“สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ” ประกาศลั่น ลุยงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 18” เต็มที่ขนทัพหนังสือกว่า 1,000 บูธ พร้อมเติมพื้นที่ “เพิ่มปัญญา” ด้วยแนวคิด “หนังสือเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก”...
เผยไฮไลท์ สุดเด็ด “นิทรรศการความใฝ่ฝัน แสนงาม 40 ปี 14 ตุลา” ย้ำอิทธิพลของความรู้ที่ส่งผลถึงประวัติศาสตร์สำคัญ ปะทะดินแดนมหัศจรรย์ “Book Wonderland” ชวนสนุกกับหนังสือที่มากกว่าแค่การอ่าน พร้อมเปิดตัว Application B Scan ครั้งแรก ค้นทุกสิ่งในงานมหกรรมหนังสือด้วยปลายนิ้ว!!!
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เตรียมจัดงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 18 (Book Expo Thailand 2013)” อย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างวันที่ 16-27 ต.ค. 2556 เวลา 10.00–21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยปีนี้ จัดภายใต้แนวคิด “หนังสือเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก” เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและอิทธิพลของการอ่านที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลง ทั้งในส่วนของบุคคล สังคม และประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยจำลองบรรยากาศของ “หนังสือเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก” ทั่วทั้งบริเวณงาน โดยมีสำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วประเทศ ร่วมออกงานมากถึง 425 สำนักพิมพ์ รวมกว่า 1,000 บูธ อัดแน่นเต็มพื้นที่ 22,000 ตารางเมตร
...
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า งานมหกรรมหนังสือ ครั้งที่ 18 นี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงจากหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา โดยนอกจากจะคงความเป็นบุ๊กแฟร์หนังสือราคาพิเศษ ที่ทุกคนรอคอยแล้ว ยังมีการเปิดพื้นที่ทางปัญญามากขึ้น ด้วยกิจกรรมไฮไลท์ต่างๆ ให้สมกับแนวคิดดังกล่าว
“หนังสือเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง ทั้งในระดับจุลภาคอย่างปัจเจกบุคคล และระดับมหภาคอย่างสังคม เพราะหนังสือ นอกจากจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้แล้วนั้น อุบัติการณ์ใดๆ ในโลกนี้ ก็ล้วนเปลี่ยนแปลง โดยอิทธิพลของหนังสือ สังคมไหนที่ประชาชนมีความรัก หรือความชื่นชอบในการอ่านหนังสือสูง รัฐจะไม่สามารถปกครองโดยไร้เหตุผลได้ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ในฐานะองค์กรที่สนับสนุนและส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน จึงจำเป็นที่จะต้องร่วมสร้างการอ่านให้เกิดขึ้นให้ได้ในสังคม หลายกิจกรรมถือเป็นการสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ของงาน โดยเป็นการระดมความคิดของกลุ่มนักคิดที่ได้รับการยอมรับของหลายภาคส่วน” จรัญ อธิบายถึงสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ดังนั้น นอกจาก 425 สำนักพิมพ์ ที่ขนทัพหนังสือสุดฮอตฮิตของตัวเองมาร่วมแล้วนั้น จึงมีกิจกรรมไฮไลท์อีกมากมาย อาทิ นิทรรศการความใฝ่ฝันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลา ซึ่งผู้ร่วมงานที่อายุครบ 40 ปีในปีนี้ จะได้รับวีซีดี “14 ตุลา บันทึกประวัติศาสตร์” โดยอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ พร้อมโปสการ์ด และท่านที่เกิดใน ต.ค. ก็จะได้รับโปสการ์ดสุดพิเศษ, นิทรรศการองคมนตรีกับสถาบันพระมหากษัตริย์, นิทรรศการจากกลุ่มสห+ภาพ ที่มาพร้อมภาพถ่ายชีวิตและโลกที่เปลี่ยนไปเพราะหนังสือ โดยจิรนันท์ พิตรปรีชา และ ธีรภาพ โลหิตกุล
...
“เราเปิดพื้นที่แสดงงานเชิงความรู้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการสำคัญ ซึ่งจะช่วยแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (International Publishers Association) เพราะในปีหน้า จะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงาน “การประชุมผู้จัดพิมพ์สมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (IPA Congress 2014 )” ซึ่งมีสมาชิกกว่า 50 ประเทศจากทุกทวีปทั่วโลก ทั้งแอฟริกา เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา มาร่วมประชุม ตั้งแต่วันที่ 25-27 มี.ค. 2557 โดย IPA Congress ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่สุดในแวดวงสิ่งพิมพ์ระดับนานาชาติ เพราะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการสิ่งพิมพ์โลกด้วย”
นายจรัญ ยังเผยอีกว่า ครั้งนี้จะมีโซนหนังสือใหม่เกิดขึ้น คือโซน Book Wonderland ในโซน D ที่มาพร้อมแนวความคิด “หนังสือมีความสนุกมากกว่าการอ่าน” โดยเกิดขึ้นจากการรวมตัวของสำนักพิมพ์แนวเดียวกัน คือการ์ตูน หนังสือกลุ่มเด็กและเยาวชน รวมถึงไลท์โนเวล อาทิ เซนชู เด็กซ์เพรส พูนิก้า ลัคพิมพ์ 1168 ฯลฯ
รวมถึงอีกหนึ่งความพิเศษคือ เป็นครั้งแรกที่จะมี Application งานมหกรรมหนังสือเกิดขึ้น โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จับมือกับบริษัท บีอีซี-เทโร แอ๊พพ์ จำกัด พัฒนาแอพพลิเคชั่น ชื่อว่า B Scan เพื่อใช้อำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงาน โดยฟังก์ชั่นหลักคือ การค้นหาตำแหน่งและโปรโมชั่นของสำนักพิมพ์ได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส และยังมีระบบคูปองส่วนลด ที่สามารถกดรับคูปองส่วนลด จากสำนักพิมพ์ที่เข้าร่วมรายการผ่านแอพฯ และนำไปแสดงที่บูธหนังสือ เพื่อรับส่วนลดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกิจกรรมลุ้นของที่ระลึกจากการใช้แอพฯ สแกนโปสเตอร์ของงานมหกรรมหนังสือฯ อีกด้วย โดยจะพร้อมเปิดให้ดาวน์โหลด วันที่ 15 ต.ค. ทั้งจาก App Store และ Google Play
...
