โด่งดังเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจค้าส่งเพชรพลอยและเครื่องประดับอัญมณีระดับโลกมาหลายทศวรรษ สำหรับ “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป” ในฐานะเจ้าแห่งการเจียระไนเพชรสวยสมบูรณ์ที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก และผู้ส่งออกพลอยอันดับหนึ่งของเอเชีย ล่าสุด ยักษ์ใหญ่วงการเจียระไนอัญมณีของเมืองไทย ได้ก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง เมื่อ 4 ทายาทรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นที่สี่ ภายใต้การนำของ จิ๊บ-อชิรญา อิงคตานุวัฒน์ วรวงศ์วสุ, ท็อป-พีรยสถ์ ศิริเกียรติสูง, จอย-สรัลยา เลิศสุมิตรกุล และ โจ้-นิธิ เลิศสุมิตรกุล ผนึกกำลังกันต่อยอดธุรกิจสยายปีกสู่พรมแดนใหม่ของการค้าปลีกเครื่องประดับจิวเวลรี่ เพื่อสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่แห่งตระกูลอัญมณีให้คงอยู่คู่เมืองไทย และส่งผ่านความภาคภูมิใจสู่ลูกหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่ากว่าจะมาถึงวันนี้ กิจการของ “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป” เริ่มก่อร่างสร้างตัวจากห้องแถวเล็กๆย่านหัวเม็ด เปิดเป็นร้านขายทอง-เงิน-นาก เมื่อปี 1905 โดย “เถ้าแก่เตียวเม้ง แซ่เบ๊” ต้นตระกูลดุรงคพิทยา ตั้งชื่อว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด มณีรัตน์ (เบ๊จิ้นเต็ก) แรกเริ่มยังไม่ทำเพชรพลอย แค่ค้าขายแบบซื้อมาขายไป กระทั่งพัฒนาเป็นผู้ส่งออกอัญมณีรายใหญ่ที่สุดของเมืองไทย เมื่อเข้าสู่ยุคของ “เจ้าสัววิชิต ดุรงคพิทยา” ลูกชายคนเล็กของ “เถ้าแก่เตียวเม้ง” ซึ่งมีศักดิ์เป็นอากงของ 4 ทายาทรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นที่สี่
...
จิ๊บ : ตอนเล็กๆพวกเราอยู่บ้านเดียวกันหมด โดย “จิ๊บ” กับ “ท็อป” จะเป็นหลานสองคนโตที่ได้นอนกับอากงอาม่าทุกคืน ทำให้มีโอกาสใกล้ชิดท่านมาก กระทั่ง “จิ๊บ” ไปเรียนต่อไฮสคูลตอนอายุ 12 ปี ตอนอากงเสียชีวิต “จิ๊บ” กำลังเรียนปริญญาตรี ด้านรัฐศาสตร์อยู่ที่อเมริกา อายุประมาณ 20 ปี รู้สึกเสียใจมากที่เดินทางกลับมาไม่ทันดูใจ สมัยเด็กๆจำได้ว่าทุกครั้งที่ทานข้าวด้วยกัน อากงจะสอนเสมอว่า ต้องขยัน อดทน ซื่อสัตย์ รักษาคำพูด และใช้ชีวิตพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อ เวลาที่อากงว่างจากงานยังชอบเข้าครัวทำอาหารให้หลานๆทาน คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่า อากงมักจะสอนลูกๆว่า พี่น้องต้องรักกัน คนในครอบครัวต้องสามัคคีกัน มีอะไรต้องพูดคุยหารือกัน ถ้ามีปลาอยู่ตัวหนึ่ง ไม่ใช่พี่น้องทุกคนจะแย่งคีบปลาตัวเดียวกัน แต่ละคนต้องออกไปเหวี่ยงแหในทะเล ถึงจะได้ปลาเพิ่ม คือทุกคนต้องทำงาน ท่านมีสมบัติอยู่แค่นี้ ถ้าทุกคนคิดจะเอาแต่ตรงนี้ โดยไม่รู้จักขวนขวายหาเพิ่ม วันหนึ่งก็ต้องหมด
