหายขาดได้ถ้าพบแพทย์โดยเร็ว “การรักษาแต่เนิ่นๆ โดยใช้ยาปฏิชีวนะนั้นสำคัญมากค่ะ มันมักจะรวมถึงการให้ยาทานร่วมกับยาฉีด ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนในระยะยาว เช่นท่อนำไข่ตัน ภาวะมีบุตรยาก การท้องนอกมดลูก และการปวดเชิงกรานเรื้อรัง อาการต่างๆ เหล่านี้มักเกิดกับคนที่เป็นโรคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณจึงควรให้แฟนทานยาปฏิชีวนะด้วย หมั่นตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่เสมอ และใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเซ็กซ์กับแฟนคนใหม่”
5. สิวหรือฝีที่อวัยวะเพศ
คืออะไร: อาการทางผิวหนังเรื้อรังที่ทำให้เกิดตุ่มคันเหมือนสิวหรือฝีตรงบริเวณรักแร้ เต้านม และน้องจิ๊มิ
อาการ: ตุ่มที่เกิดขึ้นจะแดง เจ็บและมีหนอง อาจทำให้อักเสบและเป็นแผลเป็นที่ผิวหนังได้
สาเหตุเกิดจาก: การอักเสบเกิดจากการอุดตันของต่อมขน แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนัก ผู้เชี่ยวชาญบอกเราว่า “สาเหตุนี้ยังไม่ชัดเจนค่ะ ส่วนฮอร์โมน พันธุกรรม การสูบบุหรี่และน้ำหนักที่มากเกินไปก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งด้วย”
รักษายังไง: แม้ว่าโรคนี้จะยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด แต่ก็รักษาตามอาการได้ โดยการใส่เสื้อผ้าหลวมๆ และรักษาความสะอาดของบริเวณที่เป็น การทานยาปฏิชีวนะหรือยาที่มีสเตียรอยด์ก็อาจช่วยได้ ในกรณีที่รุนแรงมาก อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัดดูดเอาหนองออก
ที่มา - Cleo Thailand
www.cleothailand.com