ความเชื่อเรื่องวิญญาณของคนแต่ละชาติย่อมแตกต่างกันไป ซึ่งวิญญาณแต่ละตัวก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามความเชื่อ เชื้อชาติและสถานที่กำเนิดนั้น และเพ่ือให้อินกับกระแสฮาโลวีน ไทยรัฐออนไลน์จึงขอยกตัวอย่างผีหลายชนชาติมาให้รู้จักกัน
ผีฝรั่ง
แวมไพร์ ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยแวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ แต่มักหลบซ่อนอยู่ในโลง หรือในหลุมตอนช่วงเวลากลางวัน ซึ่งมีความสามารถพิเศษมากมาย อาทิ สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน แต่สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนต์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม ส่วนวิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ ด้วยตำนานข้างต้นนี้ ช่วยสร้างสรรค์แต่งเติมให้เรื่องราวแวมไพร์ จากเรื่องสยองขวัญเป็นภาพยนตร์แสนโรแมนติก อย่างเรื่องทไวไลท์ ที่กอบโกยรายได้พุ่งทะลุหลายล้านดอลลาร์ในทุกภาคที่เข้าฉายเลยทีเดียว
...
ผีญี่ปุ่น
สาวปากฉีก หรือคุชิซาเกะอนนะ เป็นผีญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอีกตนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะปากฉีกถึงใบหู มักสวมผ้าคลุมหน้า แล้วถามเหยื่อว่าฉันสวยไหม?? ที่มาของชื่อสาวปากฉีกนั้นมีอยู่ว่า เดิมทีตอนเป็นมนุษย์เคยเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่งนัก จนได้เป็นถึงภรรยาของซามูไรที่มีชื่อเสียง แต่โชคร้ายที่สามีของเธอ สงสัยว่าเธอจะไปมีชู้ ด้วยความโกรธจึงใช้ดาบคาตานะ ตัดปากของเธอจนฉีกถึงใบหู เพื่อทำลายความงามของเธอ พร้อมทั้งถากถางว่า อย่างนี้แล้วใครจะคิดว่าเธองดงามอีก เมื่อสาวปากฉีกตายไป จึงกลายเป็นวิญญาณพยาบาท ชอบยืนอยู่ริมถนน ในช่วงเย็นถึงค่ำ และจะสวมผ้าปิดปากไว้ พอใครเดินผ่านมาจะเข้าไปทัก แล้วถามว่า ฉันสวยไหม? ถ้าได้รับคำตอบที่น่าพอใจ สาวปากฉีกก็จะหนีหายไป แต่ถ้าเหยื่อตกใจกับลักษณะปากที่น่าเกลียดน่ากลัวล่ะก็ จะได้โดนตามล่าตัดปากให้ฉีกเหมือนกับเธอ
ผีจีน
คนไทยมักรู้จักในชื่อ "ผีกองกอย" ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ ท่ากระโดดไปมา พร้อมกับสวมชุดขุนนางในสมัยราชวงศ์ชิง แต่แท้จริงแล้วผีกระโดดของจีนเรียกว่า "เจียงซือ" และไม่ใช่วิญญาณมาหลอกหลอนแต่เป็น "ศพเดินได้" โดยในสมัยนั้นเป็นช่วงปฏิรูปการเมืองการปกครองของจีน จึงมีขุนนางถูกฆ่าเป็นจำนวนมาก ศพจึงต้องแต่งตัวด้วยชุดขุนนางประดับยศ และด้วยความแค้นของดวงวิญญาณ จึงทำให้เกิดความเฮี้ยน ศพจึงลุกขึ้นมากัดกินคนเป็นๆ ล่าเหยื่อ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ แวมไพร์ของฝรั่งนั่นเอง
ผีไทย
ถ้าพูดถึงผีที่คนไทยรู้จักกันดี ต้องยกให้ "แม่นาคพระโขนง" เพราะไม่ว่าจะสร้างเป็นละครหรือภาพยนตร์ ไม่รู้ตั้งกี่เวอชั่น ก็ยังหลอนชวนผวา และเรียกเรทติ้งจากผู้คนได้ดีเยี่ยม ซึ่งเรื่องราวของแม่นาคพระโขนง มีเรื่องราวอิงจากเรื่องจริงในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่มีความรักมั่นต่อสามีหรือ "พี่มาก" ซึ่งเดินทางไปทำหน้าที่่เพื่อชาติที่บางกอก จำต้องทิ้ง "นางนาค" ภรรยาที่กำลังท้องอ่อนๆ ไว้ที่บ้าน จนเมื่อเวลาผ่านไป นางนาคเจ็บท้องคลอด แต่ลูกในท้องจากเธอกลับไม่ยอมกลับหัว และสุดท้าย นางนาคสิ้นใจพร้อมกับลูกในท้อง จึงถูกเรียกว่า "ผีตายทั้งกลม" จะออกมาหลอกหลอนชาวบ้านทุกคน ที่บอกให้นายมากรู้ว่าตนตายไปแล้ว
...
เรื่องวิญญาณเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณว่า เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ฟังไว้ไม่ลบหลู่ น่าจะดีที่สุด