โลกเราทุกวันนี้ เต็มไปด้วยสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เราดื่ม อากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรารับประทาน และยังข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รอบๆ ตัวเรา ล้วนปะปนไปด้วยสารพิษ ตลอดจนความเครียด...เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยต่างๆ ที่คนในอดีตไม่เป็นกัน และทำให้ความแก่ หรือความชรา (Aging) มาเยือนเร็วขึ้น


ความชรา คืออะไร...เรามาทำความรู้จักกับมัน เพื่อจะได้ยับยั้งและชะลอมันออกไป

ความชรา หมายถึง การสั่งสมความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบชีววิทยาตามกาลเวลา ที่นำไปสู่การตายของเซลล์ และความล้มเหลวของการทำงานของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามวัยที่สูงขึ้น ร่วมกับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมและวิถีการดำรงชีวิตหรือโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดและเพิ่มความเสื่อมกับร่างกายมากยิ่งขึ้น

ตามธรรมชาติแล้ว ยังไงร่างกายของเรา เมื่ออายุมากขึ้น ก็ต้องมีความเสื่อมของเซลล์เกิดมากขึ้นเป็นธรรมดา แต่ทำไมคนบางคนอายุเท่ากัน แต่ดูอายุห่างกันเป็นสิบปี ทำไมคนบางคนแม้อายุที่เพิ่มขึ้นแต่กลับดูไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงดูดี อ่อนกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันมากมาย คำตอบก็อยู่ที่ เซลล์ นั่นเอง

ด้วยศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เราสามารถที่จะหยุดยั้งการเสื่อมของเซลล์ และช่วยฟื้นฟูให้เซลล์กลับมามีชีวิตใหม่ หรือเพิ่มจำนวนเซลล์เกิดใหม่ในร่างกายให้มีมากขึ้น เราเรียกวิธีการนี้ว่า...เซลล์บำบัด หรือ Cell Therapy ค่ะ เมื่อเซลล์ใหม่มีมากขึ้น เซลล์เสื่อมสภาพมีน้อยลง เซลล์ที่มีอยู่กลับมามีชีวิตที่แข็งแรงขึ้น สิ่งที่สะท้อนออกมาภายนอกจึงเป็นความสดใส เปล่งปลั่ง แข็งแรง

...


เมื่อพูดถึงความงาม ความเปล่งปลั่งของผิวพรรณ...ในสมัยที่อายุน้อยๆ แม้ไม่ทำอะไรเลยผิวก็ดูดี เพราะมีการเกิดใหม่ของเซลล์มาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพไปตลอดเวลา พออายุมากขึ้นการผลัดเซลล์ผิว หรือการทำเลเซอร์ ก็ช่วยกำจัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้ออกไปจากเรา เพื่อกระตุ้นให้เกิดจากเซลล์ใหม่ๆ มาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสลายไป แต่เมื่ออายุมากขึ้นเข้าเลข 4 การสร้างเซลล์ใหม่ไม่เหมือนเมื่ออายุยังน้อย มีการสร้างเซลล์ใหม่น้อยลง ขณะที่มีเซลล์เสื่อมสภาพมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม เมื่ออายุมากขึ้น การทำแต่เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ต่างๆ จึงไม่ได้ผลดีเหมือนเมื่อตอนอายุน้อยๆ...เพราะเซลล์ใหม่เกิดขึ้นน้อยลงนั่นเอง 

ด้วยเหตุนี้ วิทยาการในปัจจุบันจึงไม่เพียงให้การดูแลรักษาเฉพาะภายนอก แต่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปดูแลรักษากันถึงในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตทั้งหมด เพื่อให้ผลการรักษายั่งยืน และปรากฏผลออกมาจากภายในอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น ในการทำเลเซอร์ หรือการยกกระชับ ถ้าต้องการให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้น การแพทย์แนวใหม่จึงต้องทำการรักษาด้วยเซลล์บำบัดควบคู่กันไปด้วย

เซลล์บำบัดคืออะไร

แนวคิดของการทำเซลล์บำบัดก็คือ การฟื้นฟูเซลล์ให้กลับมาแข็งแรง มีคุณภาพดีอีกครั้ง ประกอบด้วยการขับของเสีย หรือขับสารพิษออกจากเซลล์ การเติมสารอาหารที่เซลล์ต้องการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซลล์ จนถึงการซ่อมเซลล์ เพิ่มเซลล์ใหม่ๆ

Detoxification...ทำความสะอาด ขับของเสียออกจากเซลล์ 

การทำดีท็อกซ์มีมากมาย หลายอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง ลำไส้ ตับ ไต เลือด หรือแม้แต่สมอง ซึ่งแต่ละอวัยวะก็มีวิธีการทำไม่เหมือนกัน ให้ผลในการฟื้นฟูที่แตกต่างกัน เช่น ต้องการเรื่องผิวพรรณ ก็ detox ผิวหนัง ขับสารพิษ ถ้าอยากเอาของเสียออกทั้งหมด ก็ต้องดีท็อกซ์หลายอวัยวะ


เมื่อขับของเสียออกแล้ว ถ้าต้องการให้เซลล์ทำงานได้เต็มที่ ก็ต้องใส่สารอาหารเข้าไปให้กับเซลล์ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่เซลล์นั้นๆ ต้องการ เพื่อนำไปใช้ในการเสริมสร้างเซลล์ เช่น ถ้าเป็นด้านความงาม ก็ต้องใส่สารที่เสริมในเรื่องการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ได้ผิวที่เปล่งปลั่ง สดใส 

มากไปกว่านั้น ในปัจจุบันการฟื้นฟูระดับเซลล์ยังได้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก ในหลายๆประเทศ เช่น ในประเทศเยอรมัน มีการใช้เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) จากทั้งพืช และสัตว์ เพื่อฟื้นฟู และบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ จนถึงเรื่องผิวพรรณ ในสหรัฐอเมริกา ก็มีความนิยมใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากไขมันในตัวเอง เพื่อฟื้นฟูเชลล์อื่นๆ ในร่างกาย อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีในเรื่องการรักษาด้วยเซลล์นี้ ยังเป็นเรื่องใหม่ และยังไม่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยา ดังนั้นก่อนเลือกรักษาด้วยวิธีการนี้ ก็ควรจะต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ ในครั้งหน้าเราจะมาเจาะลึกกันถึงการฟื้นฟูเซลล์ด้วยไขมันของตัวเอง

ข้อมูล/ภาพ : Apex profound beauty

...