สวัสดีวันพักผ่อนยาวๆ เที่ยวกันให้สนุก เดินทางปลอดภัยนะทุกคน ส่วน "จี๊ดริมรั้ว" พร้อมรับใช้ประชาชนเช่นเคย นำเรื่องราวรอบรั้วมหา’ลัยมานำเสนอ สัปดาห์นี้เป็นคิวของพี่เต้ รู้จักมั้ยพี่เต้!! ดังถล่มทลาย สื่อแห่ตามตัวคิวแน่นทุกวัน เช่นเดียวกับเรา ไม่ยอมปล่อยมือพ่อคุณหลุดไปอย่างแน่นอน...

เราไปรู้จักเขากันดีกว่า ว่า "จี๊ดริมรั้ว" สัปดาห์นี้จะเก๋ไก๋แค่ไหน???

ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต "ศตวัสส์ ฝ่ายรีย์" หรือ "พี่เต้" หนุ่มผู้โด่งดังแบบไม่ทันตั้งตัว ด้วยการเป็นเพียงเจ้าของร้านโชห่วย แล้วทำไมดัง ทำไมคนสนใจ ดูจากภาพเลยครับ

...

ภาพทั้งหมดเหล่านี้ คือ ไอเดียสุดกระฉูดแห่งยุคนี้

เมื่อโซเชียลครองเมือง สิ่งที่โดนใจวัยจ๊าบอย่างขาดเสียไม่ได้ (จ๊าบ : คำนี้อาจเก่าไปหน่อยนะ 555) มันคืออะไรก็ได้... ที่มันต้องจิตโดนใจ "คำพูด ภาษาเขียน" นี่แหละ ตัวอย่างที่สะท้อนอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อไหร่ที่มันถูกตีแผ่บนโลกโซเชียล รับรองพลุแตกแน่นอน เช่นเดียวกับขวัญใจเด็กหอคนนี้

"จี๊ดริมรั้ว" พาไปฟังคำสัมภาษณ์ของพี่เต้ เจ้าของร้านโชห่วยชื่อดัง Big Te Shop เราดูสิว่า วิธีคิด แนวคิด หลักการอะไร เกิดขึ้นมาในหัวเขา จนทำให้มีวันนี้!

เริ่มที่แนวคิดเปิดร้านโชห่วย

คือผมเพิ่งแต่งงาน แม่ยายบอกว่า มีทำเลทำการค้าขายอยู่แถวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ให้ลองเปิดร้านขายของดู น่าจะขายดี พอแม่ยายสั่งมา เอาจริงๆ ผมไม่กล้าขัด ประกอบกับตอนผมอยู่ ป.1 ป.2 ผมเคยช่วยยายขายของ แล้วผมรู้สึกว่ามันมีความสุขมาก ก็เลยตัดสินใจเปิดร้านโชห่วยเลยครับ

ความสุขจากร้านโชห่วย

ตอนนี้เปิดร้านได้สักพักแล้ว เรื่องยอดขาย ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ เพราะเพิ่งขายได้ไม่นาน แต่สิ่งที่ได้แน่ๆ คือความสุข ผมรู้สึกแบบนั้น คือได้เจอคนใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา ผมมองว่า ผมทำอาชีพค้าขายอย่างเดียว มันมีความสุขมาก ผมทำงานเหมือนไม่ได้ทำ มีครั้งหนึ่ง น้องๆ วงโฟล์คซองมาซื้อของ เค้าก็ชอบร้องเพลง ฮัมเพลงไปเรื่อย ผมเลยบอกว่า กล้าร้องเพลงให้ผมฟังมั้ย ร้องหน้าร้านเลย เดี๋ยวแจกขนม น้องๆ ก็ร้องกันจริงๆ ผมนี่ต้องเสียขนมเลย แต่นั่นแหละคือความสุขของผม

...

