พิสูจน์ชัดๆอายุเป็นเพียงตัวเลข...67 ยังแจ่มแจ๋ว!!

ปิดฉากไปแล้วอย่างสวยงามสำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ซึ่งประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ปีนี้กองทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองกลับบ้านให้ได้ชื่นอกชื่นใจถึง 109 เหรียญ ทำสถิติแชมป์เหรียญทองอันดับสองของมหกรรมซีเกมส์ 2011 นอกจากกีฬาเด่นๆอย่าง กรีฑา, มวยสากลสมัครเล่น, บาสเกตบอล, เทนนิส, ยิมนาสติก, สนุ้กเกอร์, เซปักตะกร้อ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทควันโด, เรือใบ และยูโด ซึ่งทำผลงานได้เข้าเป้า กีฬาน้องใหม่แกะกล่องที่เพิ่งบรรจุเข้ามหกรรมซีเกมส์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เช่น การแข่งขันไพ่บริดจ์ ก็ทำบิ๊กเซอร์ไพรส์ ด้วยการคว้า 2 เหรียญทอง ให้ประเทศไทย พ่วงด้วย 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

งานนี้ต้องยกเครดิตให้นักกีฬาบริดจ์ทีมชาติไทยที่ทำผลงานได้

อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง และเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าก็คือ มหกรรมครั้งนี้ยังเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักกีฬาทีมชาติน้องใหม่ “คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช” ที่ทำสถิติใหม่กลายเป็นนักกีฬาทีมชาติที่อายุมากที่สุด!! แม้ปีนี้คุณหญิงจะอายุ 67 แล้วก็ตาม เลยวัยเกษียณมาตั้งหลายปี แต่สมองยังใสปิ๊ง และความจำเป็นเลิศ การันตีได้จากฝีมือเล่นไพ่บริดจ์ระดับแชมป์เหรียญทองซีเกมส์

...



คนส่วนใหญ่รู้จักคุณหญิงในฐานะนายกสมาคมตาวิเศษ จับพลัดจับผลูยังไงถึงเป็นนักกีฬาบริดจ์ทีมชาติไทย

ดิฉันเริ่มเล่นบริดจ์ตั้งแต่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตอนท้องลูกชายคนแรก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ว่างงาน ช่วงนั้นเลยตัดสินใจว่าอยากเรียนไพ่บริดจ์ เพราะเห็นพี่น้องกับสามีนั่งเล่นบริดจ์ครั้งละเป็น 10 ชั่วโมง ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าสนุกตรงไหน พวกผู้ชายถึงเล่นกันยันเช้า เราเคยแต่เล่นกีฬากลางแจ้ง อย่างเช่น บาสเกตบอล และเทนนิส แต่ไหนๆก็ต้องดูแลสามีกับเพื่อนๆอยู่แล้ว เพราะมาเล่นที่บ้าน เลยอยากเล่นบริดจ์เป็นบ้าง จึงตัดสินใจไปหาครูที่สปอร์ตคลับ ราชกรีฑาสโมสร เพื่อมาสอนเล่นบริดจ์ คือเป็นคนทำอะไรต้องทำจริงๆจังๆ ครูสอนไปได้ 10 คอร์ส ก็ชวนดิฉันไปลงแข่งในสนามจริงเลย ไม่เคยได้เล่นสนุกๆในบ้าน

ติดทีมชาติแข่งขันไพ่บริดจ์ครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่

