เห็นไปไหนมาไหนกันเป็นแพ็กคู่ตลอดสำหรับคู่สามี-ภรรยา 'โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ' หรือ 'โย่ง อาร์มแชร์' ศิลปินหนุ่มมาดเซอร์ ผู้กระตุกหัวใจสาวๆ ให้หวั่นไหวอย่างง่ายดาย และ 'ก้อย แซทเทอร์เดย์เซโกะ' สาวติสท์ไอดอลเด็กแนวของใครหลายคน ล่าสุดเราได้เจอะเจอเขาทั้งคู่ในงานเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน 'Wacoal' เลยขอดึงตัวมาเผยความรู้สึกชีวิตหลังแต่งงาน และเทคนิคการครองชีวิตคู่ให้แฮปปี้ โรแมนติกเว่อร์จนน่าอิจฉา รวมถึงมุมมองความรักในแบบของพวกเขาให้แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ได้ฟังกันสักหน่อย
'คู่ไหนที่สามารถไว้ใจคนที่อยู่ข้างๆ สามารถบอกเล่าให้เขาฟังได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเศร้าที่ต้องร้องไห้ต่อหน้าเขาด้วยเรื่องอะไรก็ตาม … นั่นคือคู่ที่ดีที่สุด !'
ครั้งแรกที่เจอเธอ … 'ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ'
ก้อยอาจจะไม่ใช่ 'ผู้หญิงที่ใช่' ตั้งแต่แรกเห็น แต่พอทำความรู้จักกันไปนานๆ ก็รู้สึกประทับใจ และหลงรักในความคิดของเธอ จริงๆ แล้วเราสองคนเจอกันบ่อยมากตามงานคอนเสิร์ต แต่ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้นั่งคุยกัน หรือนั่งฟังที่ก้อยพูดเลย ครั้งแรกที่เจอและมีโอกาสพูดคุยก็ตอนที่ทั้งผมและก้อยไปให้สัมภาษณ์หนังสือเล่มหนึ่ง และไปถ่ายแฟชั่นปกเหมือนเป็นนักร้องรุ่นเดียวกัน ผมได้ฟังมุมมองความคิดก้อยในหลายๆ แบบ ก็รู้สึกว่าก้อยเป็นผู้หญิงที่แตกต่าง มีเสน่ห์ และน่าสนใจมาก นั่นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราทั้งสองคนเริ่มทำความรู้จักกันอย่างจริงจัง
...
เสน่ห์ดึงดูดชวนหลงใหลของเธอ !
ตอนนี้แต่งงานกันมาได้ประมาณ 2 ปีนิดๆ แล้ว ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นก็คบกันมานานถึง 11 ปี เสน่ห์ของก้อยที่ดึงดูด และมัดใจผมตั้งแต่ครั้งแรกจนตอนนี้คงเป็นตรงที่ก้อยเป็นผู้หญิงแบบไร้ขีดจำกัด เธอมีความพิลึกบางอย่างที่มันมีเสน่ห์ ดูเพี้ยนๆ น่ารักดี ส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบอะไรที่มันดูสมบูรณ์แบบมากเพราะมันจะน่าเบื่อ ซึ่งก้อยสามารถตอบโจทย์ตรงนั้นในชีวิตของผมได้ดี ที่สำคัญก้อยเป็นคนที่มีวิธีการมองโลกแตกต่างจากคนทั่วไป จะเป็นในแง่มุมแบบฉบับของเธอเองและเป็นแง่มุมที่ดีมากด้วย
เส้นทางแห่งรักอันหอมหวาน
คู่เราโชคดีที่มีโอกาสเรียนรู้กันนาน ตั้งแต่แรกที่เราได้มีโอกาสเริ่มคุยกัน เราสองคนต่างเปิดใจรับกันและกัน แสดงตัวตน และไลฟ์สไตล์ของเราที่ชัดเจนออกมา ถ้าก้อยรับได้ หรือผมรับได้ก็โอเคเลยที่จะไปกันต่อ ช่วงเวลาที่เราสองคนเรียนรู้จนเข้าใจกัน ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ รู้จักตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่งมากขึ้นก็เหมือนเราพร้อมที่จะเดินในทางของเราแล้ว ข้ามผ่านทุกปัญหา ทุกอุปสรรคไปด้วยกัน เราสองคนไม่ได้คบแค่เพียงผิวเผิน หากแต่จะใช้เวลาทุกวินาทีของเราให้มันมีค่ามากที่สุดจริงๆ ตั้งแต่ผมคบกับก้อยเราไม่เคยทะเลาะกันเลย มีแต่ที่จะเข้าใจ เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ การเจอใครสักคนที่ใช่มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นเราทั้งสองก็จะพยายามรักษาความสัมพันธ์ในระยะที่พอเหมาะ ไม่มากไป และไม่น้อยไป ดูแลเอาใจใส่กันในทุกๆ วัน
เคล็ดลับประคับประคองความรักให้คบกัน (เป็นแฟน) นานๆ
เคล็ดลับง่ายมากๆ แค่ทำอะไรที่มีความหมายให้อีกฝ่ายรู้สึกดี หลายคนอาจมองว่าการเป็นแฟนกันมันคือพื้นที่แสดงออกในงานศิลปะของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะมันจะกลายเป็นการโยนให้อีกฝ่ายเป็นที่ระบายอารมณ์ หรือเป็นที่รองรับความห่วยที่คุณโดนมาจากข้างนอก อีกฝ่ายหนึ่งไม่จำเป็นต้องมาเปลี่ยนแปลง หรือมารองรับอะไรคุณเลย การเป็นแฟนกันให้คบกันได้นานๆ มันคือการแชร์กัน แบ่งปันกัน ใส่ใจต่อกัน และละมุนละม่อมให้กันในทุกเรื่อง วินาทีที่ดีที่สุดของการเป็นแฟนกันคือการได้นั่งคุยกันในเรื่องที่ไม่รู้จะคุยกับใคร