ท็อป : ผมนอนกับอากงอาม่าตั้งแต่เด็กครับ และได้ซึมซับคำสอนดีๆหลายอย่าง อากงบอกเสมอว่า เราเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ แต่ทุกคนก็ต้องขยันทำงาน ต้องช่วยกันรับผิดชอบธุรกิจครอบครัว เพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งไม่ทำ ก็หมายความว่า พี่น้องและลูกหลานคนอื่นจะต้องลำบากเพิ่มขึ้น
โจ้ : วันใดถ้าไม่ซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมาหลายสิบปีก็จะสูญหายไปในพริบตา และยากที่จะกอบกู้คืนมา
จอย : อากงเป็นคนมีวิสัยทัศน์ยาวไกลมาก เท่าที่ทราบท่านเป็นคนแรกในเมืองไทยที่เริ่มเจียระไนเพชรเอง เพราะเล็งเห็นศักยภาพของช่างฝีมือไทย ท่านยังเป็นคนบุกเบิกด้านเอ็กซ์พอร์ตพลอยไปขายทั่วโลก โดยตระเวนซื้อก้อนพลอยจากพม่าและเขมรมาเจียระไน
จิ๊บ : ก็ได้สัมผัสมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ หลังเลิกเรียนและทุกวันหยุด พวกเราจะต้องไปขลุกอยู่ที่โรงงานเจียระไนเพชรพลอย ก็เคยชินกับถาดคัดเพชรพลอย และนั่งดูบายเออร์มาเลือกเพชรเลือกพลอยเพื่อไปทำจิวเวลรี่
โจ้ : พวกเราชอบเอาถาดคัดพลอยและคีมมาหนีบพลอยแยกเป็นสีๆเล่นกัน บางทีก็จะมีตัวอย่างเป็นตารางๆให้ดู แล้วให้เด็กๆแยกพลอยตามเฉดสีในตาราง ผู้ใหญ่จะจัดแยกพลอยไว้เป็นกลุ่มๆ แล้วให้ทายว่าพลอยเม็ดไหนสวยสุด ราคาแพงสุด พอทายไม่ถูก ก็จะโดนล้อว่าตาไม่ถึง ตอนหลังเด็กๆจับทริคได้ว่าข้างบนซ้ายสุดของตารางคือ พลอยราคาแพงสุด เลยเลือกถูก (หัวเราะ)
ได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เล็กๆเลยไหมว่า โตขึ้นต้องมาช่วยกิจการที่บ้าน
จิ๊บ : ผู้ใหญ่ที่บ้านไม่เคยบังคับว่าทุกคนต้องกลับมาช่วยงานที่บ้าน แต่เป็นเรื่องของจิตสำนึกและความรับผิดชอบมากกว่า หลังจาก “จิ๊บ” เรียนจบปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์จากอเมริกา และปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จากอังกฤษ ก็กลับมาทำงานหาประสบการณ์อยู่ 4 ปี โดยทำงานเป็นเออีบริษัทเอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่ง และทำด้านการตลาดกับบริษัทซัมซุงของเกาหลี ตอนนั้นได้มีโอกาสแสดงฝีมือเซตอัพซัมซุงในเมืองไทย พอทำได้สำเร็จ ทำให้มั่นใจว่าเราพร้อมแล้วที่จะกลับมาช่วยงานที่บ้าน “จิ๊บ” เข้ามาทำงานที่บ้านตอนอายุ 25 ปี เริ่มจากดูแลด้านการตลาด และติดต่อประสานงานกับลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราถนัด กระทั่งได้เซตอัพสร้างแบรนด์มิกิโมโต้ในปี 2002 พอผู้ใหญ่เห็นว่าเราทำได้ดี จึงไว้วางใจให้ขยายงานด้านค้าปลีกจิวเวลรี่เพื่อต่อยอดธุรกิจ จากเดิมที่เน้นแต่การขายส่ง ก็เริ่มมาจัดระบบและทำการตลาดให้เคาน์เตอร์แบรนด์อย่าง “De Preco” จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
อะไรทำให้ผู้ใหญ่ไว้วางใจให้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกจิวเวลรี่ ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน
...
