ในอากาศร้อน แผดเผา ได้ระอุขนาดนี้ จะมีอะไรคลายร้อนเกินไปกว่า เครื่องดื่มเย็นๆ รสชาติหอมหวานถูกใจ ใครที่ปรุงรสได้ฉ่ำชื่นอย่างนี้...

โดยเฉพาะ ชาขาว  มหัศจรรย์แห่งยอดชา นอกจากจะรสละมุนแล้ว ชาขาวถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยขับไล่ความอ่อนล้า และเรียกคืนความสดชื่นกระชุ่มกระชวยของร่างกายให้กลับมา แถมยังมีงานวิจัยจากทั้ง USA  และ UK ยืนยันมาว่า ชาขาวที่หอมสดชื่นนี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระล้ำหน้าชาเขียวหรือชาอื่นๆ แถมยังลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง เลยไปถึง ชาขาว ยังมีส่วนช่วยลดริ้วรอยและช่วยฟื้นฟูสุขภาพของผิวให้ขาวแจ่มสม่ำเสมอ ฉะนั้นมูลค่าของชาขาว ยอดสุดในสภาพตูมนี้ สูงกว่าชาชนิดใดๆ เลยทีเดียว

หากพูดถึง “รสชาติ” ในปัจจุบัน อาจจะไม่ได้เป็นแค่เรื่องก้นครัวอีกต่อไป เพราะอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต่างเติบโตอย่างก้าวกระโดด และแข่งขันกันออกสินค้าตัวใหม่มาให้ผู้บริโภคอย่างเราสนุกสนานกับการลิ้มลองอยู่ตลอดเวลา “รสชาติ” จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิถีพิถันในทุกขั้นของการผลิต ตั้งแต่การคิด การวิจัย การปรุง และการตลาด ซึ่งถือเป็นความลงตัวของวิทยาศาสตร์ที่เข้ามาต่อยอดศิลปะของรสชาติให้โดดเด่นโดนใจใครหลายๆ คน

แต่ผู้ที่จะมาผสมผสานทั้งสองศาสตร์ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวนี่สิ เป็นคนที่ใครๆ หลายคนแอบถามหา วันนี้คว้าตัว “นักวิทย์หัวใจศิลป์” คนเก่งที่หลากหลายอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มรุมชิงตัวกันจ้าละหวั่น มานั่งจับเข่าคุยกันเสียหน่อย คนเก่งที่ว่านี้ก็คือ ดร.เรียม เตชะโสภณมณี นักวิชาการ ผู้ปรุงรส และควบคุมผลิตภัณฑ์ชาขาวชื่อดังของเมืองไทย

ความเก่งที่ว่านี้ ดร.เรียม การันตีด้วยปริญญาเอก Medical Science จากมหาวิทยาลัยมหิดล และการทำงานในแล็บวิจัยด้านการแพทย์ประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 14 ปี ชื่อของ ดร.เรียม เตชะโสภณมณี เป็นที่รู้จักดีในวงการนักวิชาการอุตสาหกรรมอาหาร ในฐานะนักวิจัย Industrial Liaison หรืออุตสาหกรรมสัมพันธ์มือฉมัง จนผู้บริหารหลายคนให้ฉายาว่า “Magic Touch” คือจับอะไร ปรุงอะไร ตัวไหน ก็เพอร์เฟกต์ ขายดีไปหมด

จุดเปลี่ยนสำคัญจากการทำงานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ สู่บทบาทนักวิจัยอาหารชื่อดัง ดร.เรียมเล่าให้ฟังถึงการชักชวนของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้เธอกลับมาเมืองไทยเพื่อเป็นอาจารย์ด้านเทคโนโลยีไบโอชีวภาพที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ด้วยความชำนาญและความสนใจเรื่องการทำอาหาร

...

ระหว่างนี้อาจารย์เรียมจึงศึกษาเพิ่มเติมด้านศาสตร์วิจัยเรื่องการปรุงรสชาติ ตลอดจนเรื่องกลิ่นแบบลึกซึ้ง ลึกถึงขั้นการมวลองค์ประกอบของสารต่างๆ ที่จะทำให้เกิดรสชาติและกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นด้าน Flavor Technology จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หรือ Fermentation Technology ประเทศเยอรมนี และด้วยความรู้อย่างลึกซึ้งในศาสตร์เรื่อง “รส” จึงเป็นมนต์เสน่ห์สำคัญของการเป็นนักวิชาการ นักวิจัยด้านอาหารและเครื่องดื่มที่โครงการเอกชนจำนวนมากต่างถามหา   

“หน้าที่ของดิฉันเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะ สร้างความสอดคล้อง เกี่ยวโยง ผสมผสานความรู้และประสบการณ์ ที่สำคัญคือ จินตนาการ มาแปรรูปโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์จนเป็นเทคโนโลยีการผลิตสินค้า” เป็นถ้อยคำประณีตที่ ดร.เรียม เตชะโสภณมณี จำกัดความหน้าที่ของเธอให้เข้าใจเห็นภาพมากขึ้น          

และความเป็นนักวิทย์หัวใจศิลป์ของ ดร.เรียม นี่เอง ที่ทำให้เธอไม่ใช่ด็อกเตอร์ที่ขลุกอยู่แต่ในห้องทดลอง เพราะคุณค่าในชีวิตอย่างหนึ่งของ ดร.เรียม ก็คือการที่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วมุมโลก เพื่อแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ เติมจิตวิญญาณให้เต็มอยู่เสมอ เธอแอบกระซิบให้ฟังว่า การท่องเที่ยวครั้งหนึ่งของเธอนั้นได้เป็นจุดเริ่มต้นของชาขาวเก๊กฮวยชื่อดังของเมืองไทยด้วย

“เรื่องการสร้างอีโมชั่นนี่สำคัญ ด้วยความที่เรามีความรู้ทางด้านเซลล์อยู่ เรารู้ว่าทุกอณูของวัสดุแต่ละอย่างจะมีรสชาติที่ส่งผลต่ออารมณ์ของคนกิน การออกแบบรสชาติผลิตภัณฑ์ก็ต้องคำนวณในเรื่องนี้ มันเป็นศาสตร์และศิลป์ที่น่าหลงใหลมากๆ คุณไม่ใช่แค่รู้ว่า นี่เป็นเครื่องปรุงไว้ทำแบบนี้นะ วัสดุนี้ต้องทำตามตำราแบบนี้นะ แต่คุณจะต้องเข้าใจในรสชาติที่แอบซ่อนอยู่ ตรงนี้มันเป็นศิลปะที่ถ่ายทอดกันยาก ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะตีความหมายอย่างไร” ดร.เรียมกล่าวถึงเคล็ดลับในอาชีพของเธอ

แน่นอนว่าศาสตร์คนละขั้วที่ต้องอาศัยสมองทั่งสองฝั่งอย่างวิทยาศาสตร์และศิลปะจะมาบรรจบพบกันได้อย่างลงตัวเช่นนี้ จะต้องอาศัยความทุ่มเทอย่างมหาศาลและไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่นักวิทย์หัวใจศิลป์อย่าง ดร.เรียม เตชะโสภณมณี ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เธอสามารถปรุงรสชาติความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้จริง

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากลองสัมผัสรสชาติคุณภาพอันแสนจะลงตัว ในวันที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ ลองยกขวดเครื่องดื่ม “เพียวริคุ” ขึ้นดื่มสักขวดดูจะรู้ว่าสดชื่นจริงๆ..