ก็ตอนอายุ 30 ต้นๆ ลงแข่งในนามทีมชาติไทยมาตลอด แต่กีฬาบริดจ์ยังจำกัดวงแคบๆแข่งขันกันเฉพาะกีฬาประเภทเดียว ไม่เคยมีการบรรจุในมหกรรมกีฬาที่จัดการแข่งขันกีฬาพร้อมกันหลากหลายประเภท สมัยสาวๆดิฉันต้องเดินทางไปแข่งขันบริดจ์ในต่างประเทศปีละประมาณ 3 ครั้ง คือ ระดับอาเซียน, ระดับภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก และระดับโลก โดยการแข่งขันจะแบ่งหลากหลายประเภท มีทั้งทีมหญิง, ทีมชาย, ทีมผสม, ทีมเยาวชน และทีมอาวุโส ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป การแข่งขันแต่ละครั้งจะมีผู้เข้าแข่งขันจากร้อยกว่าประเทศ ดิฉันแข่งในทีมชาติหญิง แข่งอยู่หลายปีกว่าจะได้ดีจริงๆ ในเวทีอาเซียนชนะมาหลายครั้ง แต่ที่ประทับใจที่สุดคือ ตอนได้เข้าชิงระดับเอเชีย-แปซิฟิก ที่ประเทศญี่ปุ่น ตอนหลังมาทำงานการเมืองเป็นสมาชิกวุฒิสภา ทำให้ไม่มีเวลาฝึกซ้อม จึงเลิกเล่นบริดจ์ไป 10 ปี



อะไรทำให้กลับมาเล่นบริดจ์จริงจังอีกครั้ง ทั้งๆที่ร้างลาเวทีไปถึง 10 ปี

เพิ่งกลับมาเล่นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนเกษียณอายุ รู้สึกว่าคิดถึงเพื่อนๆในวงการบริดจ์ และไม่ค่อยยุ่งเหมือนสมัยก่อน แต่คราวนี้ตั้งใจเล่นเพื่อฝึกสมอง และความจำ ไม่เน้นว่าต้องชนะการแข่งขันเหมือนตอนสาวๆ เพราะไม่อยากเครียด ก็ได้รับการชักชวนให้ลงแข่งในฐานะตัวแทนทีมอาวุโส ปรากฏว่าชนะอีก คราวนี้เลยถอนตัวไม่ได้ ก็ตระเวนไปแข่งทุกเวที จนกระทั่งมาถึงมหกรรมซีเกมส์ 2011 ประเทศไทยส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน 3 ประเภท คือ ทีมชาย, ทีมหญิง และทีมผสม โดยดิฉันลงแข่งในประเภททีมผสม คละกันระหว่างชายหญิง โดยไม่จำกัดอายุ เวลาแข่งทีมหนึ่งลงเล่นจริง 4 คน แต่จะเดินทางไป 6 คน เพื่อสลับสับเปลี่ยนกัน เนื่องจากต้องแข่งวันหนึ่ง 8-10 ชม. ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น เพราะฉะนั้นต้องมีสลับพักบ้าง ก็เป็นอะไรที่ทรหดอดทนมาก เพราะต้องแข่งขันกันต่อเนื่อง 3 วัน 3 คืน

เสน่ห์แท้จริงของไพ่บริดจ์อยู่ตรงไหน

ตามมหาวิทยาลัยในอังกฤษและอเมริกานิยมเล่นบริดจ์กันแพร่หลาย เป็นกีฬาที่ท้าทายมาก ต้องใช้สมอง, สมาธิ, ความจำ, การวิเคราะห์ และการพัฒนาตัวเอง นอกจากจะต้องจำไพ่ให้ได้ทั้ง 52 ใบ ยังต้องจำเทคนิคต่างๆในการเล่นให้ขึ้นสมองด้วย ขณะเดียวกัน ก็เป็นกีฬาเพื่อสังคม ทำให้ได้เฮฮาสังสรรค์กัน ในหนึ่งโต๊ะของการเล่นบริดจ์จะมีผู้เล่น 4 คน โดยผู้เล่นที่นั่งฝั่งตรงข้ามกันจะจับคู่เล่นเป็นพาร์ตเนอร์ต้องอ่านใจกันให้ออก

การเล่นไพ่บริดจ์ถือเป็นกีฬาไฮโซไหมคะ

จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เพราะจุดเริ่มต้นเล่นกันเฉพาะในกลุ่มนักเรียนนอก และคนที่เป็นแม่บ้านไม่ต้องทำงาน ดิฉันเป็นนายกสมาคมบริดจ์แห่งประเทศไทยมาหลายสมัย เมื่อปีที่แล้วได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมบริดจ์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง วาระหนึ่ง 2 ปี และรั้งตำแหน่งนายกสมาพันธ์บริดจ์ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก มาต่อเนื่อง 16 ปีแล้ว มีสมาชิก 20 กว่าประเทศ ก็พยายามสนับสนุนการเล่นบริดจ์ให้แพร่หลายมากที่สุด โดยได้เอากีฬาประเภทนี้เข้าไปเผยแพร่ตามมหาวิทยาลัยต่างๆด้วย ในประเทศไทยก็มีสนามให้เล่นทุกวันตามสปอร์ตคลับต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนของภาคีสมาชิกบริดจ์แห่งประเทศไทย เช่น ที่สปอร์ตคลับ ราชกรีฑาสโมสร, บริติช คลับ หรือโปโล คลับ

...



มีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าการเล่นไพ่บริดจ์ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์


เป็นกีฬาที่จะปกป้องไม่ให้คนเป็นอัลไซเมอร์ได้ดีที่สุด เพราะต้องใช้สมองตลอดเวลา ต้องใช้สมาธิและความจำมาก ที่สำคัญ ทำให้มีสังคมใหม่ๆไม่ซึมเศร้า ระยะหลังมานี้เพื่อนๆดิฉันที่อายุมากหน่อยกลับมาเล่นกันเยอะ เพราะลูกๆโตหมดแล้ว และอยากฝึกสมอง ขณะที่ในระดับนานาชาติ เด็กรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจกับการเล่นบริดจ์ อย่างทีมที่ชนะการแข่งขันบริดจ์ระดับโลกปีล่าสุด อายุเฉลี่ยแค่ 28 ปีเท่านั้น

ผ่านสนามแข่งขันมาก็เยอะ แข่งซีเกมส์ครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นและกดดันไหมคะ

เป็นอะไรที่เครียดมาก และท้าทายมาก ที่ผ่านมาเราแข่งในฐานะทีมชาติบริดจ์ก็จริง แต่ไม่มีใครจับตาดูแบบนี้ แข่งกันเองในกลุ่มคนเล่นบริดจ์ แต่การแข่งขันในซีเกมส์ครั้งนี้ เป็นมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาค ทุกคนคาดหวังว่าเราจะคว้าเหรียญทองให้ประเทศเพิ่ม ทำให้กดดันมาก โอ้โห!! นอนไม่หลับเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่การแข่งขันบริดจ์ถูกบรรจุในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ เนื่องจากประเทศเจ้าภาพคือ อินโดนีเซีย ส่งเสริมกีฬาบริดจ์มาก เพราะถือเป็นกีฬาที่ช่วยพัฒนาสมองให้เยาวชนต้องใช้สมาธิสูง ฝึกความจำ และการวิเคราะห์ ที่สำคัญ ต้องสื่อกับคู่ของเราได้ด้วย เพราะต้องเล่นเป็นคู่ รัฐบาลอินโดนีเซียถือว่าองค์ประกอบเหล่านี้คือเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพเยาวชน มีการบรรจุกีฬาบริดจ์เข้าไปในหลักสูตรการศึกษาระดับประถม-มัธยม และเล่นกันแพร่หลาย 5-6 หมื่นคน อินโดนีเซียลงทุนกับเรื่องนี้มาก ถึงขนาดที่รัฐบาลจ่ายค่าเลี้ยงดูพิเศษให้เป็นปี มีหอพักให้อยู่ และให้เข้าแคมป์ฝึกฝนความแกร่ง ซึ่งผลลัพธ์ก็น่าพอใจมาก เพราะปีนี้ทีมหญิงของอินโดนีเซียได้เข้าชิงชนะเลิศในเวทีระดับโลกที่ฮอลแลนด์เป็นครั้งแรก

มีเวลาเตรียมตัวก่อนแข่งขันมากน้อยแค่ไหน

ประมาณ 6 เดือน โดยบังคับว่าต้องซ้อมให้ได้ 300 ชั่วโมง เราไปแข่งกัน 18 คน รวม 3 ทีม คือ ทีมชาย, ทีมหญิง และทีมผสมชาย-หญิง แข่งประเภทหนึ่ง 3 วัน ทีมของเราชิงกับฟิลิปปินส์ การแข่งขันครั้งนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยทั้งคนเล่นและคนลุ้น มีการถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์ เห็นหมดว่าใครเล่นอะไรยังไงบ้าง