จิ๊บ : คุณแม่และน้าๆเชื่อมั่นว่า ถ้ารุ่นลูกรุ่นหลานเข้ามาสืบทอดธุรกิจ แล้วรู้จักทำมาร์เก็ตติ้งดีๆก็จะสามารถขยายแบรนด์ไปเมืองนอกได้สบายๆ ต่างประเทศรู้จักเราดีอยู่แล้วจากการค้าส่ง เมื่อมาทำรีเทลก็น่าจะประสบความสำเร็จ ที่สำคัญพวกท่านคงเห็นว่า พวกเราสามารถทำได้จริง อย่าง “จิ๊บ” ก็พิสูจน์ให้เห็นจากการสร้างแบรนด์มิกิโมโต้ และช่วย “ท็อป” ทำการตลาดแบรนด์ De Preco จนเป็นที่รู้จัก
ท็อป : ผมเข้ามาพัฒนาแบรนด์ De preco ตั้งแต่ปี 2007 แรกๆเข้ามาช่วยจัดระบบก่อน แต่ไปๆมาๆก็ดูแลบริหารงานทุกอย่าง จากเดิมที่เปิด 6-7 สาขา ตอนนี้ขยายไป 20 กว่าสาขาแล้ว ยอดขายหลักร้อยล้าน และโตขึ้นทุกปีปีละ 15% ก็ถือเป็นความภูมิใจที่ทำได้!! ลูกค้าของเราส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่และคนทำงาน ที่ชอบของดีมีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึงได้ ถ้าลองเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆก็จะรู้ว่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายมาคุ้มค่ากับเงินจริงๆ
จัดระเบียบข้อมูลให้ได้มาตรฐานเดียวกัน ทำให้เช็กได้หมดว่า เพชรและพลอยแต่ละเม็ดอยู่ในจิวเวลรี่ชิ้นไหนบ้าง
...
สภาพเศรษฐกิจตกสะเก็ด ทำไมกล้าสร้างแบรนด์ใหม่โดยเน้นตลาดไฮเอนด์
จิ๊บ : พวกเราตั้งใจสร้างแบรนด์ PREMIERA เพื่อเป็นโชว์เคสของ “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป” อยากสื่อสารให้ทุกคนรับรู้ถึงตำนานเก่าแก่ของธุรกิจตระกูลเรา ซึ่งมีประวัติยาวนาน 108 ปี พวกเราตั้งใจว่าต้องร่วมแรงร่วมใจกันต่อยอดธุรกิจให้ขจรขจายออกไปใน
วงกว้าง และอยากส่งต่อความภาคภูมิใจในฝีมือการเจียระไนของเรา จากเดิมที่เคยอยู่แต่เบื้องหลังขายส่งวัตถุดิบให้แบรนด์จิวเวลรี่ทั่วโลก ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะได้สัมผัสสิ่งดีที่สุดจาก “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป”
ท็อป : เมื่อพูดถึงเพชรและพลอยที่มีคุณภาพ ก็อยากให้คนนึกถึงแบรนด์ของเรา นึกถึง “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป”
จอย : ลูกค้าของเราเป็นระดับไฮเอนด์จริงๆ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยญี่ปุ่นเป็นลูกค้าอันดับหนึ่งในเรื่องส่งออกเพชร เราใช้ก้อนเพชรคุณภาพสูงที่สุดจากเหมืองเพชรในแอฟริกาใต้ เพชรของเราเจียระไนสวยที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะเรายอมเสียเนื้อเพชรเยอะหน่อยและใช้ก้อนเพชรที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้สัดส่วนสมมาตรที่ดี
โจ้ : พอพูดถึงเพชรพรีเมียร์ ทุกคนจะรู้เลยว่าต้องมีคุณภาพสูงเท่ากันทุกเม็ด ลูกค้าที่ได้ครอบครองจะมั่นใจว่าได้สิ่งที่ดีที่สุด เพราะเราควบคุมเองทุกขั้นตอนจริงๆ
อะไรคือเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์น้องใหม่ PREMIERA
จิ๊บ : จุดเด่นของแบรนด์ PREMIERA อยู่ที่การรู้จักใช้เพชรและอัญมณีสีสันต่างๆเข้าคู่กันอย่างสวยงาม โดยสามารถดึงเอาความโดดเด่นของเพชรและอัญมณีแต่ละชนิดออกมาได้น่าทึ่ง ขณะที่เซตติ้งของเราก็ดูพลิ้วไหวราวกับมีชีวิต การสร้างแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นได้เพราะคุยกับผู้ผลิตเครื่องประดับจิวเวลรี่ชื่อดังของอิตาลี “มร.คอร์ราโด” ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าแก่ของเรา จึงตัดสินใจร่วมมือกันสร้างสรรค์ชิ้นงานจิวเวลรี่ขึ้นมา โดยใช้เทคนิคชั้นสูงและกระบวนการผลิตทันสมัยของอิตาลี ผสมผสานกับวัตถุดิบชั้นยอดของเรา มีการคัดช่างฝีมือระดับท็อปของพรีเมียร่า 4 คน จาก 100 คน เพื่อมาเทรนเทคนิคกับช่างอิตาเลียนใกล้ชิด กว่าจะได้ผลงานชิ้นแรกต้องใช้เวลาปีครึ่ง เพราะเขาจะคุมเข้มทุกขั้นตอนเองหมด
...
