หนาวดึ๋ง...ชุ่มฉ่ำเย็นเจี๊ยบ...เปียกปอนไปด้วยบุญกุศลกันทั้งประเทศ เมื่อคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย ทั้งซีอีโอ, นักธุรกิจ, นักการเมือง, เศรษฐี, ไฮโซ, ดารา, นักร้อง, ศิลปิน และนักกีฬา ต่างตอบรับกระแสการบอกบุญไฮเทค “Ice Bucket Challenge” แคมเปญท้าดวลเอาน้ำแข็งราดตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม (ALS) ซึ่งจุดประกายมาจากคนดังแดนมะกัน จนแพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก

...

ใครจะกล้าหรือไม่กล้า เอาน้ำแข็งราดหัวตัวเอง คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลส่วนตัว และไม่ใช่เรื่องเป็นธรรมนักที่ใครจะชี้นิ้วบังคับใครในบ้านเมืองนี้ ให้ทำอะไรตามอำเภอใจตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงกาลเทศะ และสิทธิของคนอื่น ดูอย่างเช่นรัฐบาลอเมริกายังสั่งห้ามทูตระดับสูงทุกคนรับคำท้าทำ “ไอซ์ บัคเก็ต” เพราะขัดต่อหลักจริยธรรมของรัฐ ที่ห้ามใช้ตำแหน่งหน้าที่หาผลประโยชน์เพื่อเอกชน ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ทำตัวเป็นแบบอย่าง โดยไม่ตอบรับคำท้าภรรยาม่ายของวุฒิสมาชิกโรเบิร์ต เคนเนดี้ แต่เลือกบริจาคเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ตามกฎกติกาของ “ไอซ์ บัคเก็ต ชาเลนจ์” เมื่อมีคนท้าเรา ผู้รับคำท้าจะต้องเลือกระหว่างการเอาน้ำแข็งเย็นยะเยือกทุ่มใส่ตัวเอง แล้วบริจาคเงิน 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เข้ามูลนิธิ ALS หรือจะบริจาคเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว เป็น 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขอบายไม่สาดน้ำรดหัวตัวเอง ก็ถือว่าถูกต้องตามมารยาทสากล ไม่จำเป็นต้องอวดรวยบริจาคเงินเป็นแสนเป็นล้าน เพราะกลัวเสียหน้า และเอาเข้าจริงๆแล้ว ประเด็นสำคัญกว่าก็อยู่ที่ว่า คนร่วมกิจกรรมจะมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและสังคมมากน้อยแค่ไหน

...

ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์องค์กรธุรกิจ และซีอีโอสารพัดค่าย ที่ฉวยโอกาสเกาะกระแสโลกร่วมกิจกรรมมหากุศลเพื่อหวังสร้างภาพลักษณ์ ก็อยากให้มองโลกแง่บวก...มากกว่าจ้องจับผิด เพราะถึงแม้ทุกค่ายธุรกิจจะหวังผลโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่สุดท้ายก็ยังทำประโยชน์ให้สังคมบ้าง และดึงเม็ดเงินมหาศาลเข้าองค์กรกุศล ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะมูลนิธิ ALS แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงมูลนิธิมากมายทั่วประเทศ งานนี้ต้องปรบมือให้ “พาที สารสิน” ซีอีโอนกแอร์ ในฐานะผู้ริเริ่มนำแคมเปญเปียกเพื่อการกุศล มาเผยแพร่ในเมืองไทย

...

กระบวนการบอกบุญไฮเทคถูกส่งต่อยาวไปถึง “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” ท้าต่อไปยัง “เสี่ยตัน อิชิตัน” และรับคำท้าอีกทอดโดย “อากู๋ แกรมมี่” ก่อนจะส่งคำท้าถึง “ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ประธานกรรมการตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่ซีอีโอไฟแรงสายการบินไทยแอร์เอเชีย “ทัศพล แบเลเว็ลด์” รับคำท้าจากแม่ทัพกูเกิล ประเทศไทย “อริยะ พนมยงค์” ท่ามกลางแรงเชียร์ของสาวๆชุดแดง และไม่ลืมส่งต่อความปรารถนาดีไปยัง “สาระ ล่ำซำ” กับ “น้าแอ๊ด คาราบาว”

...


