เดอะ วิสดอม ธนาคารกสิกรไทย ได้นำสมาชิกสัมผัสการเดินทางรูปแบบใหม่ที่สร้างความแตกต่าง ในดินแดนซามูไร ด้วยขบวนรถไฟซุปเปอร์สตาร์สุดหรู พร้อมลิ้มลองอาหารชั้นเลิศระดับมิชลินสตาร์ ระหว่างชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามของเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็วๆนี้

จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กิจกรรม “The Wisdom Exclusive Experience : Japan Gourmet Paradise & Luxury Train” ครั้งนี้ เราสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ให้ได้สัมผัสความเป็นเลิศของญี่ปุ่นทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ผ่านอาหารท้องถิ่นระดับเวิลด์คลาส โดยการเดินทางด้วยรถไฟขบวนดัง “เซเว่น สตาร์ อิน คิวชู” ที่ใครๆต่างอยากได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้ ที่มีความวิจิตรตระการตาสักครั้งในชีวิต ซึ่งดาว 7 ดวงของเซเว่น สตาร์ หมายถึง จังหวัดทั้ง 7 ในภูมิภาคคิวชู ซึ่งเป็นจุดขายหลัก 7 อย่างของการท่องเที่ยวในคิวชู ได้แก่ ธรรมชาติ, อาหาร, น้ำพุร้อน, ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม, สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, ความเป็นกันเอง และการเดินทางด้วยรถไฟ และยังหมายถึงจำนวนโบกี้ ซึ่งรถไฟขบวนนี้มีจำนวนเพียง 7 โบกี้ รองรับผู้โดยสารได้รอบละ 30 คนเท่านั้น

...

และมีกำหนดออกเดินทางเพียงเดือนละไม่เกิน 4 ครั้ง ผู้โดยสารต้องลงทะเบียนจองล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน เมื่อจองแล้วทางระบบจองจะทำการสุ่มเลือกผู้จองอีกที ภายในขบวนรถไฟนี้แบ่งเป็นห้องนอน 5 โบกี้ และพื้นที่ความบันเทิง 2 โบกี้ มีห้องพักแบบสวีท 14 ห้อง ออกแบบสวยงามสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ซึ่ง 12 ห้องมีไว้สำหรับชาวญี่ปุ่น อีก 2 ห้องที่เหลือสำหรับชาวต่างชาติ แต่ เดอะ วิสดอม กสิกรไทย ได้จัดความพิเศษด้วยการปิดขบวนรถไฟ “เซเว่น สตาร์ อิน คิวชู” เพื่อให้สมาชิกได้สัมผัสความพิเศษของการเดินทางชื่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามของญี่ปุ่นเป็นการเฉพาะแบบไม่มีคนชาติอื่นปะปน

...

ความพิเศษของทริปนี้ยังได้ลิ้มลองอาหารเลิศรสจากฝีมือเชฟมิชลินชาวญี่ปุ่น ที่คัดสรรวัตถุดิบในท้องถิ่นมาปรุงเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน และอาหารฝรั่งเศส อาทิ ไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่น จากเตาถ่านร้อนๆ ของภัตตาคารอูไก โทริยามา เขตเมืองฮาจิโอจิ ที่ห่างจากโตเกียว 50 กม. ซึ่งขึ้นชื่อจนแขกวีไอพีจากทั่วโลกต้องมารับประทาน, อาหารจีนเสฉวน จากภัตตาคารเชฟกระทะเหล็กชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “เชน เคนอิชิ” ภัตตาคารเสฉวน (Szechwan) ในย่านชิบูย่า และอาหารจากเชฟมิชลิน “เชฟโจเอล โรบูชง” (Joël Robuchon) เจ้าของร้าน “ลัตเตอลิเย่ เดอ โจเอล โรบูชง (L’Atelier de Joël Robuchon)” ในกรุงโตเกียว เป็นต้น ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมเดินทางมิรู้ลืมทีเดียว.