ความเชื่อเรื่องพลังของอัญมณีเริ่มต้นขึ้นหลายศตวรรษ และส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน เพราะกว่าจะถูกเจียระไนแปรรูปให้สวยงามได้ ต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนจากธรรมชาตินับร้อยนับพันปี จึงทำให้อัญมณีดูดซับพลังงานเร้นลับจากธรรมชาติเอาไว้ เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับ จึงไม่ได้มอบแค่ความสวยงาม แต่ยังส่งพลังด้านบวกแก่ผู้สวมใส่อีกด้วย
"Moon Tree" แบรนด์เครื่องประดับน้องใหม่ที่นำความลับจากพลังของอัญมณีและสัญลักษณ์ต่างๆ มาดีไซน์ใหม่เป็นเครื่องประดับที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ เพราะเป็นงานฝีมือทุกชิ้น พร้อมส่งต่อพลังจากอัญมณีประจำเดือนเกิดให้แก่ผู้สวมใส่ได้เสริมพลังด้านบวกในการใช้ชีวิต
...
สองพี่น้อง กุณฑลี เวร่า โรเจอร์ และ ปาจรีย์ โซฟี่ โรเจอร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Moon Tree นำแรงบันดาลใจจากเจอรัลด์ วินเซนต์ โรเจอร์ ผู้เป็นพ่อที่มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญในการเสาะหาและเล่าเรื่องราวเร้นลับจากอัญมณีและพลอยหายากจากทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ที่เรียนรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่วัยเยาว์ของสองสาว จึงนำมาก่อตั้งเป็นแบรนด์ของตัวเองในวันนี้
“ความจริงโซฟี่มีแบรนด์เครื่องประดับของตัวเองอยู่แล้วชื่อ Pacharee แต่ก็อยากจะเปิดแบรนด์ทำร่วมกับน้องสาวคือเวร่าด้วย เนื่องจากเราเติบโตมาในวงการเครื่องประดับตั้งแต่เด็ก คุณพ่อของเราซึ่งเป็น Gemstone Genius ในวงการอัญมณี ทำให้พวกเราเติบโตมากับสิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เราจดจำมาตั้งแต่เด็ก เราจึงนำสตอรี่เหล่านี้มาทำงานร่วมกับช่างเจียระไนพลอยของครอบครัวมาเปิดเป็นแบรนด์ Moon Tree หมายถึงต้นไม้บนดวงจันทร์ที่ไม่มีอยู่จริง เป็นการสะท้อนถึงแบรนด์ที่ดึงความลึกลับของอัญมณีออกมา ซึ่งเรามีทั้งมุก พลอย และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เราทำการวิจัยมาค่อนข้างละเอียดว่าแต่ละอันมีความหมายอย่างไร” ปาจรีย์ โซฟี่ โรเจอร์ บอกกับไทยรัฐออนไลน์
ด้านกุณฑลี เวร่า โรเจอร์ กล่าวเสริมว่า “เราค่อนข้างเน้นการสร้างเครื่องประดับที่มีความหมายลึกซึ้งให้กับผู้สวมใส่รู้สึกได้ถึงพลังของมัน แต่เราไม่ได้เป็นเครื่องประดับแนวโชคลาภเสริมดวง แต่เป็นเครื่องประดับที่ให้ความหมายด้านพลังในการสวมใส่ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีมานานแล้ว เรื่องพลังของเพชรพลอยและสัญลักษณ์ต่างๆ เราไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องไสยศาสตร์ แต่เป็นพลังของพลอยที่มีตามธรรมชาติ ที่เมื่อใส่แล้วรู้สึกดี แต่ไม่ใช่ว่าใส่แล้วรู้สึกถึงปาฏิหาริย์ เป็นความรู้สึกดีที่ได้สวมใส่ เป็นพลังในด้านบวก”
ด้วยพลังของอัญมณีและงานดีไซน์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แล้วยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปในแต่ละชิ้น เนื่องจากเป็นงานฝีมือที่ทำขึ้นใหม่ด้วยมือทุกชิ้น จึงทำให้ Moon Tree เป็นที่สนใจจากเหล่าดาราคนดังในไทยมากมาย รวมถึง เบลล่า ฮาดิด นางแบบชื่อดังจากฮอลลีวูด ยังนำไปสวมใส่อยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้ Moon Tree เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนดังผ่านการบอกปากต่อปากภายในเวลาเพียง 2-3 เดือน หลังจากเปิดตัวแบรนด์
...
