กลับมาพบกันเป็นครั้งที่ 2 กับคอลัมน์ "เพศทางเลือก" เรื่องราวของสัปดาห์นี้ แซ่บไม่แพ้ครั้งแรก ใครยังไม่ได้อ่านเรื่องราวของสาวใบตอง อ่านได้ที่นี่
ส่วนสัปดาห์นี้ เรายกพื้นที่เพศทางเลือก ให้กับเธอ "กุลิศร์ โทวาสน์" หรือ "เนปจูน" นักศึกษาวัย 20 ปี ร่ำเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 ในคณะนิเทศศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
บ่นถึงการเรียน
"ถามว่า ยากมั้ย หนูว่าถ้าอ่านหนังสือ มันก็ไม่ยากนะคะ พอๆ กับตอนเรียน ม.ปลาย แต่ว่ามันต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ส่วนที่เลือกเรียนนิเทศศาสตร์ เพราะหนูอยากเป็นโปรดิวเซอร์รายการ โดยเฉพาะรายการเด็ก เพราะมันน่าสนุก สำคัญตอนเด็กหนูเคยออกรายการเด็ก หนูว่ามันดูสนุก และดูน่ารักดี และตอนนี้เรียนมาได้สักพัก ก็รู้สึกว่ามันชอบนะ ใช่รึเปล่ายังไม่แน่ใจ เพราะยังไม่ได้เรียนในรายละเอียดเนื้อหาเท่าไหร่นัก คงต้องรอปี 2"
...
เรียกตัวเองว่า???
"ถ้าให้พูดถึงตัวเอง หนูเรียกตัวเองว่า ตุ๊ด นี่แหละคะ หนูมาทางนี้เลย หนูไม่คิดไปเป็นผู้หญิง แต่งตัวเป็นผู้หญิงนะ แต่หนูชอบแบบเนี้ย เป็นแบบเนี้ย เป็นแบบที่หนูเป็น เป็นคนร่าเริง สนุกสนานไปเรื่อย"
สไตล์การแต่งตัว
"หนูก็แต่งตัวสบายๆ แบบที่เห็น หนูไม่ใส่กระโปรงนะคะ แต่จะแต่งตัวแบบน่ารักๆ จนบางครั้งไปที่ไหน คนจะสงสัยว่าเอ๊ะ หนูเป็นอะไร เป็นทอม หรือเป็นตุ๊ด คนก็จะงงๆ เพราะหนูไม่แต่งตัวเป็นผู้หญิงไง แปลกดีบางทีไปกับแม่ แม่ก็ถามแบบตลกๆ ว่ามองอะไรกัน (5555)"
ม.2 จุดพลิกของชีวิต
"หนูเปิดเผยตัวตนตอน ม.2 ค่ะ ตอนนั้นกล้ามาก คือหนูเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนค่ะ สังคมที่โรงเรียนของหนูเป็นสังคมชายล้วน หนูว่ามันถึงเวลา"
เด็กผู้หญิงในโรงเรียนชายล้วน
"เมื่อเปิดเผยตัวตนเป็นแล้วก็ดีค่ะ แรกๆ เพื่อนก็แอบแบนหนูเหมือนกัน และก็มีล้อๆ บ้าง แกล้งๆ บ้าง แต่พอขึ้น ม.ปลาย เพื่อนๆ มองหนูเป็นเด็กตัวเล็กๆ เพื่อนเค้าก็ดูแลและเทคแคร์เราดี เหมือนหนูเป็นเด็กผู้หญิงคนนึง เค้าก็รักหนูกันนะ"
...
ชีวิตตุ๊ดที่ไม่สวยหรู
"ก่อนจะเปิดเผยตัวตน หนูก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่จะไม่ถึงขนาดนี้ คือจะไม่แตะฟุตบอล ไม่เล่นกับผู้ชาย จะเล่นบ้างก็พวกวิ่งไล่จับ ส่วนครอบครัวที่บ้านนี่ตอนแรกๆ ไม่โอเค แอนตี้มากๆ ขอให้หนูเลิกเป็นได้มั้ย หนูบอกแม่ไปว่ามันไม่ได้ คือหนูไม่ได้ป่วย แต่มันเป็นแบบนี้ หนูกับแม่ก็ค่อยๆ ปรับตัวกันมา และในที่สุดแม่ก็รับหนูได้"
นี่คือความสำเร็จหนึ่งอย่าง
"หนูก็เป็นเด็กดี เรียน และก็ยังได้ทุนเรียนที่ ม.กรุงเทพด้วย บูก้าทาเลนต์ คือทางมหาวิทยาลัยจะเฟ้นหาเด็กที่มีความสามารถ 10 คนต่อปี และให้ทุนเรียนจนถึงปี 4 หนูว่าที่หนูได้ทุน เพราะการพูด การเล่าเรื่อง และร้องเพลง หนูก็ไม่คิดว่าจะได้นะ เพราะตอนแรกเค้าให้เด็กมาเข้าค่ายเป็นร้อยคน ก่อนจะคัดเลือกให้เข้ารอบจนเหลือ 10 คน หนูเป็น 1 ในนั้น คือเป็นทุนที่ให้กับคนที่มีความสามารถ บางคนมีเฟคบ้าง เค้าก็ไม่เอาเลยค่ะ"
...
