คุณหนูเอาแต่ใจ หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ซึ่งเป็นนิสัยของลูกคนเล็กหรือลูกคนเดียวที่พ่อแม่สปอยร์ เลี้ยงมาแบบตามใจ แต่สำหรับน้องสุดท้องของบ้าน “เมโกะ” นามว่า มาลาตรี ฉายาวิจิตรศิลป์ ห่างไกลคาแรกเตอร์นั้นอย่างสิ้นเชิง เพราะสิ่งที่เธอฝ่าฟันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนทำงาน ผลงานทุกชิ้นพิสูจน์แล้วว่า เธอมุ่งมั่น อดทน และเอาจริง!!

มาลาตรี  ฉายาวิจิตรศิลป์ หรือ  น้องพิม  เป็นลูกสาวคนสุดท้อง จากพี่น้องทั้งหมด 4 คน  ของ  วรรณนภา–นพ.มนัส  ฉายาวิจิตรศิลป์ ศัลยแพทย์ความงามชื่อดัง เจ้าของศูนย์ความงาม “เมโกะ คลินิก” สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนนานาชาติ ISB ได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น เป็นนักบัลเล่ต์ และนักกีฬาแบดมินตันของโรงเรียน ไปแข่งขันต่างประเทศอยู่บ่อยๆ และจบปริญญาตรีเกียรตินิยม คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาแมเนจเม้นท์แอนด์ไฟแนนซ์ จากมหาวิทยาลัยบิสิเนสอันดับ 1 ของโลก วอร์ตัน บิสซิเนส สคูล สหรัฐอเมริกา เมื่อจบก็กลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัว “เมโกะ คลินิก” ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ

สาวนักบริหารรุ่นใหม่วัย 24 ปี เล่าว่า “ประสบการณ์ชีวิตสมัยเรียนที่อเมริกาสอนให้เข้มแข็ง อดทน มีอิสระ แต่ก็อยู่ภายใต้กรอบ” พอเรียนจบปุ๊บ! ก็ได้ทำงานหาประสบการณ์กับธนาคาร ดอยช์แบงก์ สิงคโปร์ ถือเป็นไฟแนนซ์เชี่ยลฮับในเขตเซาท์ อีสท์ เอเชีย ที่ มารีครูทถึงมหาวิทยาลัย โดยรับไว้แค่คนเดียว และ พิม ก็ได้รับคัดเลือกไปทำงานในตำแหน่งนัก วิเคราะห์ หน้าที่หลักๆ คือ ดูแลเรื่องการดิวบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ Mergers and Acquisition (M&A) โดยเป็นบริษัทขนาดหลายหมื่นล้านบาท

“นับเป็นช่วงเวลา 1 ปีที่ทำงานหนักมาก ทำงาน 7 วัน จนถึงเที่ยงคืนบ้าง บางวันก็ต้องทำงานถึงเช้าวันถัดไปก็มี แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และยังสนุกตรงที่ได้บินไปทำดิวในประเทศต่างๆ และ ยังได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับ  CFO  (Chief  Financial  Officer) เพื่อทำ Financial Forecast ซึ่งทำให้ได้เรียนรู้วิทยายุทธ์ของการทำธุรกิจจากมุมมองของนักการเงิน ซึ่งได้ประสบการณ์คุ้มค่ามากค่ะ”  น้องพิม เล่าถึงประสบการณ์ที่เธอได้รับมา

พอเข้ามาบริหารงานที่เมโกะ คลินิก พิม บอกว่า “แม้ไซส์บิสซิเนสจะเล็กกว่าที่เคยทำ แต่ขอบเขตความรับผิดชอบมากขึ้น ทำงานหนักขึ้น ได้เห็นภาพการบริหารงานที่กว้างขึ้น พิมเข้ามาเสริมทัพเรื่องการตลาด การขยายสาขา การดูแลภาพลักษณ์ และระบบการบริหารจัดการ รวมถึงเพิ่มบุคลากรเฉพาะทางมากขึ้น  เพื่อให้เมโกะเป็นศูนย์ความงามอินเตอร์เนชั่นแนล ไฮเอนด์ รองรับกลุ่มลูกค้าทุกวัย” นอกจากนี้ พิม ยังทำหน้าที่อัพเดตบิวตี้ เทรนด์ นำนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ และพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ดูแลคุณภาพการรักษาและให้บริการแบบ customize มากขึ้น พิม บอกด้วยว่า หัวใจของบริษัท คือ พนักงาน เพราะฉะนั้นต้องดูแลและให้ความสำคัญกับพนักงานมากที่สุดเช่นกัน

นอกจากจะได้รับโอกาสที่ดีแล้ว พิม ยังยึดหลักปรัชญาการทำงานที่ว่า  “ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความฉลาดหรือพรสวรรค์  แต่ขึ้นอยู่กับความวิริยะ อุตสาหะเป็นสำคัญ”.

...