อีกไม่กี่เดือนก็เรียนจบแล้ว สำหรับสาวน้อยพันล้าน "แพร-พิมพิศา จิราธิวัฒน์" ทายาท (คนโต) โรงแรมเครือเซ็นทรัลฯ ที่ตอนนี้กำลังคร่ำเคร่ง-ทุ่มเทกับงานโปรเจกต์จบอย่างหนัก จนหายหน้าหายตาจากวงการสื่อสังคมมานาน ล่าสุดไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสเจอเธอในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอัดลมซ่า '100 พลัส' ซึ่งเธอได้เป็นหนึ่งในพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสุดแอ็กทีฟตัวนี้ด้วย เราก็ไม่พลาดดึงตัวเธอมาเผยไดอารี่ชีวิตการทำงาน การเรียนในตอนนี้ รวมถึงมุมไลฟ์สไตล์ของเธอในแบบต่างๆ ให้ได้หายคิดถึงกัน !

Q : อัพเดตเรื่องเรียนหน่อย ?

ช่วงนี้เรียนหนักสุดตั้งแต่เข้ามหา'ลัยมาเลย เหนื่อยมาก และงานก็หนักม้ากก...ก เหมือนกัน ตอนนี้แพรเรียนอยู่ปี 5 แล้ว ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสถาปัตยกรรม ด้านอินทีเรีย มันก็จะมีงานทีสิสที่เป็นโปรเจกต์จบสุดท้ายเข้ามา และเป็นงานเดี่ยวด้วย แพรทำทีสิสเกี่ยวกับการออกแบบ/รีโนเวทโรงแรมใหม่หมดเลย (แพรเลือกทำโรงแรม) ตอนนี้คือเวลาแพรไปไหนก็จะพกงานติดไปทำด้วยตลอด แต่อีกประมาณ 3 เดือนก็จะจบแล้วนะ เย่ๆ…(ยิ้มร่าเลย)


Q : ทำไมถึงเลือกเรียนสถาปัตย์ฯ ด้านอินทีเรีย ?

เพราะแพรคิดว่าเรียนจบมาแล้ว น่าจะช่วยงานที่บ้านได้ เรียนจบสถาปัตย์ฯ บางทีอาจไม่จำเป็นต้องเป็นสถาปนิก แพรว่ามันเป็นคณะที่น่าสนใจนะ สอนในเรื่องระบบระเบียบการคิดงาน เพราะว่าทุกอย่างมันต้องมีเหตุและผล เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะกับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน แพรเลยรู้สึกว่าจบมาแล้ว น่าจะเอามาต่อยอดทำอะไรได้เยอะ

...

Q : ความยาก-ง่ายของเอกนี้ ?

ก็ยากนะ เพราะงานมีความละเอียดมาก ต้องใช้ความประณีตสูง หน่วยของในเอกนี้คือ เป็นมิลลิเมตรเลย ถ้าดราฟท์แบบออกมาแล้วพลาดเป็นมิลลิเมตร ก็จะทำให้แบบจริงที่สร้างออกมาไม่ตรงกับที่ออกแบบไว้ บางครั้งจะทำให้จุกจิกเรื่องของดีเทลนิดนึง แต่มันก็ฝึกให้แพรเป็นคนช่างสังเกต อดทนมากขึ้นนะ แม้แต่จุดเล็กๆ ที่พลาด...

Q : แบบนี้งานดีเจที่ทำควบคู่กันล่ะ … ยังทำอยู่ไหม ?

ตอนนี้แพรก็ยังทำอยู่นะ มีจัดรายการวิทยุเสาร์-อาทิตย์เป็นประจำ ที่คลิก 98.5 ตอน 4 โมงเย็น ถึง 1 ทุ่ม และก็ถ่ายละคร มีคิวพฤหัสฯ-อาทิตย์ แล้วแต่จะเลือกล็อกคิววันไหน แพรจัดสรรเวลาไว้ตามความเหมาะสม เพราะต้องแบ่งเวลามาทำทีสิสจบด้วย

Q : แพรจัดสรรแบ่งเวลายังไง ทั้งเรื่องเรียน และการทำงาน ?

แพรเอาเรื่องเรียนเป็นหลัก แต่ตอนนี้ยังดีที่ไม่มีคลาสเลกเชอร์แล้ว ก็จะเป็นงานที่เอามาทำที่บ้าน แล้วเอากลับมาให้อาจารย์ช่วยดูแบบทุกอาทิตย์ แพรก็พยายามแบ่งเวลานะ อย่างเวลาไปกองฯ ก็จะเอางานติดตัวไปทำด้วยตลอด ว่างๆ ก็หยิบขึ้นมาดราฟท์ มาทำงานต่อได้ พอแพรมีภาระหน้าที่เข้ามา ความรับผิดชอบเยอะขึ้น มันก็ต้องแบ่งเวลาดีๆ สิ่งหนึ่งที่แพรต้องทำใจ-ยอมรับเลยก็คือ งดเวลาไปเที่ยวเล่นข้างนอกลง

Q : เทคนิคการเรียนดีควบคู่ไปกับการทำงาน ?

จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นคนที่เรียนเกรดเลิศอะไรมากนะ (หัวเราะเลย) แค่เน้นให้ตัวเองแฮปปี้ แล้วก็ไม่เครียด ตอนนี้เกรดเฉลี่ยก็อยู่ที่ 3 นิดๆ แพรจะใช้เทคนิคที่ว่า ถ้าช่วงไหนงานที่มหา'ลัยเยอะ ก็จะเพลาเรื่องงานข้างนอกลง คุยได้เรื่องคิว ไม่มีปัญหาเลย ทางกองฯ เขาเข้าใจ …

Q : มีงานวงการบันเทิงอะไรอีกไหมที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำ ?

จริงๆ แล้วบอกก่อนว่า ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาทำตรงนี้เต็มตัว คือมีคนให้โอกาส แพรก็เลยได้เข้ามาต่อยอดทำตรงนี้เรื่อยๆ ส่วนตอนนี้แพรอยากจะลองอะไรใหม่ๆ รับทุกโอกาสที่เขาหยิบยื่นมาให้เลย ถ้าสมมติว่าแพรดูเวลาแล้ว แพรรับไหวก็อยากจะลองทำหมดเลย เพราะแพรรู้สึกว่าตอนนี้อายุยังน้อย มันเป็นโอกาสดีที่จะได้ค้นหาตัวเองว่าชอบทำอะไร ไม่ชอบทำอะไร รวมทั้งได้ประสบการณ์ทำงาน และหลากหลายมุมมองความคิด ไม่แน่อาจเจอสิ่งที่ตัวเองชอบก็ได้

Q : แบบนี้มีเวลาว่างเป็นของตัวเองบ้างไหม ?

ช่วงตั้งแต่ปีใหม่มายังไม่ได้ไปเดินเล่น ดูหนังอะไรแบบนี้เลย ปกติแพรจะเป็นคนดูหนังเกือบทุกวัน เข้าห้างฯ ก็ดูหนังคนเดียว เป็นคนที่ทำอะไรคนเดียวได้ แต่ช่วงนี้คือมันหนักจริงๆ ทุ่มเท-เต็มที่กับการเรียนอย่างเดียวเลย ในมุมกลับกันอีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว คราวนี้แพรก็จะมีเวลาดูหนังอีกทั้งปีเลย อยากดูเมื่อไหร่ก็ดู (หัวเราะสดใสมาก)

Q : แทบไม่มีเวลา แล้วเอาเวลาไหนไปออกกำลังกายสุดโปรด 'พิลาทิส' ?

อ่อ … ตอนเช้าเลย แพรอยากหุ่นสวยเลยต้องยอมตื่นเช้า แรกๆ ที่เริ่มตื่นเช้าจะทรมานนิดนึง แต่เดี๋ยวนี้ก็ชินแล้ว ตื่น 6 โมงนิดๆ เป็นประจำ แล้วก็ออกกำลังกาย 7-8 โมงเช้า แพรรู้สึกว่ามันทำให้พลังเยอะขึ้น บางคนชอบคิดว่าออกกำลังกายแล้วมันจะเหนื่อยมาก แต่จริงๆ อย่าง 'พิลาทิส' ที่แพรเล่นมาได้ประมาณ 1 ปี มันไม่ใช่กีฬา หรือการออกกำลังเหมือน 'คาร์ดิโอ' ที่ต้องออกแรงมาก-เหงื่อออกสุดๆ แล้วรู้สึกเพลีย มันไม่ใช่ …พิลาทิสจะช่วยเน้นกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ จะเน้นตรงส่วนคอ-แกนกลางของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น

...

แพลนอนาคตหลังเรียนจบ …

Q : วางแพลนหลังเรียนจบไว้ยังไงบ้าง ? เรียนต่อ หรือจะช่วยงานธุรกิจที่บ้าน ?

แพรคิดว่าจะเตรียมสอบ โทเฟล (TOEFL) ไอเอล (IELTS) ไปเรียนต่อก่อนทางด้านธุรกิจ เพื่อจะได้เอามาช่วยงานธุรกิจที่บ้านได้ คิดว่าจะไปปีหน้านี้แล้ว ...

Q : ในระหว่างนี้ได้ศึกษาดูงานธุรกิจที่บ้านไปพลางๆ รึยัง ?

