วงการแพทย์ต้องตื่นตาตื่นใจกันอีกครั้ง หลังจากเปิดตัวเทคนิคการดูดไขมันจากเรือนร่างแบบใหม่ ที่นอกจากจะลดสัดส่วนเกินแสนรำคาญตาได้แล้ว ยังช่วยยกกระชับผิวให้เรียบเนียนน่ามองอีกต่างหาก
หากเอ่ยถึงวิธีกำจัดไขมันที่เห็นผลทันที คงหนีไม่พ้นการ 'ดูดไขมัน' เพราะเห็นได้ชัดๆ เลยว่าไขมันได้ถูกเอาออกมาจากร่างกาย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเหมือนสมัยนี้ กระบวนการดูดไขมันในอดีตจึงดูค่อนข้างยุ่งยาก พักฟื้นนาน มีผลข้างเคียงสูง แม้จะมีการพัฒนามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ดูดด้วยท่อขนาดใหญ่ๆ จนมาเป็นท่อเล็กๆ เท่าหัวปากกา และเครื่องมือเพิ่มมากขึ้น อาทิ พลังงานเลเซอร์ (Laser lipo) และพลังงานอัลตราซาวนด์ (Vaser) ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน ทำให้แผลเปิดมีขนาดเล็ก และผลข้างเคียงน้อยลง อีกทั้งระยะพักฟื้นน้อยลง แต่ก็ยังมีปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก นั่นคือ เมื่อไขมันถูกดูดออกไปแล้ว ผิวหนังจะห้อย เหี่ยวย่น หรือเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ เรียกว่าแม้จะผอมลง แต่ก็ยังอวดสัดส่วนไม่ได้อยู่ดี Laser Lipo อาจมีส่วนช่วยให้ผิวเรียบได้บ้างแต่ก็ไม่มาก ส่วน Vaser นั้นไม่ต้องพูดถึงไม่สามารถช่วยให้ผิวกระชับได้เลย และด้วยความรุนแรงของพลังงานยังอาจก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อผิวด้านใต้ ทำให้ผิวเป็นก้อนแข็งไม่เรียบ และเป็นร่อง ทำให้หลังดูดไขมันแล้วยังต้องมีการทำทรีตเมนต์อื่นเพิ่มอีก เช่น เทอร์มาจ เพื่อฟื้นฟูคอลลาเจน ให้กระชับตึงสามารถยึดจับเซลล์ไขมันได้ดีขึ้น จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเพื่อให้เรือนร่างสวยสะดุดค่อนข้างสูงมากทีเดียว
ปฏิวัติการดูดไขมัน. สลายไขมันไปพร้อมๆ กับการกระชับผิวให้เรียบตึง
...
เพื่อแก้ปัญหามากมายที่กล่าวมาข้างต้น จึงเกิดเทคโนโลยีล่าสุดชื่อว่า Body Tite หรือ RF assisted liposuction (RFAL) ซึ่งเป็นการปฏิวัติการดูดไขมันครั้งสำคัญที่สร้างความฮือฮาให้กับแพทย์ทั้งในแวดวงศัลยกรรมตกแต่ง และศัลยกรรมผิวหนัง
เพราะไม่เพียงแต่ดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวที่ไขมันถูกดูดออกไปแล้วกลับมาเรียบ กระชับตึงขึ้นด้วย ซึ่งต้องบอกว่านั่นเป็นความฝันของหมอที่ดูดไขมันทุกคน โดยการทำงานของ Body Tite ใช้พลังงาน RF แบบเดียวกับเทอร์มาจที่เราใช้ในการยกกระชับหน้า พลังงาน RF ไม่เพียงแต่ลงไปสลายผนังเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน แต่ยังลงไปเปลี่ยนโครงสร้างและปัจจัยทางชีวเคมีในบริเวณนั้น เปลี่ยนโครงสร้างการไหลเวียนของน้ำเหลือง ทำให้ขณะที่กำลังสลายไขมันก็จะได้ผลเป็นการกระชับผิวหนังไปพร้อมๆ กัน รวมถึงขจัด Cellulite ไปด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือเดียวในการดูดไขมัน เพื่อฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น ทำให้โอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมใหม่ยากกว่าการดูดไขมันแบบเดิม
นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้มันโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากไปทั่วโลก และเปลี่ยนความรู้สึกเดิมๆ ของการดูดไขมันไปอย่างสิ้นเชิง เพราะลดเวลาการพักฟื้น เจ็บน้อย ใช้เวลาในการทำเพียง 1 ชั่วโมง เท่านั้นนอกจากนั้นยังสามารถปรับความลึกตื้นและรักษาระนาบในการสลายไขมันได้หลายระดับแล้วแต่ความหนาของชั้นไขมันและ Cellulite ในแต่ละบุคคล ทำให้แพทย์สามารถคาดเดาผลที่จะเกิดดีขึ้นกว่าการดูดไขมันแบบเดิมๆ มาก ยิ่งถ้าได้แพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญเข้าใจโครงสร้างของชั้นผิวหนังเป็นอย่างดี จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้นอีก
BodyTite สามารถจัดการกับปัญหาไขมันได้ทุกส่วน แต่จะเหมาะอย่างยิ่งกับบริเวณที่เมื่อไขมันจากไปแล้วเกิดอาการห้อยย้อยของผิว เช่น บริเวณหน้าท้อง บริเวณใต้ท้องแขน คาง ขาใน ซึ่งในอดีตไม่มีวิธีกำจัดไขมันและทำให้ผิวกลับมากระชับได้ในครั้งเดียว นอกจากนั้น เทคโนโลยีเดียวกันนี้ยังสามารถปรับใช้ในการดูดไขมันในบริเวณเล็กๆ เช่น คาง แก้ม เพื่อปรับรูปหน้าให้หน้าเรียว กระชับ ได้รูป ได้อีกด้วย จึงนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่สร้างความมหัศจรรย์ และพลิกโฉมวงการแพทย์อีกครั้ง ทำให้คนที่มีไขมันส่วนเกินทุกส่วนมีทางออกดีๆให้กับชีวิต และสุขภาพอย่างไม่ยากเย็น
ภาพ/ข้อมูล : Apex Profound Beauty