สามซีอีโอค่ายมือถือใหญ่ AIS–DTAC–TRUE ก็รับคำท้ายกถังน้ำแข็งราดหัวจากผู้ก่อตั้ง TARAD.com ส่วนซีอีโอแวดวงสื่อท้าดวลกันสนุกสนานมาก นำขบวนโดย สองพี่น้องผู้บริหารไทยรัฐทีวี “บอสเนียร์” กับ “บอสนิค” ถูกท้าทายมาจากคู่แฝดซีอีโอ

อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เลยส่งคำท้าต่อไปยัง 3 มหามิตรคือ “พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์” ผู้กุมบังเหียน กสทช.,“ชาติศิริ โสภณพนิช” บอสใหญ่ธนาคารกรุงเทพ และ “วิลักษณ์ โหลทอง” ผู้บริหารหนุ่มสยามสปอร์ตฯ



แวดวงซีอีโอหญิงเหล็กของเมืองไทยก็ท้าดวลกันเอิกเกริก โดยมีจุดเริ่มต้นจาก “จก–เสริมคุณ คุณาวงศ์” เจ้าพ่อออแกไนเซอร์ค่ายซีเอ็มโอ ส่งคำท้าถึงสองเจ้าแม่วงการค้าปลีกคือ “แป๋ม-ชฎาทิพ จูตระกูล” และ “แอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” รายแรกขอบายเพราะติดประชุมเมืองนอก ส่วนรายหลังถูกสามีอุ้มกระโจนลงสระเป็นที่สนุกสนาน เลยอยากแบ่งปันความสุขและบอกบุญต่อซีอีโอน้องรักเมืองไทยประกันภัย “แป้ง–นวลพรรณ ล่ำซำ” ซึ่งโชว์ลีลาราดน้ำแข็งได้น่ารักน่าไลค์ ท่ามกลางเสียงเชียร์จากน้องๆนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย โรคอยากเปียกเพื่อให้ได้บุญยังระบาดไปถึงวงการไฮโซ เมื่อเจ้าพ่อจิวเวลรี่ “สุริยน ศรีอรทัยกุล” แห่งบิวตี้ เจมส์ ท้าวัดใจซีอีโอเพื่อนซี้เจ้าของเครื่องสำอางมิสทิน “ดนัย ดีโรจนวงศ์” จนจับไข้ทั้งคู่

สาเหตุที่คนไทยตอบรับกระแสนี้เร็วกว่าชาวโลก ก็เพราะถูกจริตกับนิสัย ที่ชอบความสนุกสนาน ศรัทธาเรื่องการทำบุญทำกุศล และเมื่อทำดีแล้วก็อยากประกาศให้โลกรู้!! ที่สำคัญยังได้ท้าทายคนอื่นส่งต่อความดีขยายวงไปเรื่อยๆไม่รู้จบ เข้าตำราทำดีเงียบๆคนเดียวไม่สนุก แต่ถ้าได้ท้าทายพนันขันต่อนิดหน่อย...คนไทยชอบ เพราะสนุกกับการลุ้นว่าคนถูกท้าจะรับคำท้าไหม...ใครจะท้าใครต่อไป

พูดถึงลีลาการทำไอซ์ บัคเก็ต มีไอเดียสนุกๆที่คิดนอกกรอบให้ฮือฮาไม่น้อย โดยมุกเด็ดสุดคือ กาแล็กซี เอส 5 จากค่ายซัมซุง ทำไอซ์ บัคเก็ต และส่งต่อคำท้าไปยังมือถือคู่แข่ง ขณะที่มาสคอตสติกเกอร์สุดฮอตจากไลน์ คือ โคนี่ และบราวน์ รับคำท้าเอาน้ำเย็นราดหัวโตๆ ก่อนจะท้าต่อไปยังเพื่อนมาสคอตอีก 3 ตัวคือ น้องรักยิ้ม เมืองไทยประกันชีวิต, “สรยุทธ” เรื่องเล่าเช้านี้ และน้องก้านกล้วย กันตนา

เรื่องคิดนอกกรอบและชอบทำลายสถิติโลกต้องยกให้พี่ไทย ก็เพราะอย่างนี้ ชาวโลกจึงได้เห็นคนไทยร่วมกิจกรรมเอาถังน้ำแข็งราดหัวพร้อมกันนับพันคน ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ แถมยังส่งต่อคำท้าไปถึงประเทศจีน และสิงคโปร์ ขณะที่ “เจ้าสัวบัณฑูร ล่ำซำ” ขออนุรักษ์ความเป็นไทย รับคำท้าด้วยการรดน้ำมนต์ 9 วัด เย็นเจี๊ยบชื่นใจ แทนการยกถังน้ำแข็งราดตัว ก่อนเดินสายไปรดน้ำมนต์ 9 วัด ให้ “ประชา เหตระกูล” บก.บห.ศักราชใหม่ ของ นสพ.เดลินิวส์ แม้แต่ “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา” ก็ทรงยอมเปียกเพื่อร่วมทำบุญ โดยทรงระบุในเฟซบุ๊ก เรารัก “องค์ภา” : “Our Beloved Princess (ong-pa)” ว่า “Ice bucket challenge from my sister, Baiplu, เพื่อมูลนิธิ รพ.ศิริราช/ For Siriraj hospital/ Bangkok Thailand..เกาะกระแสกันหน่อย...ขำๆได้ทำกุศล”.

ทีมข่าวหน้าสตรี