ส่วนใหญ่ถ้ามีแบบอะไรที่คุณพ่อกำลังจะทำ หรือเวลามีกรณีศึกษาวางโครงสร้างโรงแรมแบบต่างๆ เขาก็จะเอามาให้แพรช่วยดู ถ้าแพรได้เข้ามาดูแลธุรกิจที่บ้านเต็มตัว แพรจะเข้ามาดูงานในส่วนของโรงแรม เพราะแพรอยากทำโรงแรมอยู่แล้ว อีกอย่างทุกวันของแพรคือ โรงแรม (ตั้งแต่เกิด) เพราะฉะนั้นแพรเลยรู้สึกอิน แล้วก็ชอบ ที่บ้านไม่ได้บังคับนะว่าต้องทำอะไร แต่แพรชอบจริงๆ เลยอยากทำ

แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะเข้ามาทำธุรกิจที่บ้านจริงจัง แพรตั้งใจไว้ว่าจะทำงานข้างนอกก่อนสัก 1-2 ปี ซึ่งแพรเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นด้านอินทีเรียที่เรียนมา ก็เลยว่าจะไปต่อด้านธุรกิจ เพราะคิดว่ามันน่าจะเอาไปทำอะไรได้เยอะกว่า

...

Q : คุณพ่อได้สอนเทคนิคการบริหารงาน-การแบ่งเวลายังไงบ้าง ?

ส่วนใหญ่ที่บ้านไม่ได้สอนอะไรจริงจังขนาดนั้น เพราะแพรเป็นคนที่รับผิดชอบตัวเองได้ตั้งแต่เด็ก อย่างเวลาทำงานได้ตังค์มา แพรก็จะเป็นคนแบ่งบัญชี-จัดเก็บทุกอย่างเอง และแพรเป็นคนชอบวางแพลนของตัวเองอยู่แล้ว ว่าวันนี้จะทำแบบนี้ๆ พรุ่งนี้จะทำแบบนั้น จะมีสเต็ปเป็นของตัวเอง และทำตรงตามสเต็ปที่วางไว้เป๊ะๆ ที่บ้านเขาก็เลยเชื่อใจ ค่อนข้างจะชิลกับแพรมาก ปล่อยแพรเลยคือ อยากทำอะไรก็ได้หมด นี่ก็เหมือนกันยังเรียนไม่จบ แต่แพรวางแพลนเที่ยวไว้หมดแล้ว (หัวเราะร่า มีความสุขสุดๆ เลยนะ)

Q : ได้อะไรบ้างจากการเรียน และการทำงานควบคู่กัน ?

สำหรับแพรได้เรื่องการแบ่งจัดสรรเวลานะ มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลย และแพรว่ามันดีกว่าการที่เรียนหนังสือ หรือทำอะไรแค่อย่างเดียว มันเป็นการท้าทายตัวแพรเองด้วยว่า จะผ่านตรงจุดนี้ไปได้รึเปล่า..? เป็นสนามลองก่อนที่จะเจอในชีวิตจริง เพราะแพรคิดว่าชีวิตทำงานมันน่าจะเหนื่อยกว่านี้หลายเท่าอยู่แล้วล่ะ อีกอย่างแพรได้ในเรื่องของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และคำพูดที่แพรมีต่อคนอื่น หากจับอะไรหลายๆ อย่างรวมกันแล้ว แพรก็ต้องเพิ่มความรับผิดชอบให้มากขึ้น ใส่ใจ และลงมือทำมันให้เต็มที่ ดีที่สุด ...

Q : ในมุมมองของแพรที่ตอนนี้อายุ 23 ปี คิดว่าเป็นช่วงจุดเปลี่ยนของชีวิตยังไงบ้าง ?

เป็นช่วงที่ได้ทำอะไรเยอะมากๆ มีอะไรใหม่ๆ มาให้ลอง อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งแพรมีโอกาสมากกว่าคนอื่นด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้อะไรไหว แพรก็อยากทำหมดเลยนะ ลองไปเรื่อยๆ รับทุกโอกาสที่เข้ามา แพรจะได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร สนุกกับอะไร และแบบไหนที่แพรต้องการ

Q : ฝากถึงคนที่ยังค้นพบตัวเองไม่เจอหน่อย ?

...

จริงๆ แพรก็ยังไม่ได้อยู่ในขั้นที่หาตัวเองเจอว่าอยากเป็นอะไร ชอบอะไรมากกว่ากัน ก็ยังอยู่ในวัยที่ลองไปเรื่อยๆ แต่แพรก็อยากจะแนะนำสำหรับใครที่ยังไม่พุ่งเป้าไปในทิศทางไหนว่า อย่างในช่วงปิดเทอม ใครที่เรียนอยู่ก็ลองหาโอกาสไปฝึกงานเล่นพลางๆ ก่อน หาประสบการณ์ หรือหาอะไรทำ เพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองชอบไหม ถ้าไม่ได้ลองลงมือทำก็ไม่มีวันรู้ว่า ตัวคุณชอบมันจริงๆ รึเปล่า…? อย่างตอนแพรอยู่ปี 3 แพรก็ไปฝึกงานแม็กกาซีน ฝึกเขียนคอลัมน์ เพราะแพรอยากทำก็เลยไปลองดู ลองหลายๆ อย่างที่อยากทำ เพื่อค้นหาว่าตัวเราเองชอบอะไรมากที่สุด อะไรที่แพรทำแล้วจะมีความสุข สนุกกับมันมากที่สุด