เจมส์ แกลอรี่ เป็นธุรกิจด้านอัญมณีของ เสี่ยนิกร หงษ์ศรีสุข  ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ และซื้อติดมือกลับบ้านมากที่สุด ทุกวันนี้ถึงคิวของผู้บริหารเจเนอเรชั่นที่สอง ได้ทยอยกันเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจแบ่งเบาภาระของบิดาบ้างแล้ว โดยล่าสุดลูกชายคนที่ 3 “น๊อต–ณัฐพล  หงษ์ศรีสุข”  เป็นอีก หนึ่งขุนพลที่เข้ามาบริหารอาณาจักรอัญมณีแห่งนี้

น๊อต ได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาทางด้านเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านบริหารจากแอสตัน ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศอังกฤษ มาใช้ในการทำธุรกิจ โดยได้รับมอบหมายจากบุพการีให้ดูแลด้านการตลาด  “คุณพ่อจะเป็นคนแบ่งงานให้ลูกๆทั้งหมด 4 คน  ตามบุคลิกลักษณะและความชอบของแต่ละคนว่า ใครน่าจะเหมาะไปดูแลส่วนไหน อย่างพี่สาวสองคนก็ดูด้านการจัดการและบัญชี ส่วนน๊อตและน้องชายโฟกัสไปที่ลูกค้า เพราะคุณพ่อมองว่า ลูกค้าคือส่วนสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ”

น๊อต อธิบายให้เห็นถึงภาพงานด้านการตลาดที่รับผิดชอบว่า เป็นงานที่ต้องประสานกับบริษัททัวร์อย่างใกล้ชิด มีอุปสรรคปัญหาอะไร ก็ ต้องรีบนำมาแก้ไขปรับปรุง  เพื่อให้ลูกค้าชาวต่างชาติที่ชื่นชอบในเรื่องของอัญมณีมีเวลา เข้ามาเลือกซื้ออัญมณีและได้รับการต้อนรับอย่างดีที่สุดจากร้านที่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 สาขาทั่วประเทศ คือ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ แม้จะเป็นมือใหม่ที่เข้ามาช่วยคุณพ่อดูแลธุรกิจ  แต่  น๊อต  ก็ยอม รับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถ  เพราะคุณพ่อไม่ได้กดดันหรือให้ไปเรียนรู้งานเอาเอง “คุณพ่อจะคอยไกด์เรื่อง งานให้ตลอดว่าต้องทำอย่างไร  ทุกวันนี้ถ้าเป็นหลักสูตรก็ถือว่ายังเรียนไม่จบเลย ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ”

นอกเหนือจากงานที่ได้รับมอบหมายจากบิดาแล้ว คนรุ่นใหม่ อย่าง น๊อต ไม่ยอมอยู่เฉย พยายามต่อยอดธุรกิจให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ด้วยการทำเว็บไซต์ของ “เจมส์ แกลอรี่” ขึ้นมา เพื่อให้คนทั่วทั้งโลกรู้จักเจมส์ แกลอรี่ มากขึ้น

สำหรับธุรกิจอัญมณีของเจมส์ แกลอรี่ น๊อต บอกว่าจริงๆแล้วเป็นธุรกิจที่เหนื่อยไม่น้อยทีเดียว เพราะเป็นธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยว เป็นอะไรที่ไม่นิ่ง ช่วงไหนบ้านเมืองมีปัญหา นักท่องเที่ยวก็จะน้อย อีกทั้งลักษณะการท่องเที่ยวของบ้านเรา พอโตสักพักก็ชะงัก “มีการคุยกันกับคุณพ่อเหมือนกันว่า  เราอาจจะหันมาทำตลาดในประเทศ บ้าง  แต่ก็ต้องรอดูไปก่อน ถึงแม้ตลาดท่องเที่ยวจะแย่ๆ แต่ธุรกิจของเราก็ยังพอไปได้”

และสิ่งที่ทำให้ เจมส์ แกลอรี่ สามารถยืนหยัดมาได้เป็นเวลากว่า 25 ปี น๊อต บอกเคล็ดลับว่า เป็นเพราะเรื่องของคุณภาพและบริการ ที่ไม่เคยมีปัญหาให้ลูกค้าหงุดหงิดใจเลย และก้าวต่อไปที่ น๊อต และพี่ๆน้องๆจะร่วมกันทำคือ การสร้างแบรนด์ “เจมส์ แกลอรี่” ให้เป็นอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์...และฝันนี้คงไม่นานเกินรอ  เพราะพลังคนรุ่นใหม่ของครอบครัว  “หงษ์ศรีสุข” ต่างเข้มแข็งและมุ่งมั่นกันทั้งน้าน!

...