“ดวงตา” นอกจากจะเป็นหน้าต่างของหัวใจแล้ว ยังสามารถบ่งบอกอายุที่แท้จริงของคุณได้ ชนิดปิดยังไงก็ไม่มิดค่ะ  ใครต่อใครไม่ว่าจะหญิงหรือชายจึงควรดูแลทะนุถนอมผิวรอบดวงตาให้ดี เพื่อที่อายุจริงของผิวจะได้ดูอ่อนกว่าอายุตามบัตรประชาชน  ผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมาก จึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน การทาครีมบำรุงเข้มข้นที่ทำมาเพื่อผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ และที่สำคัญเราต้องไม่ทำร้ายผิวรอบดวงตาด้วยการขยี้ตาแรงๆอย่างเด็ดขาด

แต่ถึงอย่างไรเมื่ออายุขึ้นเลข 4  คนส่วนใหญ่ก็มักจะต้องพบกับปัญหาถุงไขมันใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา  หนังตาตก คิ้วตก อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น  เพราะโครงสร้างผิวเริ่มหย่อนคล้อย คอลลาเจนเสื่อมสภาพไม่สามารถพยุงโอบอุ้มไขมันใต้ชั้นผิวหนังได้ดีเหมือนเมื่ออายุยังน้อย ทำให้ใบหน้าดูเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ดูไม่สดใส จะแต่งหน้าอย่างไรก็ดูไม่ดีขึ้น ทางออกของปัญหานี้หากไม่อยากผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาออก เพราะต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด หรือแผลเป็นที่อาจเกิดขึ้นได้  ปัจจุบันมีวิธีที่ทำให้ดวงตากระชับตึงได้อย่างดูเป็นธรรมชาติได้หลายวิธี  แต่ละวิธีก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน จึงต้องอาศัยแพทย์ผู้ชำนาญในการพิจารณาเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหา ลองมาดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนบ้างและเหมาะกับปัญหาแบบไหน

เริ่มต้นที่เทอร์มาจ เทอร์มาจเป็นพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง ส่งพลังงานลงไปที่ชั้นคอลลาเจนลึก ทำให้คอลลาเจนที่มีลักษณะเป็นเกลียวหดกลับและขึงตึงขึ้น ทำให้ผิวชั้นบนๆ กลับมาตึงกระชับได้  จึงเหมาะกับผิวที่มีเนื้อมากหน่อย ทำแล้วก็จะได้รูปสวยงาม ในกรณีที่ผิวไม่ค่อยมีคอลลาเจน หรืออาจพูดให้ดูง่ายขึ้นคือผิวมีเนื้อน้อย การทำเทอร์มาจก็อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร 

ถัดมาก็เป็นเทคโนโลยีที่ชื่อว่า อัลเธอรา ซึ่งเป็นพลังเสียงความถี่สูงให้พลังงานลงลึกกว่าชั้นของเทอร์มาจ ลงไปถึงชั้นพังผืดที่ลองรับคอลลาเจนและไขมันไว้  เป็นพังผืดที่อยู่ติดกับกล้ามเนื้อ อัลเธอราจะส่งพลังงานลงไปเก็บพังผืดที่ยืดย้วยให้กลับมาขึงตึงอีกครั้ง แก้ปัญหาหนังตาตก หนังตาล่างหย่อนยาน คิ้วตกได้อย่างดี ทำให้ตาโตขึ้น คิ้วยกขึ้น ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาในเรื่องการยกกระชับรอบดวงตา

ทั้งอัลเธอราและเทอร์มาจ ต่างก็เป็นการลงไปฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระดับลึก จึงต้องใช้ระยะเวลาให้ผิวมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทำประมาณ 2 สัปดาห์ และจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ จนหลังทำ 2 เดือน ผลที่ได้ก็จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 2 ปี  

ส่วนริ้วรอยที่ค่อนข้างลึก ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ความรู้สึก หรือรอยตีนกาที่เห็นเด่นชัด ไม่มีวิธีใดที่จะดีไปกว่าโบท็อกซ์แน่นอนค่ะ  โบท๊อกซ์ยังคงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้ริ้วรอยที่ไม่ต้องการจางหายไปทันที ดังนั้นถ้าต้องการให้ดูดีขึ้นในทันทีก็ควรมีการฉีดโบท๊อกซ์ร่วมด้วย  โดยโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่มีริ้วรอย ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย ผิวรอบดวงตาเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยจะจางไปในทันทีและจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้เวลา 2 สัปดาห์ ผลจะอยู่ได้นานราว 6 เดือน

นอกจากนี้สำหรับผิวย่นๆใต้ตา ล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า NanoPrime ที่ช่วยเพิ่มสารอุ้มน้ำและคอลลาเจนในผิวชั้นบนๆ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ช่วยลดรอยคล้ำ และริ้วรอยเล็กๆใต้ตา ดวงตาที่อ่อนล้าก็จะกลับมาดูสดใส เปล่งปลั่งได้อีกครั้ง

จะเห็นว่าปัญหาบริเวณเดียว มีวิธีแก้ไขมากมาย ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาของแต่ละคน เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาไม่เหมือนกัน  การเลือกใช้เทคโนโลยีว่าควรใช้อะไรในกรณีไหน จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ ตลอดจนความเข้าใจถึงจุดเด่นที่แตกต่างกันของแต่ละเทคโนโลยี  ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับสิ่งที่ดีที่สุด

วิธีทั้งหมดนี้ต้องร่วมกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ทะนุถนอมผิวบริเวณรอบดวงตาอย่างระมัดระวัง ทาครีมบำรุงผิวรอบดวงตาเป็นประจำ และที่สำคัญนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำได้แบบนี้รับรองว่าแค่ดูตาก็ไม่มีทางรู้อายุอย่างแน่นอน  เพราะดวงตาจะสดใส ทำให้ดูอ่อนกว่าอายุจริงเป็นสิบปีเลยทีเดียว

...

ข้อมูล/ภาพ : Apex profound beauty

www.apexprofoundbeauty.com