จุดเด่นของร้าน Big Te Shop

สิ่งที่ผมทำ คือการเขียนป้ายข้อความ แปะไว้ที่สินค้าภายในร้าน เพื่อสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งหมายถึงน้องๆ นักศึกษาเป็นหลัก เอาจริงๆ ผมชอบพูดคุยกับคน ชอบสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น โดยเฉพาะกับน้องๆ ที่เข้ามาซื้อของภายในร้าน แต่มีอยู่ช่วงเวลานึง ที่ผมต้องออกไปซื้อของ จึงให้คนอื่นมาขายแทน ผมเลยไม่ได้พูดคุยกับน้องๆ จึงได้แต่เขียนป้ายไว้ ทีนี้พอผมเขียนป้ายข้อความไว้ น้องๆ ที่มาไม่เจอ ก็บอกว่าอยากเจอ อยากคุยกับพี่เต้ แต่ทำไงได้ เพราะผมต้องออกไปซื้อของ จึงต้องติดป้ายข้อความไว้ที่สินค้าแทน ระยะหลังผมเลยมาเปิดในโซเชียลด้วย มีทั้งไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ที่ผมช่วยกันตอบกับแฟน บางทีก็คุยกับน้องๆ เอาฮากันไป

บรรจงคัดสรรสินค้า

สินค้าภายในร้านผมจะมีอยู่ 4 หลัก คือ 1. สินค้าตามความต้องการของน้องๆ นักศึกษา ที่ได้มาจากการพูดคุยเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นของที่คิดว่าน้องๆ ต้องใช้ในแต่ละวัน 2. สินค้าแปลก หาที่อื่นไม่ได้ อย่าง แป้งเต่าเหยียบโลก แป้งลูกหมีเล่นรีรีข้าวสาร ฯลฯ 3. สินค้าที่ผลิตเอง เช่น แซนด์วิช เบอร์เกอร์ เบเกอรี่ เป็นของร้านเราแพ็กขึ้นมาเอง คือ รสชาติ หน้าตาแบบนี้ มีที่ร้านผมที่เดียว 4. สินค้าที่รับมาจากนักศึกษา ผมชอบสนับสนุนน้องๆ ให้ดำเนินธุรกิจในอนาคตได้ และเรายังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับน้องๆ ด้วย คือถ้าเด็กมีรายได้ เงินก็กลับเข้ามา

...

หลักและเคล็ดลับในการทำธุรกิจ

ผมมองไปที่น้องๆ เป็นหลัก ร้านผม...ไม่ใช่ร้านขายของ แต่เป็นร้านที่ให้บริการ ผมอยากให้น้องๆ ได้มากกว่าสินค้า ประสบการณ์ในการซื้อของ ความรู้สึกของน้องๆ ก็สำคัญ ผมจะใส่ใจทุกรายละเอียด และชอบสร้างมิตรมากกว่าศัตรู และเวลาที่ผมขาย ผมจริงจัง ใส่ใจ ไม่เครียด นี่คือหลักของผมเลย ส่วนเคล็ดลับคือ การค้าขาย อย่ายึดตัวเองเป็นหลัก ให้ยึดลูกค้าเป็นหลัก ว่าเขาต้องการอะไร

...

อุปสรรค…ใช่ว่าจะไม่มี

เนื่องจากลูกค้าของผม ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ยอดขายจึงเป็นไปตามฤดูกาล เช่นช่วงปิดเทอม รายรับมีความเสี่ยง สำคัญคือเหงาเลย น้องๆ กลับบ้านกันหมด แต่ผมก็เปิดร้านตามปกตินะครับ ไม่ว่าจะยังไง ก็เปิดร้านรอน้องๆ เสมอ

อนาคตของธุรกิจนี้

ผมคิดว่ายังต้องพัฒนาอะไรอีกหลายๆ อย่าง อยากทำให้ร้านเรามีมาตรฐานที่ดีต่อไปอีก ส่วนเรื่องขยายสาขา ยังคงต้องรอเวลา โอกาส และจังหวะก่อน ตอนนี้ยังไม่คิดครับ

เอ้า...ใครยังไม่ได้แวะไปอุดหนุน ร้านพี่เต้เขามี 2 สาขา ที่แรกอยู่ใต้หอพักซันต้า ฝั่งตรงข้ามสนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตนะ ส่วนอีกแห่งอยู่หอพัก 2B Casa หัวมุมฝั่งธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเช่นกัน อันนี้สำหรับนักศึกษา ส่วนคนทำมาหากิน ได้ฟังไอเดียเก๋ๆ ไปแล้ว เอาไปประยุกต์ใช้กันได้นะครับ "จี๊ดริมรั้ว" หวังว่าธุรกิจโชห่วย จะอยู่คู่กับคนไทยไปอีกนานแสนนาน...