พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปรัชญาชีวิตผู้บริหารหนุ่ม กฤษณะ ถนอมทรัพย์ ที่เริ่มต้นธุรกิจในช่วงฟองสบู่แตกหรือวิกฤติต้มยำกุ้ง ในวัยไม่ถึง 20 ปี เรียนรู้จังหวะชีวิตและการทำงาน ด้วยประสบการณ์ของตนเอง จนปัจจุบันได้สร้างธุรกิจของตัวเองเป็นปึกแผ่น มีบริษัทในเครือที่หลากลาย
หนุ่มนักบริหารวัย 38 ปีผู้นี้ เล่าว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตเริ่มเมื่อตอนที่ตนเรียนอยู่ปี 4 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ช่วงปี 2539-2540 คุณพ่อ-ทวี ถนอมทรัพย์ เสียชีวิต ตนในฐานะลูกชายคนโต ต้องเข้ามาดูแลครอบครัว และธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งมีที่ดินแถวฝั่งธนบุรีให้ห้างเล็กๆและโรงหนังเช่า ซึ่งกำลังมีปัญหา ตนเลยขอเข้ามาดูแล เมื่อไปสำรวจดูว่าจะทำอะไรได้ จึงเห็นช่องทางธุรกิจว่า ทางฝั่งธนฯยังไม่มีโรงเรียนกวดวิชา ถ้าใครจะเรียนต้องมาแถวสยามสแควร์ ตนเลยได้ไอเดียนำที่ดินที่ว่างมาสร้างอาคารเป็นศูนย์รวมโรงเรียนกวดวิชาที่ใหญ่ที่สุดของฝั่งธนบุรี ซึ่งประสบความสำเร็จไปด้วยดี ซึ่งระหว่างทำงานก็เรียนไปด้วย จนจบปริญญาตรี ด้านการเงิน ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พอธุรกิจอาคารเช่านี้เริ่มนิ่ง ด้วยใจที่อยากทำงานด้านโฆษณา เลยเปิดบริษัทโฆษณา “บีลิงค์ มีเดีย” โดยตัวเองนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ
“ผมเรียนรู้การทำธุรกิจจากสิ่งรอบตัว ซึ่งผมมองว่า เราเก็บเกี่ยวได้ทุกวันทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือประวัติบุคคล ส่วนตัวผมมีความรู้ด้านไฟแนนซ์ พอจะเปิดบริษัทโฆษณา ผมก็ไปเข้าคอร์สเรียนเรื่องการโฆษณาเพิ่ม ในการทำงานผมมีสไตล์แบบตะวันออก ผมอ่านการทำงานของ “ดร.เทียม โชควัฒนา” ชอบที่ท่านสอนให้มองการทำธุรกิจ คือ ใจของตัวเราเอง เพราะถ้าใจสู้ ตั้งเป้าหมายเอาไว้ มีอุปสรรคเราก็ฝ่าฟันได้ เพราะในใจเรามีคำตอบแล้วว่า จะยอมแพ้หรือสู้ เมื่อเรากำหนดความชัดเจน เราก็จะสื่อสารให้พนักงานเข้าใจได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ในการทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหาอยู่แล้ว เวลามีปัญหาก็ต้องมองให้ออก อย่าเพิ่งรีบสรุป อย่างยอดขายตก อย่าเพิ่งโทษว่าเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าถูกตัดงบ ต้องย้อนมามองดูตัวเราด้วยว่า ทางบริษัทเรามีข้อบกพร่องอะไรหรือไม่”
...
ด้วยประสบการณ์การทำงานเกือบ 20 ปี เอก-กฤษณะ ปัจจุบันดูแลกลุ่มธุรกิจถึง 7 บริษัท ได้เล่าว่า ด้วยหลักคิดถึงการสร้างน้ำบ่อใหม่ เพราะน้ำบ่อเก่าดื่มกินทุกวันอาจหมดลงได้ ทำให้ตนทำธุรกิจที่แตกต่างกัน มีทั้งด้านโฆษณา, ที่ดิน, ของตกแต่งกระเบื้อง ฯลฯ การมีน้ำหลายบ่อ ทำให้เรามีโอกาสหลายช่องทาง
เมื่อถามถึงความภูมิใจ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง คนนี้บอกว่า ทุกวันนี้พอใจมากกว่าภูมิใจ ความพอใจทำให้ใจเรานิ่ง เมื่อก่อนตอนแรกที่ลุยงานใจไม่นิ่ง นอนไม่มีความสุข เป็นห่วงไปหมด แต่ตอนนี้ใจนิ่งขึ้น รู้จักคำว่า “พอ” ใจเราก็สงบ และทำให้เรามีสติ มีความคิดมากขึ้น ...ซึ่งเป็นที่มาของความสำเร็จของผู้บริหารหนุ่มใจสู้รายนี้.