การคบกันในแบบที่เป็นได้ทั้งเพื่อนและแฟนก็สำคัญ เพราะความสัมพันธ์แบบที่เป็นเพื่อนกันมันยั่งยืน สนุก และสามารถลุย ไปไหนไปกันได้มากกว่า บางทีแค่ความเป็นแฟนมันก็น่าเบื่อไป ด้วยความที่แต่ละคนมีอีโก้ความเป็นตัวเองเยอะไป
...
มุมมองความรักของคนสมัยนี้ … เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก จนเป็นเรื่องธรรมดา !
มันมีหลายปัจจัยของแต่ละบุคคล บางคนอาจรับในตัวตนของกันและกันไม่ได้ หรือบางคนกำลังเป็นช่วงที่ตามหาอยู่ ไม่เจอสักทีก็ได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าคนเราสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้เสมอ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็จะอยู่กับสิ่งนั้นไปตลอดชีวิต
การแต่งงานแนวๆ สุดชื่นมื่น !
ความจริงแล้วคบกันเราสองคนไม่ได้ฟิกถึงเรื่องแต่งงานเลย ตราบใดที่เราเข้าใจกันและดูแลกันทุกวัน การแต่งงานก็แค่ตัวแปรหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะด้วยคู่เราชอบอะไรที่มันสนุกเหมือนอีเวนต์ ชอบมอบของขวัญให้อีกฝ่ายหนึ่ง และเพื่อเป็นการขอบคุณทุกๆ คนที่คอยเชียร์ความรักของเรามาโดยตลอด ตอบแทนทุกๆ คนที่มอบสิ่งดีๆ ให้แก่เราสองคน ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนๆ ก็ตาม เราสองคนเลยคิดจัดงานแต่งงานขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนร่วมฉลองและสนุกด้วยกัน รวมทั้งการแต่งงานครั้งนี้ยังถือเป็นโอกาสมอบของขวัญชิ้นพิเศษสุดให้คนที่รักประทับใจไม่รู้ลืมด้วย
...
การใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องยาก … จริงหรือ ?
คู่อื่นๆ ไม่แน่ใจ แต่สำหรับคู่เรานั้นไม่ยากเลย เพราะด้วยความที่เราคบกันมานาน มันทำให้เราเข้าใจกัน และรู้จักตัวตนกันและกันมากอยู่แล้ว ซึ่งอย่างที่บอกบางทีการแต่งงานอาจไม่จำเป็นเลยก็ได้ เพียงแต่การแต่งงานมันคือการแสดงสถานะว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี การใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมันทำให้เราเปลี่ยนมุมมองบางอย่างไปจากเดิม มันมีอะไรที่มากกว่านั้น มันมีความหมายของมันอยู่ทุกฟังก์ชั่น อย่างน้อยก็ทำให้เราเห็นค่าของเวลา และการอยู่ด้วยกันมากขึ้น
ชีวิตคู่แฮปปี้เว่อร์
ชีวิตคู่ตอนนี้แฮปปี้ดีมาก เราไม่เคยทะเลาะ หรือมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ไม่เข้าใจกันเลย เราค่อยๆ ปรับเรียนรู้กันมานาน 11 ปี จนตอนนี้ได้แต่งงานกัน ทำให้ทุกอย่างมันลงตัว ทั้งไลฟ์สไตล์ ทั้งทัศนคติต่างๆ เรารู้สึกว่าชีวิตคู่มันสนุก มันหวานขึ้น
บางครั้งการใช้ชีวิตคู่ก็ไม่เป็นดั่งใจเราปรารถนา
หลายคู่ที่ตกลงใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันแล้วต้องพังลงไป โดยส่วนตัวหลักๆ แล้วคิดว่าการเข้าใจตัวตน การรับฟังความคิดของอีกฝ่าย และการแชร์ทัศนคติร่วมกันเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่วนใหญ่ที่เลิกกัน … ถ้าไม่เป็นเพราะตัวเขาเองไม่ดี ก็เป็นเพราะเขารับตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ หลายคนพอมีแฟนแล้วก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะมาเปลี่ยน คบกันไปแรกๆ อาจจะยังไม่ปรากฏให้เห็น แต่พอคบกันนานวันเข้าก็ดูเหมือนเขาจะมาควบคุม บงการชีวิตให้ไม่เป็นตัวเอง เข้ามาลรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป และเป็นสาเหตุทำให้รับตัวตนอีกฝ่ายกันไม่ค่อยได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ได้จะเข้ามาเปลี่ยน แต่แค่ปรับให้มันดีขึ้น หลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันดีแล้วจนลืมมองกลับไปว่ามันดีจริงไหม พอเขามาปรับก็เลยรู้สึกว่ามันล้ำเล้น แต่แท้จริงแล้วไม่มีใครมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆ หรอก และไม่มีใครที่นิสัยดี เพอร์เฟกต์จริงๆ ทุกคนต้องมีการปรับด้วยกันทั้งนั้น
...