โจ้ : งานดีไซน์ของ PREMIERA มีความสวยงามโดดเด่น เพราะเราไม่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะยุคใดยุคหนึ่ง แต่เป็นการผสมผสานงานศิลปะแบบคลาสสิกและโมเดิร์นเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน กลายเป็นความโมเดิร์นที่ร่วมสมัย
จอย : แต่ละชิ้นต้องใช้เวลาทำเป็นปี เพราะทำทีละชิ้นๆแล้วค่อยนำมาประกอบรวมกัน เพื่อให้พลิ้วไหวและแนบไปกับสรีระผู้สวมใส่ที่สุด เราได้เรียนรู้อะไรเยอะจากช่างอิตาเลียน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการฉลุลายที่ละเอียดอ่อน, เทคนิคฝังเพชรแบบ 3 มิติ และเทคนิคทำเซตติ้งแบบอิตาลีที่ประกอบขึ้นจากชิ้นเล็กหลายๆชิ้น แทนที่จะหล่อขึ้นมาชิ้นเดียว
มาถึงจุดนี้ ตั้งเป้าว่าจะสานต่อตำนานของ “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป” อย่างไร
จิ๊บ : พวกเราต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำให้ “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป” เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับนานาชาติ ต้องส่งต่อความภาคภูมิใจที่มีมายาวนานของตระกูลเราไปสู่สาธารณชน ที่สำคัญคือ อยากให้คนไทยภูมิใจในฝีมือของคนไทย พวกเราได้รับการปลูกฝังเหมือนกันว่า ต้องขยัน ซื่อสัตย์ และอดทน ตรงนี้ถือเป็นรากฐานของครอบครัว ฉะนั้น พวกเราซึ่งเป็นลูกหลานควรช่วยกันพัฒนาธุรกิจครอบครัว และมองว่ายิ่งทำงานกับคนในครอบครัว ยิ่งต้องมีความสุขและภาคภูมิใจ
ท็อป : ผมอยากให้คนมอง “เดอะ พรีเมียร์ กรุ๊ป” ในฐานะสัญลักษณ์ของคุณภาพ และความซื่อสัตย์จริงใจ
โจ้ : พวกเราทำร้านพรีเมียร่าไม่ได้หวังกำไร แต่ทำเพื่อส่งต่อความภาคภูมิใจที่สืบสานกันมาหลายเจนเนอเรชั่น และอยากให้รู้ว่าธุรกิจของครอบครัวเราจะยังคงสืบสานต่อไปเรื่อยๆ ไม่หายไปอย่างแน่นอน แต่จะมั่นคงและแข็งแกร่งขึ้น
จอย : ความภาคภูมิใจสั่งสมมาเป็นร้อยปี ถ้าวันใดเราไม่ซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือก็จะสูญหายไป พวกเรากำลังทำหน้าที่รักษาความมั่งคั่งที่บรรพบุรุษได้สร้างสมมาอย่างเต็มกำลังความสามารถที่สุด!!
ทีมข่าวหน้าสตรี