วินาทีที่เพลงชาติไทยกระหึ่ม และได้นำทีมขึ้นรับเหรียญทอง รู้สึกภูมิใจมากไหมคะ

โอ้โห!! ซึ้งมาก มีความภูมิใจมากที่สุดในชีวิต เพราะเป็นครั้งแรกที่ขึ้นรับเหรียญทองบนเวทีแข่งขันใหญ่ขนาดนี้ ดิฉันแข่งมาเป็นร้อยหน แต่ไม่เคยตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ เพราะนี่คือมหกรรมซีเกมส์

...



ปีนี้อายุ 67 แล้ว มีเคล็ดลับอย่างไรทำให้ฟิตแอนด์เฟิร์มทั้งกายและใจ

ดิฉันสนุกกับงานทุกอย่างที่ทำ ตอนนี้สนุกกับการทำโครงการอบรมครูเพื่อสร้างโรงเรียนไทยสู่ความเป็นเลิศ โดยจัดทีมงานไปอบรมครูในโรงเรียนนำร่องของ กทม.เพื่อพัฒนาครูให้มีคุณภาพ เปลี่ยนวิธีการสอนนักเรียนโดยใช้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ แทนที่ครูเป็นคนสั่ง โครงการนี้ริเริ่ม 6 ปีที่แล้ว เพราะไม่เห็นด้วยที่ผู้ปกครองส่งลูกไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ตั้งแต่อนุบาล ดิฉันคิดว่า 10 ปีแรกของชีวิต เด็กไทยควรอยู่ในสังคมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีไทย จากนั้นค่อยไปเรียนภาษาอังกฤษก็ไม่สาย ทุกวันนี้คนไทยกำลังยกให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาเอก และภาษาไทยเป็นภาษารอง ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก เพราะในอนาคต คนที่มีความพร้อมที่สุดในสังคมไทยจะไม่รับราชการ เพราะภาษาไทยไม่เก่งพอ คนที่ไม่ได้เริ่มต้นจากสังคมไทยแท้จริง อนาคตพวกเขาจะมีความผูกพันกับไทยจริงหรือเปล่า จะเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศชาติหรือเปล่า หรือจะดูถูกคนไทย อันนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ ดิฉันคิดว่า ฝรั่งที่มาสอนตามโรงเรียนนานาชาติไม่ใช่ครูที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นน่าจะทำเหมือนสมัยก่อนไม่ดีกว่าเหรอ เรียนภาษาไทยเรียนประวัติศาสตร์ไทยให้แน่นจนถึงอายุ 10 ขวบ แล้วค่อยส่งลูกหลานไปเข้าโรงเรียนประจำที่เมืองนอก เด็กๆจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและธรรมเนียมที่ถูกต้องของฝรั่งจริงๆ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ลืมรากเหง้าความเป็นไทยด้วย เราสร้างครูรุ่นใหม่ไปได้ 5-6 ร้อยคนแล้ว การสอนวิธีนี้ทำให้เด็กกล้าพูดกล้าแสดงออก ไม่เอาแต่ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง

สำคัญที่สุดคือ เราต้องลืมว่าเราอายุเท่าไหร่ (หัวเราะ) สมัยนี้ไม่ต้องคิดว่าอายุเท่าไหร่ ให้คิดว่าเราสามารถทำอะไรได้ แต่ก็ต้องรู้ตัวว่าคงกระโดดโลดเต้นเหมือนสมัยก่อนไม่ได้ เวลาเดียวกัน ก็ไม่ทำให้เป็นอุปสรรคว่าฉันแก่เกินไปทำโน่นทำนี่ไม่ได้ สมัยก่อนดิฉันเคยเต้นรำ แต่มีปัญหาปวดหลังจากการเล่นบริดจ์ เลยต้องเลิกเต้นรำไป และหันมาเดินบนลู่วิ่งอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ช่วงหลังก็มาเล่นพิลาทิสด้วย เมื่อเหงื่อออกทำให้สบายตัว ร่างกายแข็งแรง พลอยทำให้จิตใจแฮปปี้ไปด้วย.

...