ใช้ชีวิตคู่ … ต้องระวัง !!?
มันจะเป็นอะไรที่ดีมาก ถ้าก่อนแต่งงานได้มีการเรียนรู้ดูใจ ศึกษากันให้นานๆ และรู้จักตัวตนอีกฝ่ายจริงๆ ให้ดีเสียก่อน เพราะนั่นจะทำให้คุณรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และควรจะระวังในเรื่องอะไรมากที่สุด รวมถึงอีกมุมหนึ่งที่อีกฝ่ายอาจไม่เคยแสดงให้เห็น ถ้าคุณได้เห็นแล้วรับได้ มันก็เหมือนเป็นการก้าวข้ามบันไดผ่านไปอีกก้าวหนึ่งสำหรับชีวิตคู่ แต่ถ้าพูดถึงมุมมองชีวิตคู่จริงๆ แล้ว ในเรื่องของการแสดงออกต่อกัน การแสดงอารมณ์ และการพูดจาในเรื่องอะไรก็แล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรระวังมาก คุณต้องนึกถึงและแคร์ความรู้สึกของคนที่คุณอยู่ด้วยให้มากที่สุด
บางคู่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้นาน ชีวิตคู่ก็ไปได้สวย
เพราะบางคู่อาจจะทำความรู้จักเรียนรู้กันเร็ว สานสัมพันธ์เร็ว ทำความเข้าใจในตัวตนกันและกันเร็ว แล้วคลิกกันก็ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนได้ การทำความรู้จักกันคือ การพูดคุย เรียนรู้ และยอมรับในตัวตนอีกฝ่ายได้ รับได้กับทุกๆ เรื่องที่เป็นเขา ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ทัศนคติ ความคิด หรือแม้แต่ข้อเสียบางอย่างที่อาจขัดใจคุณบ้างในบางครั้ง ถ้าคุณโอเคนั่นก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่กับเขาตลอดไปแล้วล่ะ
เทคนิคการใช้ชีวิตคู่ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง !
ต้องกลับมาถามตัวเองก่อนว่ารักเขาจริงๆ ไหม ถ้ารักก็ต้องสามารถทำทุกอย่างเพื่อเขาได้ และต้องทำให้ได้ดีกว่าที่ทำให้ตัวเอง อย่างคู่ผมกับก้อยเราต้องคอยเติมเต็มความรักให้กันและกัน บอกรักในเวลาที่อยู่ด้วยกัน และมอบความรู้สึกดีๆ ให้กันตลอดเวลา เพราะการแสดงความรู้สึกดีๆ ให้กันเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับชีวิตคู่ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกขาด หรือคิดไปเองว่าเราไม่รักเขาแล้ว ที่จะเป็นเหตุนำพาให้เกิดการทะเลาะกันตามมา
สำหรับคู่ของเราสองคนแสดงออกทางความรักด้วยการกอด และการบอกรักกันในแบบที่เรารู้สึกจริงๆ ตลอดเวลาที่เรายังอยู่ด้วยกัน เราจะรู้สึกว่ามันมีค่าที่ยังมีใครสักคนหนึ่งให้เรายังบอกรักได้อยู่ แต่เหนือสิ่งอื่นใดไม่ต้องคิดหรอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน หรือวันข้างหน้าจะต้องเจออุปสรรคอะไรอีกบ้าง แค่ทำวันนี้ หรือทั้งอาทิตย์นี้ให้เต็มที่ เวิร์กที่สุดแล้วก็พอ !