ด้าน นายปราบดา หยุ่น อุปนายกฝ่ายต่างประเทศสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ และประธานจัดนิทรรศการ “ความใฝ่ฝันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลา” เปิดเผยถึงแนวความคิดของงาน ที่ทำร่วมกับนักคิดนักเขียน อาทิ อุทิศ เหมะมูล นักเขียนซีไรต์ปี 2552, ดวงฤทัย เอซะนาชาตัง และ อ.ประจักษ์ ก้องกีรติ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมกันสร้างนิทรรศการนี้ขึ้น
“ท่านนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ดำริให้มีนิทรรศการความฝันอันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลาขึ้นมา ธีมของงานเลยเป็นการยกประเด็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงชีวิต เปลี่ยนโลกโดยผ่านการอ่านหนังสือ เพราะช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 นักศึกษาที่ลุกขึ้นมาประท้วงอยากให้สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลง ก็มาจากการอ่าน โดยได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือหลายๆ เล่ม เป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนว่า หนังสือมีพลังในการเปลี่ยนแปลงคนอ่าน เปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงโลกได้มากแค่ไหน”
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดหลักของงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 18 ที่ว่า ‘หนังสือเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนโลก’ ภายในนิทรรศการ จึงนำเสนอบรรดาหนังสือและข้อเขียนต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิด ‘ความใฝ่ฝันแสนงาม’ แสดงความเป็นไปตามเส้นเวลา ตั้งแต่ช่วงปี 2500 จนถึงก่อนวันที่ 14 ตุลา 2516 โดยเน้นเรื่องราวของหนังสือ ตั้งแต่รับอุดมการณ์ความคิดมาจากคนรุ่นก่อนหน้า จนถึงก้าวเข้ามาเขียนและผลิตหนังสือกันเองอย่างคึกคัก
...
“พยายามเสนอภาพประวัติศาสตร์ช่วงนั้นให้สัมผัสจับต้องได้ เน้นการสร้างบรรยากาศภายในงาน ใช้พื้นที่เล่นกับผู้ชม มากกว่าเพียงการอ่านบอร์ดนิทรรศการ โดยนิทรรศการจะทำหน้าที่เชื่อมโยงให้คนรุ่นปัจจุบันเข้าถึงและเข้าใจผู้คนในยุคสมัยนั้นมากยิ่งขึ้น” นายปราบดา กล่าว
นอกจากนี้ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทยให้เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมการอ่านต่างๆ โดยเฉพาะโครงการ “PUBAT Charity ปันกันอ่าน แบ่งกันให้” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาวฐาปนี โปร่งรัศมี อุปนายกฝ่ายในประเทศสมาคมผู้จัดพิมพ์ และประธานโครงการ PUBAT Charity เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมในโครงการ PUBAT Charity ในครั้งนี้ คือ “โครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง” ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 29 แล้ว เพราะการให้โอกาสทางการอ่านแก่ผู้ที่ขาดโอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
“สังคมจะพัฒนาไปได้ไกลต้องมีการศึกษาและเศรษฐกิจที่สัมพันธ์กัน จึงจะขับเคลื่อนให้สังคมก้าวต่อไปได้ แต่ในความเป็นจริงมิติทางสังคมไทย ยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่มาก โดยเฉพาะสังคมที่ห่างไกล รวมถึงเด็กด้อยโอกาสทั้งที่อยู่ในเมืองและชานเมืองก็ยังขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานทางด้านหนังสืออื่น ที่นอกเหนือจากหนังสือเรียนเพราะเศรษฐกิจไม่อำนวย
“ทอฝันปันหนังสือให้น้อง” จึงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกฝังการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเรามีพันธมิตรที่เกื้อหนุนในการสรรหาโรงเรียน หรือกลุ่มที่เหมาะสมคื อมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งจะมีการมอบบัตรกำนัลให้แก่เด็กด้อยโอกาสจากองค์กรต่างๆ
นางสาวฐาปนี เผยอีกด้วยว่า โครงการ PUBAT Charity ยังจำหน่ายสินค้าในพื้นที่พิเศษบริเวณบันไดทางขึ้นระหว่างโซน C1 และโซน C2 ขึ้นด้วย โดยรายได้ทั้งหมดนั้น จะนำเข้าโครงการ PUBAT Charity โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเพื่อทำกิจกรรมสาธารณกุศล เกี่ยวกับการอ่านต่อไป
งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 18” จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 16-27 ต.ค. 2556 เวลา 10.00–21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้าไปดูรายละเอียด ได้ที่ www.pubat.or.th หรือ www.facebook.com/BookThai