ยังคงเป็นที่ประทับใจคอภาพยนต์ฮอลลีวูด สำหรับนักแสดงหนุ่ม เอเดียน โบรดี ซึ่งเคยได้รับรางวัลในเวทีออสการ์ สาขาดารานำชายจากภาพยนต์เรื่อง The Pianist เมื่อปี 2002 มาแล้ว 

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกกับการมาเมืองไทย แต่ครั้งนี้ก็นับว่าเป็นครั้งสำคัญที่นักแสดงหนุ่มคนนี้ได้มาประเทศไทย เพราะนอกจากจะมาเป็นเกสต์ให้กับการเปิดตัวสยามเซ็นเตอร์แล้ว ทีมงานไทยรัฐออนไลน์ยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย


Q :ก่อนหน้านี้ที่มาเมืองไทยคุณมาเที่ยวที่ไหนบ้าง ?

Adrien : ผมไปเที่ยวเกาะสมุย และกรุงเทพมหานคร และหลังจากเสร็จงานนี้ผมยังวางแผนจะไปเที่ยวที่เชียงรายและเชียงใหม่ ผมอยากมาเที่ยวไทยตั้งหลายปีแล้ว แต่ผมมีเวลาว่างไม่มากในช่วงสิ้นปี และผมก็อยากไปกัมพูชาด้วย ผมเลยไปเที่ยวกัมพูชากับเวียดนาม และเที่ยวคนเดียวในประเทศรอบๆประเทศไทยราว 2 สัปดาห์

Q : ได้ยินมาว่าคุณเคยเรียนการแสดงตอนเด็กๆ คุณรักการแสดงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว?

Adrein : ใช่ครับ ผมคิดว่าเด็กเป็นนักแสดงโดยธรรมชาติ ตอนเด็กเล่นกันเขาไม่ถูกขัดขวางโดยความกดดันที่เกิดจากสังคม ครอบครัว วัยเด็กจึงเป็นช่วงที่ดีมากๆ สำหรับเรียนรู้มโนคติของการแสดง รู้จักแยกความเป็นตัวเองออกจากตัวละคร เพราะเด็กมีจินตนาการสูงส่ง เปรียบเทียบง่ายๆ สมมติตอนนี้คุณเป็นสุนัข เด็กจะหมอบคลานกับพื้นแล้วเห่า โดยจินตนาการว่านี่คือสุนัข แต่สำหรับผู้ใหญ่เราจะต่อต้านคิดว่าการเล่นเป็นสุนัขแบบนี้เป็นเรื่องที่บ้าๆ บอๆ คิดว่าทำไม่ได้หรอก คิดว่าทำไมเราต้องเล่นเป็นสุนัขด้วย นี่เป็นปัญหาซึ่งเราเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ฉะนั้นการเรียนรู้การแสดงตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เราเข้าใจว่าทำอย่างไรจึงสามารถปล่อยให้มันเป็นไป

...


Q :  ถ้าคุณไม่ได้เป็นนักดนตรี คุณจะทำอะไร

Adrien : ผมไม่รู้คำตอบจริงๆ นะ แต่ผมชอบดนตรี อย่างโปรดิวเซอร์ มันมีการแข่งขันสูง และเป็นอาชีพที่ยาก

Q : คุณชอบดนตรีแนวไหน

Adrien : คงเป็นแนวร่วมสมัยนะ ผมเคยทำดนตรีฮิปฮอปเหมือนกัน แต่อย่าบอกว่าผมเป็นคนทำดนตรีฮิปฮอปนะ มันเป็นเพราะผมโตในนิวยอร์ก ผมจึงได้รับอิทธิพลเพลงฮิปฮอปมาก แต่มันมีทฤษฎีมากกว่าไม่จำกัดแค่แนวนี้แนวเดียว


Q : การได้รางวัลออสการ์ (แสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Pianist) เมื่อปี 2002 ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดหรือยัง?

Adrien : ตอบยาก แต่ผมรู้สึกโชคดีที่ได้รับรางวัลตั้งแต่อายุยังน้อย (29 ปี) และรู้สึกดีใจที่รางวัลนี้ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในระดับโลก

Q : ในภาพยนตร์เรื่อง The Pianist คุณเล่นดนตรีคลาสสิกและต้องเล่นเปียโนด้วย ในชีวิตจริงคุณเล่นเปียโนได้รึเปล่า?

Adrien : ได้ครับ สิ่งสำคัญในการเป็นนักแสดงคือ การแสดงเป็นตัวละครที่ไม่ใช่ตัวเอง เพราะฉะนั้นตัวละครที่เห็นในหนังคือผมแต่ไม่ใช่ผม


Q : ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของคุณที่เราจะได้ดูกันในอนาคตคือเรื่องอะไร?

Adrien : ผมเพิ่งเสร็จสิ้นงานในภาพยนตร์เรื่อง “The Third Person” ของผู้กำกับ พอล แฮกกิส ซึ่งเคยมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่อง “Crash (2004)” งานล่าสุดของผมได้ เลียม นีสัน เป็นนักแสดงนำ รวมถึงโอลิเวีย ไวลด์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับรักซับซ้อน และตัวละครที่พยายามจะหาทางออกของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ของผู้กำกับ เฟิ่ง เสี่ยวกัง (Feng Xiaogang) เรื่อง “Back to 1942” จะฉายในปีนี้ เป็นภาพยนตร์จีน ซึ่งผมเป็นนักแสดงฮอลลีวูดคนเดียวในเรื่อง

...


Q : ในสายตาคนนอก หลายคนมองว่าฮอลลีวูดมีแต่ความสวยงาม แต่จากที่คุณอยู่ในวงการมานาน คุณมองเห็นจุดด้อยอะไรบ้าง

Adrien : ในฮอลลีวูด มีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ได้อยู่ในที่ที่สวยงาม แต่เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องของการทำงานหนัก สิ่งที่สวยงามเกี่ยวกับฮอลลีวูดคือความคิดสร้างสรรค์ เหมือนมีเวทมนตร์ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่ได้อยู่ตรงจุดนั้น และอีกมากที่ทำงานหนักเพื่อให้ทุกอย่างออกมา

Q : คุณมีแผนจะทำอะไรในอนาคตตอนคุณมีอายุสัก 60 ปี ?

Adrien : ผมยังไม่รู้เลยว่าสัปดาห์หน้าผมจะทำอะไร (หัวเราะ) ผมก็คงจะอยู่ในวงการบันเทิง และหวังว่าจะได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจ ผมรักการแสดงและจะยังคงรักต่อไป

...