นอกจากนี้ เครื่องประดับของ Moon Tree ยังถูกออกแบบมาโดยไม่ได้จำกัดเพศและวัย จึงมีความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยดีไซน์ที่แฝงไปด้วยความสนุกและจินตนาการ จึงทำให้เปิดกว้างแก่ผู้สวมใส่ได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีการนำพลอยประจำเดือนเกิด รวมทั้งสัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีพลังและความหมายแตกต่างกันไปมาใช้ จึงทำให้ช่วยเสริมพลังงานด้านบวกแก่ผู้สวมใส่ได้อีกด้วย
“รุ่น Charms จะเป็นรุ่นที่น่าสนใจมากสำหรับเรา เพราะไม่ได้มีแค่พลอย แต่เราจะรวมสัญลักษณ์ต่างๆ ลงไปด้วย เช่น ดาวหกแฉกที่นำโชคดีมาให้ มีพลอยสีม่วง พลอยสีเขียว และพลอยสีแดง พลอยพวกนี้จะนำพลังที่แตกต่างกันไป อย่างพลอยเขียวจะให้พลังด้านความคิดที่กระจ่าง พลอยสีม่วงจะให้พลังด้านความรอบคอบ พลอยสีแดงให้พลังด้านความมั่งคั่ง เมื่อนำมาใส่ร่วมกันก็จะช่วยส่งเสริมกัน และทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกดี เป็นเครื่องประดับที่มีความหมายในเชิงบวก แล้วสัญลักษณ์นี้หมายถึงหอคอย ซึ่งมีความหมายถึงการเป็นแม่ที่แสดงถึงความมั่นคงต่อลูก เป็นสัญลักษณ์ที่เราเอามาใช้ในเรื่องของความสงบสุข ส่วนพลอยสีน้ำเงินจะให้พลังงานด้านความสงบจากภายในเหมือนกัน เราเลยนำทั้งสัญลักษณ์หอคอยและพลอยสีน้ำเงินมาอยู่ด้วยกัน ส่วนอันนี้เป็นสัญลักษณ์คล้ายเลขแปด แต่เรานำมาออกแบบใหม่ให้เป็นอินฟินิตี้ที่หมายถึงตลอดไปไม่สิ้นสุด โดยใช้ร่วมกับพลอยสีแดงและสีม่วง ให้พลังด้านความรักไม่สิ้นสุด ซึ่งการเลือกพลอย เราไม่ได้เลือกแค่ความสวย แต่สีของพลอยก็มีความหมายแตกต่างกันไปด้วย” เวร่า กล่าว
...
ซึ่ง The Moon Tree Charms เป็นคอลเลคชั่นใหม่ที่ออกแบบโดยรวมพลังของพลอยและสัญลักษณ์ต่างๆ ไว้ด้วยกันบนมุกสีขาว ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือรุ่นพลอยประจำเดือนเกิดที่ลูกค้าสามารถสั่งทำได้ตามต้องการ ตั้งแต่การเลือกพลอยที่ชอบ อยากได้จำนวนกี่เม็ด อยากได้จี้รูปแบบไหน ไปจนถึงความยาวของสร้อยที่เลือกได้เอง จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Moon Tree เป็นที่สนใจของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานอายุตั้งแต่ 20 ปลายๆ ไปจนถึง 30 กลางๆ รวมถึงกลุ่มคุณแม่รุ่นใหม่ที่มักสั่งทำเครื่องประดับพลอยประจำเดือนเกิดใส่คู่กับลูกด้วย
...
“อย่างเวร่ามีลูกสองคน ก็จะใส่สร้อยที่มีตัวอักษรย่อของลูก แล้วก็พลอยเดือนเกิดของลูกด้วย ที่ใส่แล้วก็รู้สึกว่ามีเขาอยู่กับเราตลอด เหมือนเป็นตัวแทนของลูก”
เมื่อถามถึงทิศทางตลาดเครื่องประดับในไทย เวร่ามองว่า ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ทำเรื่องสัญลักษณ์และราศีออกมาบ้าง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีมานานแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งมาเป็นกระแสค่อนข้างเยอะ อาจจะเพราะทำต่อๆ กัน แต่ถ้าเป็นในเรื่องของเครื่องประดับที่ให้พลังจากพลอยประจำเดือนเกิดแบบ Moon Tree ยังไม่ค่อยเห็นในตลาดไทยและต่างประเทศมากนัก ความแตกต่างของ Moon Tree คือ เรื่องความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ และที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นแบรนด์เครื่องประดับรายไหนที่นำอัญมณี หรือพลอยมาให้ลูกใส่เหมือนของ Moon Tree
สำหรับราคาเริ่มต้นของ Moon Tree จะอยู่ที่ 4,500 บาท ไปจนถึง 19,000 บาท ส่วนช่องทางจำหน่ายจะเน้นออนไลน์เป็นหลักคือเฟซบุ๊กและไอจีของร้าน รวมถึงขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Pomelo ส่วนช่องทางออฟไลน์จะเป็นการขอใช้พื้นที่ของร้านอื่นเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการนัดเข้ามาสั่งทำเครื่องประดับโดยเฉพาะ เช่น Club 21 และช็อปของแบรนด์ Pacharee ที่เป็นของโซฟี่ผู้เป็นพี่สาวและผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Moon Tree
เป้าหมายในอนาคตอันใกล้ของ Moon Tree คือ การส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศภายในปีนี้ โดยเริ่มต้นที่กลุ่มประเทศฝั่งยุโรปก่อน จากนั้นก็จะมาที่ตลาดเอเชีย อย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจเรื่องพลอยประจำเดือนเกิด ขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งตลาดในประเทศไทยซึ่งถือว่าเป็นตลาดหลัก.