ตัวตน ทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง เฟคหลบไป
"หนูเป็นแบบเนี้ย เป็นอย่างเนี้ย ไม่ได้แอ๊บ ไม่ได้อะไรเลย พูดก็พูดแบบนี้ ชีวิตหนูแฮปปี้ ที่ได้ทุนมาเพราะความเป็นตัวเองของหนูนี่แหละ วันนั้นหนูพูดเรื่องเพศที่สามด้วย แต่จะรวมเรื่องการเมืองเข้าไปด้วย ทำให้หนูได้ทุนเรียนฟรีมา มันก็ภาคภูมิใจนะคะ หนูก็ต้องสู้ๆ ด้วย"
ทางเลือกเวลานอยด์
"บางคนอาจไม่รู้จักตัวตนเรา อาจว่าเราดึงหน้า เราหยิ่ง เพราะเค้าเห็นหนูมีบุคลิกจิกๆ แต่ถ้ารู้จักจริงๆ คือหนูจะบ้ามากๆ สนุกสนาน แล้วเวลาหนูคบเพื่อนนะ หนูให้เพื่อนเต็มร้อย หนูรักเพื่อนมาก"
...
หนูนะเป็น...คนสู้
"เคยผิดหวังท้อแท้นะ ครั้งหนึ่งหนูไปประกวดร้องเพลง ครั้งแรกเลย และไม่ผ่านเข้ารอบ หนูก็เฟลๆ นิดนึง แต่ก็คิดว่า โอเค มันแค่รอบแรก แต่หนูก็คิดว่ารอบนั้นหนูยังทำไม่ดีพอ ก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร เอาใหม่"
ความสามารถพิเศษ
"ประกวดร้องเพลงค่ะ หนูชอบร้องเพลงมาก ขอแม่ไปเรียน จนแม่ส่งหนูไปเรียนร้องเพลงกับครูอ้วนด้วย และก็ประกวดได้อันดับ 2 มา ภูมิใจมากๆ มีความสุข แต่เสียดายตอนนี้ไม่เรียนร้องเพลงแล้ว เพราะต้องมาเรียนที่มหาวิทยาลัย เลยไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็ร้องเพลง ร้องประสานเสียงในชมรม IMFCC ของมหาวิทยาลัยแทน มันเป็นกิจกรรมของมหาวิทยาลัย อย่างร้องเพลงในงานวันรับปริญญา และบางทีมีงานนอกบ้าง ก็จะได้เงินบ้าง 3,000-4,000 บาท แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว"
อาชีพ นักร้อง ความฝันของเนปจูน
"หนูอยากเป็นนักร้องนะคะ แต่หนูคิดว่า หนูเป็นแบบนี้ เลือกเป็นแบบนี้ โอกาสจะไปเป็นนักร้อง มันคงยาก หนูว่า...คนคงอยากเห็นคนหล่อๆ คนสวยๆ คงไม่อยากเห็นอะไรแปลกๆ แต่ถ้ามีโอกาสมาเมื่อไหร่ หนูก็อยากไปนะ นี่หนูก็เคยไปเอเอฟ ไปเดอะวอยซ์มาแล้วนะ ไม่ผ่านหนูก็ไป เอานะมันสนุกดี หนูคิดนะคะ เวลาไป หนูก็ได้ร้องเพลง และนั่นคือความฝันหนู แค่ร้องเพลง ไม่ได้อะไรเลย"
มุมมองในเพศทางเลือก
"หนูมองเพศที่สาม เป็นเพศที่น่ารักนะ เป็นสีสันให้เพื่อนๆ มากๆ เหมือนหนูอยู่กับเพื่อน แล้วหนูแฮปปี้ เพื่อนผู้ชายก็โอเค หนูว่า เดี๋ยวนี้สังคมมันเปิดกว้างแล้วนะ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องแอ๊บ เป็นตัวของตัวเราที่สุด"
แนะแนวรุ่นน้อง
"ถ้าถึงจุดหนึ่ง ที่เราเปิดเผยตัวตนออกไปแล้ว เกิดพ่อแม่ ครอบครัวรับไม่ได้ นั่นคือเรื่องปกติ อย่าไปเครียด หรืออะไรทั้งสิ้น ให้เราทำตัวดีๆ ให้เค้าเห็น สักวันหนึ่งเค้าจะรับเราได้ อย่าไปทำเรื่องเสียหาย วันหนึ่งเค้าจะรับในแบบที่เราเป็นได้เอง พยายามให้เวลากับเค้าหน่อย พ่อแม่เราได้ลูกชายมา เค้าต้องการมีลูกชาย แต่ใครจะทำใจ รับการเปลี่ยนแปลงได้ทันที เค้าก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน แล้วทุกอย่างจะผ่านไปและดีขึ้น"
เป็นอะไร เราไม่รู้ เพศทางเลือก สนับสนุนให้คุณเป็นคนดี (แหม…อย่างกับโฆษณาไรสักอย่าง)
เรื่องราวดีๆ ของบุคคลที่แตกต่างเรื่องเพศยังมีมาเล่าอีกเยอะ ใครพร้อมเปิดเผยตัวตน และแชร์เรื่องราวดีๆ กับเรา ส่งรายละเอียดมาได้ที่อีเมล์ mattanee24@hotmail.com แล้วสัปดาห์ถัดไป กลับมาพบกันใหม่นะครับ!!